สังคมข่าวหุ้นนิวส์เวฟ

ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,406.18 จุด ปรับลดลง 36.03 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 1.3 แสนล้านบาท


ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,406.18 จุด ปรับลดลง 36.03 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 1.3 แสนล้านบาท

* เมื่อวานนี้ เรียกได้ว่าเป็น “วันแดงเดือดขนานแท้” เลือดสาดไหลท่วมบนกระดานตลอดทั้งวัน ยังดีที่ช่วงท้ายเร่งสปีดพอฟื้นตัวขึ้นมาได้ ไม่งั้นอาการสาหัสกันมากกว่านี้

* โดยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิรวมทั้งสิ้น 3,023 ล้านบาท ตามด้วยสถาบันที่สาดออก 1,224 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิไป 411 ล้านบาท ส่วนรายย่อยไม่รอช้า ตลาดลงหนักยื่นเข้าช้อนหุ้นกระจายพร้อมกับซื้อสุทธิไป 4,656 ล้านบาท

* ตลาดหุ้นไทยเอาแน่เอานอนไม่ได้แบบนี้ ขอให้นักลงทุนทั้งหลายตั้งสติพิจารณาให้ดี ต้องเคลื่อนไหวรวดเร็วและเด็ดขาด

* ถ้ายังไม่มั่นใจจริงถือเงินสดติดไว้ก่อน ยังไม่ต้องรีบร้อนสาดเงินหมดตัวเข้าเก็บ หรือถ้าจะเข้าซื้ออาจจะทยอยเก็บติดปลายนวมไว้บางส่วนก็พอ

* เริ่มกันด้วยหุ้นแรกเลือกไปที่ IRPC ก่อนเลย แน่นอนถือเป็นหนึ่งในบลูชิพที่เมื่อวานทรุดร่วงตามภาวะตลาด

* แต่ขอให้สังเกตถึงความเคลื่อนไหวราคาหุ้นระหว่างวัน ช่วงที่ลงหนักราคาต่ำสุดอยู่ที่ 4.60 บาท และสุดท้ายกลับมาปิดลบที่ 4.76 บาท กลับมาลดลงเพียงแค่ 2.86% เท่านั้น

* สะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนว่า เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่พร้อมดีดเด้งเร็วทันทีเมื่อยามที่ภาวะตลาดฟื้นตัว

* ที่สำคัญในเชิงพื้นฐานมีปัจจัยบวกสนับสนุนเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นงบไตรมาส 3 ที่กำไรออกมาแกร่ง

* และยังมีกรณีโครงการ UHV ที่เดินเครื่องสร้างกำไร รวมถึงราคาน้ำมันตลาดที่หวนกลับมาสู่ขาขึ้น

* ดังนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งหุ้นชั้นดีที่สามารถทยอยเข้าเก็บติดพอร์ตไว้ได้แน่นอน

* ต่อกันด้วยหุ้น COM7 ซึ่งเป็นหุ้นไซส์กลางที่เล่นกับกระแสข่าวและเซนติเม้นท์บวกได้เต็มสูบ

* โดยเฉพาะกรณีซัมซุงประเทศไทย ประกาศชัดเจนว่า หยุดขาย กาแลคซี่ โน้ต 7 กันแล้ว

* ดังนั้น เหมือนตัดคู่แข่งรายสำคัญออกไปจากระบบ ทำให้โอกาสที่ยอดขาย iPhone 7 จะเติบโตเด่นยิ่งชัดเจนมากขึ้น

* ดังนั้น COM7 มีฐานะเป็นหนึ่งในผู้ขายสินค้าโดยตรง ย่อมได้ผลบวกไปเต็มๆ

* นี่ยังไม่รวมโอกาสขายสินค้าอื่นๆ พ่วงตามติด เช่น พาวเวอร์แบงก์ สายชาร์จ หูฟัง ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มาร์จิ้นดีทั้งนั้น จึงขอฝากไว้ให้พิจารณากันด้วย

* ย้ายฝั่งมาที่หุ้น BEM ไม่ได้ถูกกล่าวถึงกันมานานแล้วพอสมควร

* ล่าสุด ทิศทางผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 น่าจะทำเซอร์ไพรส์ ฟาดกำไรออกมาเติบโตได้ดี

* แรงหนุนหลักมาจากการที่ BEM ในไตรมาส 3 จะบุ๊ครายได้เดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง และมีรายได้จากทางด่วนศรีรัช

* ทำให้ราคาปิดปัจจุบันที่ถอยรูดลงมาจบฉากที่ 6.55 บาท กลายเป็นจุดน่าเข้าเก็บอย่างดี

* อีกหนึ่งหุ้นที่ห้ามพลาดเด็ดขาด คือ EA เพราะหาโอกาสยากมากที่จะเจอราคาหุ้นหลุดต่ำระดับ 24 บาท * เนื่องจากเป็นหุ้นที่หลายคนกอดแน่น เพราะเหมือนมีหลักทรัพย์ที่ล็อกเป้าทำกำไรเติบโตทุกไตรมาส

* ซึ่งเมื่อวานตลาดทรุดหนัก เลยเผชิญกับความแพนิกกดให้ราคาหุ้นถอยลงมา

* ใครมีเงินทุนติดมือและกำลังมองหาหุ้นที่เติบโตมั่นคง มีสตอรี่บวกทั้งในระยะสั้น-ระยะยาว หุ้น EA เป็นตัวเลือกที่ดีเลยแหละ

* ส่วนหุ้นที่ขอแนะชะลอการลงทุนออกไปก่อน ตกเป็นของ ROJNA

* โดยเป็นผลพวงจากเอฟเฟ็กต์กรณี TICON ขายหุ้นเพิ่มทุน PP ให้กับกลุ่มเสี่ยเจริญนั่นแหละ

* นั่นหมายความว่า หลังปิดดีลขายเสร็จแล้ว สัดส่วนการถือหุ้นของ ROJNA ใน TICON จะถอยลงดิ่งรูดทันที

* สิ่งที่ตามมาคือส่วนแบ่งกำไรที่เคยบันทึกกันสูงแบบรายไตรมาส จะหดหายลงตามไปด้วยเช่นกัน

* และส่งผลให้ในเชิงระยะยาว ROJNA อาจประสบกับปัญหากำไรชะลอตัว

* ดังนั้น จนกว่าบริษัทจะหาแนวทางแก้ปัญหาหรือหากลยุทธ์เพิ่มรายได้-กำไรแบบใหม่เข้ามาทดแทน

* ภาพรวมหุ้นในระยะสั้นคงไม่ใช่เวลาเข้าลงทุน ถึงแม้ช่วงรอบ 6 วันทำการล่าสุดจะปรับตัวลงหนักไปแล้วกว่า 20% ก็ตาม  

Back to top button