TISCO เติบโตมั่นคง

TISCO พบว่า ภาพรวมธุรกิจ ผลการดำเนินงาน และคุณภาพสินทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปียังเป็นไปในทิศทางบวกตามที่หลายฝ่ายประเมินไว้


—คุณค่าบริษัท—             

                                                        

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO พบว่า ภาพรวมธุรกิจ ผลการดำเนินงาน และคุณภาพสินทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปียังเป็นไปในทิศทางบวกตามที่หลายฝ่ายประเมินไว้

อย่างช่วงไตรมาส 3 ปี มีการคาดการว่ากำไรสุทธิ เท่ากับ 1.26 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% จากไตรมาสก่อน และ 56% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หนุนด้วยการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม และ NIM รับอานิสงส์จากต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงต่อเนื่องอีก แม้ภาพรวมสินเชื่อสุทธิหดตัวต่อเนื่องในกลุ่มของสินเชื่อซื้อรถยนต์ทั้งใหม่และเก่า ยกเว้นสินเชื่อทะเบียนรถยนต์และสินเชื่อรายใหญ่ที่เติบโตดีต่อเนื่อง   

ด้านภาพรวมคุณภาพสินทรัพย์ NPL ปรับตัวลดลงเล็กน้อยมาที่ราว 3% ของสินเชื่อรวม คุณภาพสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ยังเห็นพัฒนาการบวกต่อเนื่อง ส่วน SME ยังไม่เสถียรนัก ทำให้คาดการณ์ credit ค่อนข้างทรงตัวที่ราว 163bp ในงวดนี้

ส่วนทิศทางของผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4 ปี 59 น่าจะเป็นไปในทิศทางบวกต่อเนื่อง ทั้งการประคองตัวของ NIM การตั้งสำรองหนี้ฯ ที่จะไม่ได้เป็นภาระกดดันกำไร (หากมี upside ของรายได้ส่วนอื่นๆ จึงนำมาเพิ่มเติมในส่วนของสำรองหนี้ฯ ส่วนเกิน) จากแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นต่อเนื่อง แม้จะเห็นการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายดำเนินงานบ้างเมื่อเริ่มเข้าช่วงฤดูกาล แต่เชื่อว่าน้ำหนักบวกยังหักล้างได้ 

ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมามีการโชว์ผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง โดยรายได้ดอกเบี้ย 3,991.01 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,263.15 ล้านบาท และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 1,237.44 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,347.73 ล้านบาท ส่วนกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,207.64 ล้านบาท หรือ1.51บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,003.96 ล้านบาท หรือ 1.25 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 มีรายได้ดอกเบี้ย 8,057.61 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน  8,636.91 ล้านบาท และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 2,576.26 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,650.23 ล้านบาท ส่วนทางด้านกำไรของบริษัทขยับขึ้นมาอยู่ที่  2,462.67 ล้านบาท หรือ 3.08 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,196.42 ล้านบาท หรือ 2.74 บาทต่อหุ้น

นอกจากนี้ เชื่อว่าภาพรวมธุรกิจในปี 2560 ยังเป็นไปในทิศทางบวกต่อเนื่องจากปี 2559 มีแรงขับเคลื่อนหลักๆ จากการเติบโตของสินเชื่อทะเบียนรถยนต์กลุ่ม high yield ภายใต้แบรนด์ “สมหวัง” ซึ่งจะสร้างรายได้เต็มที่ในปี 2560 ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จะเริ่มเห็นยอดสุทธิกลับมาเป็นบวก จากที่ติดลบต่อเนื่องใน 3 ปีก่อนหน้า

อีกทั้ง ผลบวกจากแนวโน้มค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง สอดคล้องกับคาดการณ์ NPL ที่จะลดลงต่ำกว่า 3% ของสินเชื่อรวม พร้อมกับจะเห็นการบันทึกหนี้สูญรับคืนมากขึ้น สำหรับหนี้ตัดสูญที่ดำเนินการไปมากในช่วงที่ผ่านมา ตามภาพรวมเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว ล้วนส่งผลให้คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2559 กลับมาเติบโตอย่างมีนัยฯ ถึง 18.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และต่อเนื่องอีก 10.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนในปี 2560

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 62.40 บาท อิง PBV 1.44 เท่า ตามวิธี GGM ภายใต้คาดการณ์ ROE ระยะยาวที่ 16% ราคาหุ้นปัจจุบันยังมีส่วนลดจาก PBV เป้าหมายปี 2560 และมี PER เพียง 7.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดฯ มาก คาดการณ์อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ย 5% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. CHASE NOMINEES LIMITED 115,544,318 หุ้น 14.43%

2. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 82,527,474 หุ้น 10.31%

3. CDIB & PARTNERS INVESTMENT HOLDING PTE.LTD. 80,070,320 หุ้น 10.00%

4. SATHINEE CO.,LTD. 39,482,767 หุ้น 4.93%

5. กองทุนเปิด กรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล 38,846,000 หุ้น 4.85%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย ปลิว มังกรกนก ประธานคณะกรรมการ

2.นาย ปลิว มังกรกนก กรรมการอิสระ

3.นาง อรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร

4.นาง อรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการ

5.นาย ฮอน คิท ชิงรองประธานคณะ กรรมการ

 

 

Back to top button