เรื่องนี้…ต้องตามไปดูโมนิก้าและทีมงาน
*วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ “โมนิก้า” ตั้งใจจะเม้าท์ถึงเรื่องฮาๆ เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดของผู้คนในแวดวงตลาดหุ้น หลังจากเพื่อนสนิทมิตรสหายรับรู้ถึงท่าทีที่แข็งกร้าวของ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นยุคทำอะไรก็ผิดไปหมด แต่สุดท้ายเดี๊ยนก็ต้องมองข้าม MV สุดฮอตฮิตอย่าง Pen-Pineapple-Apple-Pen หรือที่รู้จักกันในชื่อ PPAP ซึ่งกำลังเป็นที่กล่าวถึงทุกหย่อมหญ้า เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยสำคัญกว่าเจ้าค่ะ
*วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ “โมนิก้า” ตั้งใจจะเม้าท์ถึงเรื่องฮาๆ เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดของผู้คนในแวดวงตลาดหุ้น หลังจากเพื่อนสนิทมิตรสหายรับรู้ถึงท่าทีที่แข็งกร้าวของ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นยุคทำอะไรก็ผิดไปหมด แต่สุดท้ายเดี๊ยนก็ต้องมองข้าม MV สุดฮอตฮิตอย่าง Pen-Pineapple-Apple-Pen หรือที่รู้จักกันในชื่อ PPAP ซึ่งกำลังเป็นที่กล่าวถึงทุกหย่อมหญ้า เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยสำคัญกว่าเจ้าค่ะ
*เหตุดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมาสืบสาวราวเรื่องดังกล่าวด้วยตนเองอีกครั้ง (ผู้คนในตลาดหุ้นต่างหุบปากเงียบกันหมด เพราะกลัวอาญาสิทธิ์ของกฎหมายปิดปาก) ซึ่งอาจเป็นมุมมองที่ถูกใจใครบางคน แต่ในขณะเดียวกันอาจรู้สึกขัดหูขัดตาใครบางคน จึงขอประทานโทษอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้ หากกระบวนการทางความคิดของอีฉันไปทิ่มแทงใจดำของบางท่าน จนรู้สึกเจ็บกระดองใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนพะยะค่ะ
*เนื่องจากท่าทีที่เหมือนจะไปได้สวยของดัชนีตั้งแต่ช่วงเช้า แถมมีการเคาะขวาวนไปมาหลายรอบ ก่อนจะหันหลังกลับมาเคาะซ้ายถี่ๆ จนดัชนีรูดลงมากองที่ 1,489.39 จุด ลบไป 0.75 จุด ด้วยมูลค่า 3.46 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ช่วงเช้าขึ้นไปถึงระดับ 1,498.20 จุด “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ทิ้งปริศนาให้คิดมากพอสมควรว่า วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น! นักลงทุนถึงตะเหลิดเปิดเปิงกันได้ขนาดนี้เจ้าค่ะ
*ที่สำคัญคือ หน่วยงานหลักๆ ควรออกมาพูดอะไรบางอย่างได้แล้ว และควรเลิกอมพะนำอะไรบางอย่างที่รู้ได้แล้ว เพราะข่าวสารของตลาดหุ้นกำลังจะถูกปิดประตูพร้อมกับใส่กลอนในไม่ช้า ซึ่งจะทำให้ผู้คนเกิดอาการงงเป็นไก่ตาแตกมากขึ้น “โมนิก้า” ถึงได้แต่นั่งทอดถอนหายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พอมานึกดูอีกทีก็พบว่า ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป นิสัยชอบเผือกมันคงเลิกกันไม่ได้ง่ายหรอกค่ะ…อิอิอิ
*เหมือนกับเรื่องของผู้คนในแวดวงโบรกเกอร์ มันเป็นอะไรที่ผู้คนสนใจอย่างล้นหลาม ซึ่งเห็นได้จากจำนวนผู้คนกว่า 10,000 คนเข้ามาดูเว็บไซต์ข่าวหุ้น www.kaohoon.com เกี่ยวกับหัวข้อการโยกย้ายถิ่นทำมาหากินของ “เจ๊บุญพร” กับ “เฮียโฆษิต” ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารแถวหน้าของ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ หรือ MBKET มันเป็นเรื่องที่เดี๊ยนต้องเผือกอย่างรวดเร็วพะยะค่ะ
