TACC เหาฉลามเลี่ยมทองแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ใครเลยจะคิดว่า พื้นที่ในร้านคอนวีเนียนสโตร์อย่าง 7-Eleven ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL จะกลายเป็นพื้นที่เปิดกว้าง สำหรับการสร้างรายได้และทำกำไรที่นับวันจะเติบโตอย่างน่าตื่นใจของบริษัทมหาชนจดทะเบียนอย่าง บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ไปได้


ใครเลยจะคิดว่า พื้นที่ในร้านคอนวีเนียนสโตร์อย่าง 7-Eleven ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL จะกลายเป็นพื้นที่เปิดกว้าง สำหรับการสร้างรายได้และทำกำไรที่นับวันจะเติบโตอย่างน่าตื่นใจของบริษัทมหาชนจดทะเบียนอย่าง บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ไปได้

2 ผู้บริหารของบริษัทที่มีอนาคตยาวไกล อย่างนายชัชชวี วัฒนสุข หรือ “เสี่ยปลา” ประธานกรรมการบริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่สุด และ นายชนิต สุวรรณพรินทร์ กรรมการผู้จัดการ สามารถทำให้เกิดขึ้นได้…จะบอกว่าน่าอัศจรรย์ก็ดูเกินไป แต่มันก็เป็นเช่นนั้น

เหตุผลก็เพราะ คนทั้งคู่…แม้จะสไตล์ต่างกัน…ร่วมกันมองเห็นระดับ “มองตาก็รู้ใจ” ในสิ่งที่นักธุรกิจคนอื่นมองข้ามไป…หรือมองไม่เห็น…หรือเห็นก็ไม่สามารถทำได้

ความสามารถพิเศษ ห้ามลอกเลียนแบบ อีกกรณีหนึ่ง

ล่าสุด หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการเข้ายึดครองพื้นที่ในสาขาต่างๆ ของ 7-Eleven นายชนิต ออกมาระบุว่า ความสำเร็จดังกล่าว เกิดจาก “การได้รับโอกาสมากกว่า” อย่างถ่อมตน

เพียงแต่คำถ่อมตนดังกล่าว ไม่ได้บอกว่าจะหยุดยั้งกับการเข้ายึดครองพื้นที่ใน 7-Eleven ส่วนที่เป็นตู้กดน้ำดื่มร้อน-เย็นอัตโนมัติ จำพวกกาแฟ และชาเขียว ที่นับวันจะขยายสาขาออกไปมากขึ้นต่อเนื่อง เท่านั้น เพราะยังมีพื้นที่อื่นที่ TACC จะเข้าไปยึดครองเพิ่มเติม…ด้วยความเต็มใจของเจ้าของร้านค้า ในลักษณะ วิน-วิน

พื้นที่ที่จะเข้ายึดครองได้แก่สินค้าอีก 2 ประเภทคือ ขนมโดนัท สไตล์ญี่ปุ่น “โดนัท อะสไมลล์” และคาแร็กเตอร์ ตัวการ์ตูนกลุ่ม Sanrio แบรนด์ดัง Hello Kitty

เรียกว่า อย่าให้มีช่องว่างเป็นอันขาด…พร้อมเสียบทันที…คงไม่ผิดความหมาย

โดนัท สไตล์ญี่ปุ่น ยี่ห้อ “อะสไมลล์” ได้รับฉันทานุมัติจาก 7-Eleven ให้เริ่มวางจำหน่ายในร้านสาขา ในราคาจำหน่ายปลีกชิ้นละ 12 บาท ในวันที่ 26 กันยายน 2559 โดยตั้งเป้ายอดขาย 30,000 ชิ้นต่อวัน และหากได้รับการตอบรับที่ดีบริษัทสามารถส่งสินค้าไปวางจำหน่ายเพิ่มได้สูงสุด 50,000 ชิ้นต่อวัน

