NMG วิถีแห่งหยุ่นแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา มีข่าวดีและร้ายสำหรับบริษัทในเครือเนชั่นทั้งหมดเกิดขึ้นพร้อมกัน เริ่มตั้งแต่เป็นการฉลองครบรอบวันเกิดของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจของกลุ่ม ตามมาด้วยข่าวดีศาลแพ่งพระโขนงยกฟ้องคดีที่ผู้บริหารเครือนี้ นำโดยนายสุทธิชัย แซ่หยุ่น ถูกบริษัทนิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ฟ้องหมิ่นประมาท ก่อนตบท้ายด้วยข่าวร้ายจากคำสั่งก.ล.ต. ออกคำสั่งให้ 8 กรรมการและผู้บริหารบริษัทในเครือ มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหาร ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2559


วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา มีข่าวดีและร้ายสำหรับบริษัทในเครือเนชั่นทั้งหมดเกิดขึ้นพร้อมกัน เริ่มตั้งแต่เป็นการฉลองครบรอบวันเกิดของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจของกลุ่ม ตามมาด้วยข่าวดีศาลแพ่งพระโขนงยกฟ้องคดีที่ผู้บริหารเครือนี้ นำโดยนายสุทธิชัย แซ่หยุ่น ถูกบริษัทนิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ฟ้องหมิ่นประมาท ก่อนตบท้ายด้วยข่าวร้ายจากคำสั่งก.ล.ต. ออกคำสั่งให้ 8 กรรมการและผู้บริหารบริษัทในเครือ มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหาร ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2559

คำสั่งเชือดของ ก.ล.ต. ดังกล่าว อ้างถึงกรณีที่พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องกรณีบุคคลทั้ง 8 ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดในการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2557 ในเดือนเมษายน 2558 ที่มีการละเมิดกฎหมายบริษัทมหาชน และกฎหมายหลักทรัพย์อย่างโจ่งแจ้ง

คำสั่งก.ล.ต.เช่นนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก และไม่ใช่ครั้งสุดท้าย แม้จะไม่มีรายละเอียด และเต็มไปด้วยภาษากฎหมายที่สามัญมนุษย์ต้องปีนกระไดอ่านเพื่อเข้าใจ….ตามปกติแล้ว คนที่ถูกคำสั่ง ถ้าไม่ยอมรับ ก็ต้องอุทธรณ์คำสั่ง แต่ถ้ายอมรับ ก็ต้องเลยตามเลย

ผลของคำสั่ง ทำให้คนทั้ง 8 ไม่สามารถนั่งเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ และบริษัทจดทะเบียนใดๆ ตลอดระยะเวลาที่ถูกดำเนินคดีด้วย

บังเอิญ สุทธิชัย หยุ่น ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการสื่อ และพวกอีก 7 คน ไม่สามารถคิดเช่นนั้นได้…. เพราะวิถีแห่งหยุ่น ย่อมเหนือคนในสื่อ “กระจอก” อื่นๆ

คำสั่งของ ก.ล.ต.ดังกล่าว มีผลตามมาคือ ในจำนวนคนทั้ง 8 ที่ถูกคำสั่งนั้น ล้วนมีบทบาทสำคัญในการบริหารเครือเนชั่นทั้งสามบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยคือ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ NBC, บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NINE และ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป (จำกัด (มหาชน) หรือ NMG

เรียกว่า โดนกันแบบยกพวง

ตลาดหลักทรัพย์ฯจึงออกคำสั่งขึ้นเครื่องหมาย H หรือพักการซื้อขายชั่วคราว กับหุ้น 3 รายการในเครือเนชั่น ในเช้าวันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2559 และสั่งให้บริษัทชี้แจงเพื่อให้นักลงทุนกระจ่าง

แทนที่บริษัททั้ง 3 เครือเนชั่นจะทำการชี้แจง ตามเงื่อนไข กลับเลือกกระทำอีกอย่าง นั่นคือ ให้โทรทัศน์ในเครือเนชั่นทั้งหมด “ล้มผัง” (…เลียนแบบสถานีโทรทัศน์บางแห่งเลย) เพื่อให้บุคคลทั้ง 8 ที่หมดคุณสมบัติเป็นผู้บริหารไปแล้วจากคำสั่งของ ก.ล.ต. เปิดทำการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกะทันหัน

ก่อนหน้านี้ เครือเนชั่นเคยแถลงว่าจะแถลงข่าวทั้งหมดในเช้าวันที่ 10 ตุลาคม แต่เกิดเปลี่ยนใจ…โดยไม่มีใครทราบว่าการแถลงข่าววันศุกร์ที่ผ่านมา ใครมีอำนาจออกคำสั่งให้กระทำ…ซึ่งคงไม่ใช่คนทั้ง 8 แน่นอน เว้นแต่…..จุ๊ จุ๊ จุ๊

เมื่อแถลงข่าวแล้วก็ต้องอ้างถึงความชอบธรรมสารพัดในการปกป้องตัวเอง อันเป็นเรื่องปกติธรรมดา เรียกเสียงปรบมือจาก “ม็อบสื่อ” ที่นั่งฟังเป็นระยะๆ…. เสมือนปรากฏการณ์แฟลชม็อบของพวกเซเลบฯตามปกติ ก่อนลงเอยด้วยข้อสรุปว่า ก.ล.ต.ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมมากเพียงพอแก่ “คนดี” ทั้ง 8…..พร้อมกับมีการมอบช่อดอกไม้ที่เตรียมไว้ล่วงหน้าพรึ่บพรั่บ เยี่ยงวีรชนคนกล้า

