คลินตัน ทรัมพ์ และ ตลาดหุ้นโลก

เช้าวันนี้ ชาวโลกคงจะได้ดูการดีเบตระหว่างคู่แข่งขันเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐ 2 คน ระหว่างนางฮิลลารี คลินตัน อดีตภริยาประธานาธิบดี บิล คลินตัน และ นายโดนัลด์ ทรัมพ์ อดีตมหาเศรษฐีเพลย์บอย ที่มีคดีความทางธุรกิจสารพัด


พลวัต 2016 : วิษณุ โชลิตกุล

 

เช้าวันนี้ ชาวโลกคงจะได้ดูการดีเบตระหว่างคู่แข่งขันเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐ 2 คน ระหว่างนางฮิลลารี คลินตัน อดีตภริยาประธานาธิบดี บิล คลินตัน  และ นายโดนัลด์ ทรัมพ์ อดีตมหาเศรษฐีเพลย์บอย ที่มีคดีความทางธุรกิจสารพัด 

คนแรกเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต คนหลังเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน

นางฮิลลารี คลินตัน มีปูมหลังสวยสดงดงาม ได้ชื่อว่าเป็น ”เด็กปั้น” คนสำคัญของกลุ่มทุนใหญ่และนักคิดที่อยู่เบื้องหลังการเมืองอเมริกันมาตลอด 100 ปีนี้คือ CFR แต่มีจุดอ่อน 2 จุด คือเป็นสตรีเพศคนแรกที่เข้ามาสู่เรดาร์ทางการเมืองระดับสูงสุดของสหรัฐเช่นนี้  และมีนโยบายที่ไม่ดึงดูดใจมากเพียงพอสำหรับคนอเมริกันที่ต้องการความแปลกใหม่

นายโดนัลด์ ทรัมพ์นั้น ไม่ได้มีปูมหลังโดดเด่นอะไร นอกเหนือจากการนำเสนอประเด็นที่ ”สะใจ” กลุ่มคนอเมริกันขวาจัดบางกลุ่ม แต่ในความโดดเด่น ก็แอบแฝงไว้ด้วยความสุ่มเสี่ยงแบบ ”มาเวอริก” ที่ชวนให้สุ่มเสี่ยงมากมายไว้ด้วย

ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดีเบตครั้งนี้  นอกเหนือจากบุคลิกภาพในการดีเบตที่จะปรากฏตัวกลางแสงไฟจ้าและหน้ากล้องโทรทัศน์แล้ว สิ่งที่นักลงทุนต้องการรู้จากนโยบายก็น่าจะมีความสำคัญไม่น้อย

จากการรวบรวมข้อมูลอย่างเร่งด่วน จะเห็นได้ว่า นโยบายทางเศรษฐกิจของคนทั้งคู่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดค่อนข้างมาก ซึ่งจะเป็นแนวทางที่ทำให้เราเข้าใจว่าสิ่งที่จะดีเบตกันในเช้าวันนี้ มีความหมายต่อตลาดหุ้น และตลาดการเงิน รวมทั้งเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างไรบ้าง

ดังนั้น เช้านี้ จึงขอนำมาลงเพื่อให้ผู้อ่าน “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ได้แยกแยะประเด็น ก่อนจะหลงไปกับบุคลิกภาพที่วางแผนกันมาอย่างดี บนเวทีดีเบตของคนทั้งคู่ 

 

เปรียบเทียบนโยบายเศรษฐกิจสำคัญของคลินตัน และทรัมพ์  ที่มีผลต่อตลาดหุ้น

ฮิลลารี คลินตัน

ใครได้-ใครเสีย

โดนัลด์ ทรัมพ์

ใครได้ –ใครเสีย

นโยบายภาษีรายได้บุคคลธรรมดา

ลดภาษีให้คนรายไดต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี เสียไม่เกิน 30%

คงภาษีคนรายได้ 1-5 ล้านดอลลาร์ต่อปี

เพิ่มภาษีคนรายได้มากกว่า 5 ล้านดอลลาร์ต่อปี อีกปีละ 4%

(Fair Share Surcharge)

 

 

นโยบายภาษีนิติบุคคล

ลดภาษีบริษัทอเมริกันที่คงสำนักงานใหญ่ไว้ในสหรัฐ

เพิ่มภาษีบริษัทที่ย้ายสำนักงานใหญ่ไปต่างประเทศ (inversion taxes)

คนที่รายได้ต่ำถึงปานกลางได้ประโยชน์

คนที่รายได้สูง

เสียประโยชน์(ต้องหาทางออกด้วยการออมและลงทุนที่ลดภาษีได้)

บริษัทประกันชีวิต กองทุน และตลาดทุนได้ประโยชน์ทางอ้อม

 

 

 

1.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อเมริกัน ที่ให้เช่าและขาย ได้อานิสงส์เต็มๆ

2.เพิ่มรายได้รัฐบาลอเมริกันอีกปีละ 1.1 ล้านล้านล้านดอลลาร์

นโยบายภาษีรายได้บุคคลธรรมดา

ลดภาษีรายได้บุคคลธรรมดาแบบขั้นบันไดตามรายได้ ทุกกระดับ

>225.000  เก็บ 33%

75,000-225,000 เก็บ 25%

<75,000 เก็บ 12%

 

 

 

 

 

นโยบายภาษีนิติบุคคล

ลดภาษีนิติบุคคลลงจาก 39% ลงเหลือ 15% ทั่วทั้งระบบ

หากเทียบโครงสร้างใหม่ ลดคนรายได้สูงมากกว่าคนรายได้ต่ำ

คนรวยได้ประโยชน์มากกว่า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1.งบประมาณรัฐบาลจะขาดดุลมากขึ้น

2.แรงจูงใจเข้าตลาดหุ้นของบริษัทจะต่ำลงเพราะเดิมเสียแค่เพียง 29% เท่านั้น เป็นผลเสียต่อตลาดหุ้น 

นโยบายแรงงาน

เพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านภาษีหลายรูปแบบ รวมทั้ง tax credit แก่ธุรกิจที่ส่งเสริมการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์และนวัตกรรมด้านเงินลงทุนใหม่ๆ

 

บริษัท คนงาน และสถาบันการเงินเจ้าหนี้ ได้รับประโยชน์แบบกระจายตัวทุกกลุ่ม

นโยบายแรงงาน

ไม่มีความชัดเจน นอกจากเพียงแค่ว่าจะส่งเสริมการจ้างงานในธุรกิจเหมืองแร่ และเกี่ยวเนื่องกับพลังงาน ที่มีการจ้างงานลดลงในหลายปีนี้

ไม่ชัดเจนในคำมั่นสัญญาว่าจะรักษางาน 2 ล้านคนให้ชาวอเมริกัน

นโยบายตลาดหุ้น

เข้มงวดกับมาตรการปล่อยเงินทางอ้อมที่ฉ้อฉลของสถาบันการเงินให้กับภาคธุรกิจ เพื่อหลบเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน

 

ให้ลดเงินค่าปรับผู้บริหารสถาบันการเงินและบริษัทมหาชนที่กระทำความผิดกติกาลง

เพิ่มอำนาจในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กำกับดูแลสถาบันการเงิน และตลาดทุน

 

ผ่อนปรนให้ภาระของผู้บริหาร บจ.และสถาบันการเงินที่ทำผิดเบาบางลง

นโยบายตลาดหุ้น

จะยกเลิกกฎหมาย Dodd-Frank เพราะทำให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อยากขึ้นมาก ทำให้การจ้างงานไม่เพิ่ม

เน้นช่วยผู้บริหารธนาคารก่อน ช่วยการจ้างงานทีหลัง

 

ลดอำนาจหน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงินลง และลดการปกป้องผู้บริโภคลง

 

นโยบายการคลัง

จะทุ่มเงินงบประมาณภายใน 5 ปีลงทุนสร้างสาธารณูปโภค 275,000 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะสนามบิน รักษาสภาพแวดล้อม และไว-ไฟในชนบททั่วประเทศ

สร้างงานในภาคเศรษฐกิจที่จำเป็น

นโยบายการคลัง

ทุ่มงบประมาณภายใน 5 ปี มูลค่า 500,000 ดอลลาร์ เพื่อสร้างสาธารณูปโภค แต่ไม่มีรายละเอียดโครงการ

สร้างงานตามสูตร แต่ไม่มีรายละเอียด

 

Back to top button