*ว่ากันว่า การจากกันครั้งนี้ก็จบไม่สวยสักเท่าไหร่? เพราะมีการล็อกห้องหลังจากมีการพูดคุยกันเสร็จสิ้น ซึ่งเป็นที่มาของข่าวลือให้หยุดปฏิบัติงานในทันที ซึ่งจนป่านนี้ก็ยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่ทำให้วงแตก และถ้าย้อนความกลับไปในช่วงที่รุ่งโรจน์ของพวกมนุษย์ทองคำค่ายนี้ มักจะมีคำพูดที่อี๋อ๋อจนเกิดอาการคลื่นไส้อยากจะอาเจียน พอถึงวันที่ผลประโยชน์ไม่ลงตัว…พวกท่านก็ด่าลับหลังกันอย่างสนุกสนานเลยแหละ
*เผอิญคนอย่าง “โมนิก้า” ไม่ชอบเลือกข้าง และชอบพูดเรื่องจริงมากกว่าเรื่องสตอเบอรี่ จึงต้องโฟกัสเรื่องดังกล่าวไปยังที่ “เฮียมนตรี” อีกหนึ่งคน เพราะเป็นหนึ่งในคนเดินเรื่องที่สำคัญ และยังมีผู้คนมากมายพูดพาดพิงอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งเนื้อหาใจความที่พอปะติดปะต่อได้ในช่วงเวลาไม่กี่อึดใจก็คือ ทั้งคู่ชอบซดเกาเหลากันเป็นประจำ แต่ละฝั่งพยายามอวดเบ่งบารมี เพื่อข่มอีกฝั่งให้อยู่ภายใต้อาณัติเป็นประจำ…เมื่อเหตุการณ์เดินมาถึงทางที่ต้องเลือก โดยมีผลประโยชน์เป็นตัวล่อแบบนี้…ในอนาคตคงได้เห็นการขับเคี่ยวที่ดุเดือดเลือดพล่านของ บล.หยวนต้า อย่างแน่นอน…งานนี้บอกได้แค่ว่า โปรดติดตามตอนต่อไป…555
*ไหนๆ เม้าท์ถึงหุ้นร้อนๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเอ่ยถึงหุ้น CWT ของ “เสี่ยวีระพล” เพื่อเปิดออฟชั่นให้กับพวกขาลุยสักหน่อย หลังหุ้นของคุณพี่พยายามยกตัวสูงขึ้นตลอดเวลา และสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็มาจากเรื่องโรงไฟฟ้าขยะ ซึ่งดีลหลายอย่างคืบหน้าไปมาก และวันนี้สะท้อนกลับมาที่ตัวหุ้นด้วยการไล่ราคากันระเบิดเถิดเทิง วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาติดในกระดาน most active ก่อนจะลงเอยที่ราคา 4.58 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่า 760 ล้านบาท มันธรรมดาซะที่ไหน!
*เช่นเดียวกับในรายของน้องแอนแอ๊น ANAN กระชากขึ้นมาปิดที่ 4.90 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 5.15% ด้วยมูลค่า 335 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่ทำให้นักเล่นต้องมาเซ็ทเกมอีกรอบว่า ยังเล่นเกมบุกได้ต่อไหม? และคำตอบที่ได้จากหลายฝ่ายก็พูดไปในทางเดียวกันว่า ต้องใส่ให้สุดซอย เพราะสถานการณ์ในวันนี้ แตกต่างจากวันวานอย่างสิ้นเชิงนะคะ
*เหมือนกับในรายของ ITEL กลายเป็นหุ้นที่เดี๊ยนชอบพูดถึงเป็นประจำไปเสียแล้ว และไม่เคยหวาดหวั่นว่าราคาหุ้นจะทรุดตัวลงไปลึก เพราะของมันเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า นี่คือหุ้น growth stock ที่ควรค่าแก่การลงทุนทุกประการ บวกกับแผนธุรกิจในการสร้างรายได้มีหลายช่องทาง แถมแต่ละช่องทางก็เป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น การที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 9.25 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 10.80% ด้วยมูลค่า 450 ล้านบาท มันไม่ได้สูงเกินไปเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 59 และไตรมาส 1 ปี 60 รายได้จะไหลมาเทมา…จริงหรือไม่ คอยดูฝีมือ “เสี่ยเก็ท” แล้วกัน…อิอิอิ
*ป.ล.วันนี้วอลุ่มหดหายไปเยอะก็จริง แต่ยังมีหุ้นบางตัวที่มีผลงานโดดเด่น ซึ่งเป็นโอกาสทองของการเข้าทำ แถมผู้บริหารเหล่านั้นก็พร้อมชนกับสิ่งที่ไม่เป็นธรรมทุกเมื่อ จึงอย่าไปกลัวในที่สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เพราะคนยิ่งหวาดกลัวเยอะเท่าไหร่ ยิ่งทำให้คนอื่นหวาดกลัวตามไปด้วยมากขึ้นเท่านั้นเจ้าค่ะ