ส่วนสินค้าคาแร็กเตอร์ ตัวการ์ตูนกลุ่ม Sanrio นั้น TACC จะปูพรมวางจำหน่ายในวันที่ 29 กันยายน 2559 ได้แก่ Hello Kitty, Kerokerokeropi, Pompompurin, Bad badtz maru, My Melody โดยสินค้าที่วางจำหน่ายครอบคลุม 5 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ Stationary, Non-Food เช่น ถ้วย กระเป๋าใส่เหรียญ พวงกุญแจ Cosmetic, Beverage และ Processed Food ซึ่งบริษัทได้รับการแต่งตั้งจาก Sanrio Wave Hong Kong Co., Ltd. ให้เป็นตัวแทนเพียงผู้เดียวในไทย โดยเบื้องต้นสินค้าภายใต้ลิขสิทธิ์ Hello Kitty จะวางจำหน่ายผ่านร้าน 7-Eleven รวมกันกว่า 200 ชนิด

รายได้จากธุรกิจใหม่นี้  TACC ยังไม่ได้นำมาคิดรวมในประมาณการรายได้…แต่ไม่ใช่ปัญหาเพราะว่า เพียงแค่น้ำดื่มอย่างเดียว ก็นับเงินไม่หวาดไม่ไหว

TACC มั่นใจว่าตลอดทั้งปีนี้ จะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,006 ล้านบาท จากโดยเป็นการเติบโตจากธุรกิจเครื่องดื่มเป็นหลัก เพราะจะสามารถติดตั้งเครื่องกดเครื่องดื่มร้อนอัตโนมัติ ได้ครบ 500 สาขา จากปัจจุบัน 259 สาขา ขณะที่มุมกาแฟสด ALL CAFE จะสามารถขยายได้ครบ 4,000 แห่งตามแผน เพื่อรองรับการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ…รวมทั้งที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าที่กัมพูชาอีก

นี่ยังไม่นับรายได้ที่จะเริ่มรับรู้จากการคาดว่า ภายในเดือนตุลาคมนี้ จะเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มทุเรียน และมะม่วง แบรนด์ “สวัสดี” ในจีนเสียที หลังจากล่าสุดเพิ่งจะแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสินค้าเรียบร้อย

มุมมองที่เฉียบแหลมชนิด ”เหาฉลามเรียกพี่” อย่างนี้ ทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักลงทุน ”ตาเหยี่ยว” ที่เป็นสถาบัน สนใจเข้ามาถือหุ้น TACC เพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ TACC เดินสายโรดโชว์อัพเดตข้อมูลผู้ถือหุ้น ถึงขั้นพบว่า หลังปิดสมุดทะเบียน ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2559 มีสัดส่วนกองทุนเข้ามาถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 8%

ก็ละเอียดทั้งการตลาด และรอบคอบกับการเงินเรื่องของมูลค่าผู้ถือหุ้นอย่างนี้…ไม่น่าประหลาดใจที่ราคาหุ้นของ TACC ยามนี้ จึงไม่ยอมร่วงลงต่ำกว่า 8.50 บาท…เนื้อหอมไปอีกแบบ

กองทุนบางรายไม่มีเหนียมอาย รุกคืบเข้าประตู ถึงขั้นขอซื้อหุ้นบริษัท ผ่านทำรายการบิ๊กล็อตดื้อๆ…แต่ทางผู้ถือหุ้นใหญ่ยังคงใจแข็ง ยืนหยัดบอกไปว่า ไม่มีนโยบายที่จะขายหุ้นที่ถือออก…อยากได้ต้องซื้อในกระดานเอาเอง เท่านั้น

มือกำลังขึ้น ก็ต้องมีเล่นตัว…ไม่น่าเกลียดอะไรเลย…กลับน่ารักไปอีกแบบ

ก็ตอนนี้ เหาฉลามเลี่ยมทอง แล้วนี่นา…

“อิ อิ อิ”

Back to top button