สุทธิชัยและพวกรวมทั้ง 8 คน ระบุว่าการประกาศการขาดคุณสมบัติกรรมการยกชุด ยังส่งผลกระทบต่อการประกอบกิจการของเนชั่นกรุ๊ปโดยตรง ทั้งในเรื่องของเครดิตและสินเชื่อจากธนาคาร การดำเนินธุรกิจปกติที่ต้องหยุดชะงัก สร้างความเสียหายต่อเนื่องต่อธุรกิจของกลุ่มบริษัท

ขณะที่กรรมการที่เหลืออยู่เพียง 2 คนไม่สามารถจัดประชุมคณะกรรมการบริษัทให้ครบองค์ประชุมเพื่อกระทำการใดๆ ได้ตามกฎหมายอีกด้วย

พูดอย่างนี้ ถึงไม่บอกว่าเป็นการจับบริษัทเครือเนชั่นและพนักงานทั้งหมดที่เหลือ“เป็นตัวประกัน”...ก็เข้าใจกันได้ไม่ยากว่า มีนัยอย่างไร

ทั้งหมดนี้ ไม่มีการเอ่ยถึงการกระทำในวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น NMG อันอื้อฉาวแม้แต่คำเดียว…. ความชอบธรรมของหยุ่นและพวก อยู่เหนือคำอธิบายอื่นใด…ไม่รู้เพราะสโลแกน  “ผิดจากนี้ มิใช่เรา” อันโด่งดัง…. ที่สามารถตีความอีกอย่างหนึ่งว่า “ผิดจากเรา ผิดทั้งเพ”...

หลังการแถลงข่าว คนในวงการตลาดทุนตั้งคำถามทันทีว่า เมื่อค่ายสื่อเนชั่น “มีเถียง” อย่างนี้ ก.ล.ต.จะว่าอย่างไร…. เพราะที่ผ่านมา ก.ล.ต. เลือกจะเงียบมากกว่า ตามหลัก “ใช้ความสงบ สยบความเคลื่อนไหว” ที่กลายเป็นจารีต

ผิดคาดจังเบอร์… ยิ่งกว่าฟุตบอลไทยยุคปัจจุบันเอาชนะทีมชาติญี่ปุ่น 5-0 ที่โตเกียว….. เพราะบ่ายวันศุกร์นั้นเอง ก.ล.ต. แหวกจารีตสะบั้น แถลงข่าวตอบโต้สุทธิชัยและพวก ระบุว่า การกล่าวโทษนั้น“ถูกต้องและรอบคอบแล้ว”

คำชี้แจง ออกมาจากนายสมชาย พงษ์พัฒนาศิลป์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต. (อดีตผู้พิพากษาเก่า) ที่ชี้ว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของ ก.ล.ต. ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายที่มี และบุคคลทั้ง 8 ราย มีสิทธิที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายซึ่งถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมของบุคคลทั่วไปภายใต้กรอบของกฎหมาย

โดยระบุว่า “การดำเนินการของ ก.ล.ต. เป็นการปฏิบัติตามเงื่อนไขของประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่กำหนดไว้ชัดเจน ซึ่งเมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วพบว่าเข้าองค์ประกอบ บุคคลกลุ่มดังกล่าวก็จะขาดคุณสมบัติในทันที ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ ก.ล.ต. ไม่สามารถใช้ดุลยพินิจให้เป็นอื่น”

ชัดเจน ตรงไปตรงมา ผิดจากวิสัยทั่วไปของ ก.ล.ต. ในอดีต…. ถือเป็นมิติใหม่โดดเด่น

ชัดเจนอย่างนี้ มีคำถามว่า แล้วในการแถลงข่าวครั้งที่สองของคนทั้ง 8 ในสายวันจันทร์นี้ จะมีอะไร “เถียง” อีก…. นอกเหนือจากไม้ตาย…. ก.ล.ต.คุกคามสื่อ….ที่ยังไม่ได้ถูกงัดออกมา….

ที่สำคัญกว่าการชี้แจงโต้ของ ก.ล.ต. คือ บ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกคำสั่งเปลี่ยนจากเครื่องหมาย H เปลี่ยนเป็น SP หรือ ระงับการซื้อขายหุ้นเครือเนชั่นทั้งหมด ไม่มีกำหนด เพราะแม้คนทั้ง 8 จะแถลงข่าวไปแล้ว… แต่เครือเนชั่นทุกรายไม่ยอมชี้แจงเป็นทางการไปยังตลาด

ใหญ่แค่ไหนก็ไม่มีทางเลือก ตลาดหลักทรัพย์ฯต้องยึดระเบียบ เพราะ… เครือเนชั่น ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ และไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ… ผิดหลักการของบริษัทมหาชนจดทะเบียนเรื่อง full disclosure

ถามว่า “วิถีของหยุ่น” จะจบลงอย่างไร

อย่าเพิ่งคาดเดาตอนจบล่วงหน้า เพราะว่างานนี้ สาวกของ โอ เฮนรี่ ยังไม่กล้าฟันธง

รู้แค่ว่า ยามนี้ เครือเนชั่นกลายสภาพเป็น “คาวบอยไร้หัว” หรือ ( Headless Horseman) ไปกับ“วิถีของหยุ่น” เสียแล้ว… และคงเป็นอีกนานหลายวัน หรือหลายสัปดาห์

“อิ อิ อิ”

 

Back to top button