4 หุ้นลุ้นรับข่าวดีราคาถ่านหินวิ่ง!!
หลายปีที่ผ่านมา “ถ่านหิน” ถือเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ราคาตกต่ำยาวนานนับตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาถ่านหินหักตัวลง แรกเริ่มเกิดจากผู้ผลิตอาศัยจังหวะราคาถ่านหิน 120 เหรียญสหรัฐต่อตัน ปั๊มถ่านหินออกมาขายจำนวนมากจนเป็นเหตุให้ถ่านหินล้นตลาด
เส้นทางนักลงทุน
หลายปีที่ผ่านมา “ถ่านหิน” ถือเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ราคาตกต่ำยาวนานนับตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาถ่านหินหักตัวลง แรกเริ่มเกิดจากผู้ผลิตอาศัยจังหวะราคาถ่านหิน 120 เหรียญสหรัฐต่อตัน ปั๊มถ่านหินออกมาขายจำนวนมากจนเป็นเหตุให้ถ่านหินล้นตลาด
จากนั้นก็ให้ราคาถ่านหินถูกกระชากอย่างหนัก หลังเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีน ซบเซาลง ทำให้การนำเข้าถ่านหินทยอยปรับตัวลดลง ส่งผลให้ “เจ้าของเหมืองถ่านหิน” หรือ “ผู้ประกอบการถ่านหิน” บางรายพากันประสบปัญหา ต้นทุนสูง กำไรหด เป็นเหตุให้เหมืองถ่านหินบางแห่งจำต้องขายทิ้งกิจการ เพราะไม่เห็นว่าราคาถ่านหินจะฟื้นตัวลำบากหรือไม่
จนล่าสุดราคาหุ้นถ่านหินมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจนทำนิวไฮได้ในรอบ 2 ปี ไม่ว่าเป็น Newcastle Coal ที่ระดับ 79.50 เหรียญสหรัฐต่อตัน, Rotterdam Coal ที่ระดับ 72.25 เหรียญสหรัฐต่อตันและ Richards Bay Coal ที่ระดับ 73.35 เหรียญสหรัฐต่อตัน
ถือเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจถ่านหินที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 4 ราย อาทิ 1.บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU 2.บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH 3.บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE และ 4.บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ LANNA
กรณีที่ราคาถ่านหินมีการปรับตัวขึ้น อาจทำให้ทั้ง 4 บริษัทรับอานิสงส์ทางตรงและทางอ้อม ซึ่งลุ้นผลักดันให้ราคาหุ้นสามารถขยับขึ้นได้บ้าง หลังจากที่ราคาหุ้นกลุ่มนี้มีความเงียบเหงา และปรับตัวลงมายาวนาน
ส่วนบริษัทที่อาจได้รับผลทางตรงคงเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU โดยนักวิเคราะห์ บล.ไอร่า ยังให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 19.40 บาท เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจถ่านหินฟื้นตัวขึ้นจากการนำเข้าของจีนที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งราคาถ่านหินฟื้นตัวขึ้นอย่างโดดเด่น จนล่าสุดมาอยู่ที่ระดับ 74 เหรียญสหรัฐต่อตัน
เป็นผลจากทางจีนมีนโยบายลดชั่วโมงการทำงานของเหมืองถ่านหินในจีนลง เพื่อพยุงราคาถ่านหิน ลดภาวะโอเวอร์ซัพพลาย และลดมลพิษ อีกทั้งจีนมีนโยบายลดการผลิตถ่านหินลง 500 ล้านตัน ภายในปี 2563 ซึ่งช่วงรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา ทางจีนได้ลดการผลิตถ่านหินลงไปแล้ว จำนวน 95 ล้านตัน แต่ยังน้อยกว่าแผนที่ทางการวางไว้
ดังนั้น จากปัจจัยข้างต้นส่งผลให้การนำเข้าถ่านหินของจีนพุ่งสูงขึ้นมาก โดยตลาดคาดงวดปี 2559 จะมีการนำเข้าถ่านหินของจีนเพิ่มขึ้น 10% จากเดิมที่เคยคาดจะลดลง 3.2% และส่งผลดีเล็กน้อยต่อราคาถ่านหินในช่วงไตรมาส 4 ปี 59 ของ BANPU จำนวน 2 ล้านตันที่คิดราคาอ้างอิงกับดัชนีถ่านหิน
นอกจากนี้ จะส่งผลดีอย่างชัดเจนต่อราคาถ่านหินปี 2560 ซึ่งจะมีการทำสัญญาขายกับลูกค้าญี่ปุ่นรายใหญ่ในช่วงเดือน ต.ค.59 ซึ่งหากราคาถ่านหินสามารถยืนได้ที่ระดับนี้ คาดราคาขายถ่ายหินของ BANPU ในปี 2560 จะเพิ่มขึ้น 25% จากปี 2559 มาอยู่ที่ระดับ 60 เหรียญสหรัฐต่อตัน มากกว่างวดปีนี้ที่จะอยู่ 48 เหรียญสหรัฐต่อตันในปี 2559
โดยประเมินภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2559 จะมีกำไรสุทธิ จำนวน 1,065 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงปี 2558 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 1,534 ล้านบาท ส่วนในงวดปี 2560 คาดกำไรสุทธิของ BANPU จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4,078 ล้านบาท และงวดปี 2561จะมีกำไรสุทธิ 4,253 ล้านบาท
งานนี้ นักลงทุนจะได้เห็นราคาหุ้นกลุ่มถ่านหินปรับตัวขึ้นแน่แท้!!