สังคมข่าวหุ้นนิวส์เวฟ

ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,486.28 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 8.74 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 5.8 หมื่นล้านบาท


ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,486.28 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 8.74 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 5.8 หมื่นล้านบาท

* เมื่อวานสถาบันตั้งลำเข้าซื้อสุทธิไป 3,173 ล้านบาท สวนทางกับ 3 สหายเทขายสุทธิ โดยต่างชาตินำทัพสาดออก 2,557 ล้านบาท ตามด้วยรายย่อย 439 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 175 ล้านบาท

* เริ่มด้วยหุ้นแรกขอพูดถึง JAS กันหน่อย เพราะมีเรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติมกันออกมา

* ล่าสุด IFA ได้ลงความเห็นออกมาว่า ผู้ถือหุ้นควรรับคำเสนอซื้อหุ้นที่ พิชญ์ โพธารามิก” ประกาศตั้งโต๊ะซื้อ JAS ในราคา 7.25 บาท และ JAS-W3 ราคา 3.68 บาท

* เพราะภายใต้การคำนวณด้วยวิธีการประเมินรูปแบบต่างๆ บ่งบอกออกมาแล้วว่า ราคาเทนเดอร์ JAS และ JAS-W3 เหมาะสมควรแล้วทั้งปวง

* ดังนั้น หากใครยังมีต้นทุนต่ำกว่าราคาเทนเดอร์ในมืออยู่ ถ้าอยากขายรับการเสนอซื้อครั้งนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ หรือจะขายผ่านในกระดานเลยก็ได้ไม่แตกต่างกัน

* ต่อกันด้วยหุ้น BEM ยังคงชื่นชอบในสตอรี่การเติบโตแบบรายทางของบริษัท

* ที่น่าสนใจไปกว่านั้นเพราะล่าสุด โบรกฯ สั่งปรับใช้ราคาเป้าหมายไว้สูงลิบถึง 12 บาท

* เรียกได้ว่า อัพไซด์ท่วมท้นพุ่งกระจายกว่า 60% เมื่อเทียบราคาปิดในกระดานแถว 7 บาท

* ขณะที่งบไตรมาส 3 ส่องเทรนด์ออกมาแล้วดูสดใสใช้ได้ไม่เบา

* เพราะโบรกฯ ดีดคาดกำไรกันออกมาสูงเกิน 600 ล้านบาท โตขึ้นทั้งแบบเทียบรายไตรมาสและช่วงปีก่อน

* แรงหนุนหลักมาจากการบันทึกรายได้ทางด่วนศรีรัช-ค่าจ้างบริหารรถไฟฟ้าสายสีม่วง

* และจะส่งผลดีแบบเต็มไม้เต็มมือสุดขีดในช่วงไตรมาสสุดท้าย พร้อมกับช่วยหนุนให้กำไรปีนี้เติบโตแน่นอน

* ข้ามมาต่อที่หุ้น MCS วอลุ่มเทรดไหลเข้าหนาแน่นกันแบบท่วมท้น

* เรียกได้ว่าถ้าเป็นขาชอบสะสมหุ้นปันผลเข้าพอร์ตย่อมรู้จักกับหุ้น MCS เป็นอย่างดี

* ซึ่งล่าสุดมีการประเมินงบไตรมาส 3 พบว่า ยอดขายเหล็กยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง

* ดังนั้น จะช่วยหนุนนำให้บริษัทฟันกำไรระดับสูง ซึ่งทางวงการเงินคาดจะมีกำไรสูงกว่า 400 ล้านบาท เพิ่มก้าวกระโดดกว่า 200% ทีเดียว

* เมื่อกำไรโตได้ดิบดีแบบนี้ เรื่องปันผลครึ่งปีหลังแทบไม่ต้องห่วงแล้วล่ะ จะยังคงเด่นเด้งตามสไตล์ MCS โดยคาดกันไว้ขั้นต่ำสัก 50 สตางค์ ดิวิเดนด์ยีลด์สูงกว่า3%

* หุ้น THCOM มีหลายคนถามไถ่กันมาว่า เอาอย่างไรกันดีจะเข้าเก็บกันได้หรือไม่ในช่วงนี้

* อันนี้คงต้องย้อนถามกลับไปเช่นกันว่า แล้วจะลงทุนกับ THCOM แบบไหน

* เพราะถ้าเป็นสายระยะสั้น-ระยะกลางดูแล้วอาจจะยังไม่เหมาะควรสักเท่าไหร่

* เนื่องจากเทรนด์ของกำไรดำเนินงาน (ไม่รวมรายการพิเศษต่างๆ) สะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนว่ายังอยู่ในช่วงชะลอตัวชัดเจน

* เพราะได้รับผลกระทบมาจากกรณี CTH ยุติการออกอากาศ กดให้อัตราการใช้งานถอยต่ำทันที และมีผลต่อกำไรดำเนินงานย่อมลดลงตามไปในทางเดียวกัน

* ส่วนกรณีนักลงทุนระยะยาว หากถามว่า เข้าเก็บรอการฟื้นตัวได้ไหม คำตอบก็คือได้

* เพราะสถานการณ์ในปีหน้าจะเริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้งตามการฟื้นตัวของลูกค้า

* ดังนั้น จึงขอให้นักลงทุนพิจารณาลงทุนให้สอดคล้องต่อความต้องการของตัวเอง เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนสูงสุด

* หุ้น SELIC เข้าซื้อขายในตลาดกันเป็นวันที่สอง เมื่อวานเจอขายทำกำไรกดปิดลบที่ 3.86 บาท ปรับลดลงกว่า 5%

* หากวันนี้ราคายังปรับลงอีก ถือเป็นจังหวะดีในการหาโอกาสเข้าซื้อหุ้นนะ

* เนื่องจากแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังอยู่ในเกณฑ์แข็งแกร่งไม่เบา

* เพราะในขณะนี้ทางบริษัทได้มุ่งเน้นผลิตสินค้ามาร์จิ้นสูงเป็นหลัก

* และปรับลดพอร์ตธุรกิจที่มาร์จิ้นต่ำฉุดกำไรออกไป ทำให้ในระยะยาวบริษัทจะมีศักยภาพสร้างกำไรออกมาในระดับสูง

* ดังนั้น ใครพลาดจองช่วงหุ้นไอพีโอ และถ้าเห็นราคาอ่อนตัวลงมา ก็น่าหาจังหวะสอย SELIC ติดพอร์ตไว้หน่อยนะ 

Back to top button