สังคมข่าวหุ้นนิวส์เวฟ
ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,479.58 จุด ปรับลดลง 9.81 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 3.8 หมื่นล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,479.58 จุด ปรับลดลง 9.81 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 3.8 หมื่นล้านบาท
* เมื่อวานกลุ่มเข้าซื้อสุทธิได้ไปสามประสาน ต่างชาติเข้าเก็บเยอะสุด 766 ล้านบาท ต่อด้วยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 342 ล้านบาท และรายย่อย 324 ล้านบาท ส่วนขาเทขายสถาบันสาดออกกระจุย 1,433 ล้านบาท
* ภาวะตลาดหุ้นไทยแบบนี้ทำเอาหลายคนอึดอัดไม่เบา จะร้ายก็ร้ายไม่สุด แต่จะดีก็ดีไม่สุดเช่นกัน
* จึงยังคงเน้นย้ำถึงการลงทุนในกลุ่มหุ้นที่มีสตอรี่หนุนราคาชัดเจน เช่นเดียวกับบางหุ้นที่ไหลลงแล้วพอสมควร
* ถือเป็นโอกาสทยอยเข้าเก็บหุ้น ย้ำว่า ทยอยเข้าเก็บนะ ไม่ใช้เทเงินรวดเดียวจนหมดหน้าตัก
* เอาละเริ่มกันด้วยกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจมากสุดตอนนี้ คือ ธุรกิจถ่านหิน
* เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มหุ้นที่สถานการณ์และทิศทางตลาดเข้าสู่ช่วงดีขึ้นแบบชัดเจน
* โดยขณะนี้ราคาถ่านหินวิ่งทำนิวไฮในรอบ 2 ปี งานนี้ กลายเป็นเซนติเมนท์บวกเต็มๆ ต่อหุ้น BANPU-EARTH-AGE
* แต่ขอเลือกเน้นน้ำหนักไปที่ BANPU และ EARTH เป็นหลักเพราะถือเป็นสองบริษัทที่มีตลาดและฐานลูกค้าอยู่ที่จีนมาก
* เนื่องจากจีนออกมาตรการคุมถ่านหินของผู้ผลิตในประเทศ จนทำให้หลายเหมืองคุณภาพต่ำในจีนต้องปิดตัวกันไป และต้องเร่งนำเข้าถ่านหินแห่งอื่นมาทดแทน * BANPU-EARTH เลยเหมือนคว้าข่าวดีกันไปแบบเต็มๆ พร้อมกับกลายเป็นโอกาสให้ขายสินค้า
* แนะนำ หาจังหวะเข้าสะสมหุ้น BANPU ช่วงราคาอ่อนตัว
* ส่วน EARTH เก็งกำไรรับผลบวกตามกระแสข่าวกันไป * ย้ายฝั่งข้ามไปธุรกิจที่กำลังอยู่ในช่วงไฮซีซั่นเต็มสูบ คือ กลุ่มโรงพยาบาล
* รอบนี้ขอเลือกแนะนำ RJH ซึ่งเป็นหุ้นโรงพยาบาลรายล่าสุดที่เพิ่งเข้าเทรดเมื่อต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา
* โดยมีประเด็นน่าจับตาแบบสุดโต่ง หลังจากล่าสุดโบรกฯ มองบวกเต็มกำลังทั้งงบไตรมาส 3 ที่มีโอกาสทำกำไรนิวไฮ
* ที่สำคัญยังมีการปรับเพิ่มฐานกำไรปี 59 สูงขึ้นไปอีก ข่าวดีเต็มมือขนาดนี้ ก็เลยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 30 บาท สูงกว่าในกระดานแบบท่วมท้น
* ขณะที่เอ็มดีบริษัท “หมอวชิระ วุฒิกุลประพัทธ์” มั่นอกมั่นใจว่า ทิศทางธุรกิจนับจากนี้จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
* เป็นผลมาจากกลุ่มลูกค้าทั้งแบบเงินสดหรือประกันสังคมหลั่งไหลเข้ามาใช้บริการคับคั่ง
* ดังนั้น โอกาสทำรายได้ทั้งปี 59 โตขึ้น 10-15% ตามเป้าหมายจะทำได้ไม่มีผิดแผนแน่นอน
* อีกหุ้นเล็กเทิร์นอะราวด์ที่ฝากไว้ให้จับตาแบบห้ามพลาดเด็ดขาดตกเป็นของ PJW
* น่าสนใจตรงที่พื้นฐานบริษัทกลับเข้าสู่ช่วงของการเติบโตเต็มที่อีกครั้ง และผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
* สะท้อนได้จากงบครึ่งปีแรกโชว์กำไรท่วม 90 ล้านบาท อัตราทำกำไรสุทธิกระฉูด 6% สูงกว่างวดปี 58 แบบเท่าตัว
* ผลบวกหลักมาจากฐานออเดอร์งานที่ไหลเข้ามาหนาแน่นต่อเนื่อง ที่สำคัญต้นทุนวัตถุดิบยังต่ำ และบริษัทมีศักยภาพบริหารจัดการได้ดียิ่งขึ้น
* แบบนี้กำไรครึ่งปีหลังเติบโตสดใสไร้กังวล ล่าสุด หุ้นถอยลงปิดที่ 2.76 บาท ซื้อขายด้วย P/E ต่ำแค่ 10 เท่า
* นับว่าเป็นจุดน่าเข้าเก็บหุ้นอย่างมาก เชื่อได้เลยว่า หลังประกาศงบไตรมาส 3 โบรกฯ เตรียมรีวิวพื้นฐานธุรกิจกันใหม่แน่
* หุ้น TACC โดดเด่นครองใจนักลงทุนในช่วงนี้จริงๆ ด้วยเทรนด์ธุรกิจที่โดดเด่นและยังมีโอกาสทำกำไรโตวันโตคืน
* ล่าสุดหุ้นหวนกลับมาปิดบวกที่ราคา 9 บาท วันนี้ก็ต้องลุ้นกันดูถ้ามีแรงซื้อเข้ามาหนุนต่อเนื่อง มีลุ้นได้ทดสอบแนวต้าน 9.20 บาท และด่านต่อไป 9.40 บาท
* ปิดท้ายหุ้นไอพีโอไซด์ใหญ่รายล่าสุด BCPG เปิดตัวเข้าเทรดวันแรกทำราคายืนเหนือจองได้สบายตลอดทั้งวัน
* ขนาดเจอภาวะตลาดหุ้นไทยกดดัน แต่ BCPG ยังรักษาฐานราคาได้แกร่งและปิดบวก 10.70 บาท เพิ่มขึ้น 7% จากราคาไอพีโอที่ขาย 10 บาท
* วันนี้ดูทรงแล้วราคาหุ้นยังมีโอกาสวิ่งไปกันต่อได้ ใครชอบหุ้นพื้นฐานดีและเน้นถือลงทุนในระยะกลาง-ระยะยาว BCPG เป็นอีกหนึ่งหุ้นชั้นดีที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด