COM7 รับส้มหล่นแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ในมุมของนักการตลาด หายนะของคู่แข่งขันโดยตรง คือ ชัยชนะของเราเอง และหากยิ่งเป็นหายนะที่เกิดจากคู่แข่งทำลายตัวเองด้วยเลย ย่อมเป็นชัยชนะที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ความคาดหวังว่า ความสำเร็จในไตรมาส 4 ของ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 จะเติบโตโดดเด่นมากเป็นพิเศษ จากยอดขายโทรศัพท์และอุปกรณ์พกพาของ iPhone7 ที่จะเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้ในไทย หลังจากที่มีการเปิตดัวในหลายประเทศมาแล้ว

ความสำเร็จของแอปเปิ้ล อิงค์ ที่ได้ทำการเปิดตัว iPhone7 ไปแล้วและมีผลตอบรับที่ดีเยี่ยมในหลายประเทศ ส่งผลให้สินค้าขายดีจนขาดตลาด จนนักวิคเราะห์คาดว่ายอดขาย iPhone ทั่วโลกจะเติบโตและสามารถพลิกกลับมาเป็นบวกในปี 2560 จากปีนี้ยอด iPhone ทั่วโลกหดตัว

การเปิตดัวแรงของ iPhone7 เกิดจากการเปิดเผยจุดอ่อนของสินค้าคู่แขง่สำคัญอย่าง “Galaxy Note 7” ของค่ายซัมซุงแห่งเกาหลีใต้ มีปัญหาสำคัญที่แก้ไม่ตก

ล่าสุดการที่ซัมซุงประกาศยกเลิกขาย Galaxy Note 7 ในไทยและทั่วโลกอย่างสิ้นเชิง เปิดทางให้ COM7 ซึ่งเป็นหนึ่งในรีเซลเลอร์สำคัญของค่ายนี้จะได้รับประโยชน์ที่ปราศจากอุปสรรคในการทำตลาด iPhone7

บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ได้แจ้งลูกค้าที่ทำการสั่งจองล่วงหน้า (Pre-Booking) Galaxy Note 7 ในไทยว่า ทางลูกค้าจะสามารถรับเงินมัดจำคืนเต็มจำนวน และสามารถเลือกรับสิทธิประโยชน์หลายทางเลือก จึงเป็นการยกธงขาวที่เลี่ยงไม่พ้น

เรื่องเทคโนโลยีเป็นอย่างไร ไม่ใช่ประเด็น เพราะล่าสุดบรรดานักวิคเราะห์อาศัยข้อมูลจากการตลาด มาพยากรณ์ว่า การเปิดตัว iPhone7 และ iPhone7 Plus ซึ่งมีราคาที่สูงกว่าเดิม และมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่กล้องคู่ จะเป็นปัจจัยช่วยหนุนการเปลี่ยนเครื่อง ประกอบกับยังมียอดขายของ accessory อีกด้วย จะทำให้ยอดขาย COM7 ยังคงเพิ่มขึ้นจากปีก่อนได้ โดยจะเห็นสัญญาณที่ดีอย่างต่อเนื่อง

 มีการประเมินเบื้องต้นว่า รายได้จากการขายจะคาดเติบโตสูงเกือบ 20% จาก accessory แบบใหม่ที่ใช้งานร่วมกับ iPhone7 เช่น หูฟังไร้สาย ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคที่ใช้หูฟังไร้สายมากขึ้นตามเทรนด์ใหม่ของแอปเปิ้ล อิงค์ ซึ่งเป็นผู้นำตลอดมา ดังนั้น COM7 จึงมีโอกาสในการนำหูฟังไร้สายราคาสูงมาร์จิ้นดีจากตราสินค้าอื่นๆ เข้ามาขายควบคู่ไปกับ iPhone 7

เรียกว่า อิ่มขึ้นกว่าปกติ ทั้งจากยอดขายตรง และยอดรายได้เสริม….ไม่อ้วนให้มันรู้กันไป

ผลพวงจากอานิสงส์ที่ซัมซุงส่งให้โดยไม่ได้เจตนา คาดว่าจะส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปี  2559 ของ COM7 (ที่เพิ่งปรับแบรนด์ร้านค้าในเครือใหม่สุดในเดือนนี้เช่นกัน) จะเติบโตโดยมีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 16,335 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 14,996 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 429 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 268 ล้านบาท

การเติบโตของยอดขายไม่มาก แต่ทำให้กำไรเติบโตมากขึ้นกว่าเดิมเกือบ 80% จะอธิบายอย่างอื่นไปไม่ได้เลยว่า เป็นผลจากความสามารถในการสร้างอัตรากำไรสุทธิที่ดีขึ้นชัดเจน

 หนึ่งในปัจจัยสำคัญ มาจากการที่สามารถซื้อ  iPhone ได้โดยตรงจาก Apple เพราะเป็นตัวแทนจำหน่าย iPhone 7 อย่างเป็นทางการในไทยซึ่งจะให้บริษัทมีมาร์จิ้นที่ดีขึ้น และสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ในจำนวนที่เพิ่มขึ้น จากเดิมบริษัทจะได้รับการจัดสรรมาจากคนกลางอีกทอดหนึ่ง แต่ตอนนี้บริษัทสามารถส่งความต้องการ (demand) และแผนการขายตรงถึง Apple ได้เลย ซึ่งคาดจะปลดล็อกข้อจำกัดของการทำกำไร

จุดเด่นของ COM7 ล่าสุดอยู่ที่การทุ่มงบลงทุนอีกประมาณ 35 ล้านบาท เพื่อรีแบรนด์ และเปลี่ยนชื่อร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Apple ภายใต้ชื่อ iStudio, iBeat และ U Store By Comseven ที่มีจำนวนสาขารวมกัน 93 แห่ง มาใช้ชื่อ Studio7 เหมือนกันทั่วประเทศ เพื่อเป็นการสร้างความแตกต่าง สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน รวมถึงยังได้ยกระดับการให้บริการของ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Studio 7 seven is more”

 การรุกทางการตลาด และโอกาสที่เปิดกว้าง ทำให้นักการตลาดที่ช่ำชองอย่าง นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  สามารถใช้ประโยชน์จากสาขารวมทั้งหมด  300 สาขา (คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะเพิ่มขึ้นเป็น 500 สาขา) เต็มพิกัด

นักวิเคราะห์ ที่ติดตามมาต่อเนื่องระบุว่า โดยปกติแล้วยอดขาย iPhone จะพุ่งขึ้นสูงในช่วงไตรมาส 4 และไตรมาส 1 ของปีถัดไปอย่างชัดเจน เพราะเป็นไตรมาสที่จะมีการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ๆ แต่ปีนี้ จะเป็นปีที่พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะสินค้าที่เป็นคู่แข่งถูกทิ้งห่างไปมาก

ราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์หลายสำนักทำการปรับใหม่ที่ 12.50 บาท จึงไม่ใช่เรื่องเกินเลย

“อิ อิ อิ”