ทยอยหนี?โมนิก้าและทีมงาน

*ประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องใช้คำไม่สุภาพจั่วหัวข้อที่กำลังจะเม้าท์นั้น มันเป็นผลมาจากบรรยากาศหลายอย่างไม่เป็นใจ บวกกับกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องเลือกทางเดิน ทำให้พวกนกรู้บางกลุ่มชิงตัดช่องน้อยแต่พอตัวกันเป็นทิวแถว ดัชนีถึงรูดหลุดแนวรับสำคัญจิตวิทยา 1,500 จุดลงมาอย่างง่ายดาย พร้อมกับทำท่าจะไหลลงไปอีกเรื่อยๆ ตามบรรยากาศที่ขมุกขมัวนะคะ

*สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นมาจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศไม่เป็นไปตามเป้า ผสมโรงกับดัชนีกระชากขึ้นมาอย่างร้อนแรงในเวลาที่รวดเร็ว “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ดัชนีโรยตัวลงมาปิดที่ 1,492.12 จุด ลบไป 14.35 จุด ด้วยมูลค่า 4.63 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ส่วนต่างราคาในการทำกำไรแคบลงอย่างมีนัยสำคัญ วินาทีนี้ถึงเห็นคนเริ่มระบายหุ้นในพอร์ตออกมาอย่างต่อเนื่องไงล่ะค่ะ

*ด้วยความคิดดังกล่าวทำให้ภาพระยะสั้นดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่? แถมหุ้นบลูชิพยังไม่สามารถฝ่าทะลุยอดเดิมขึ้นไปได้ ยิ่งเป็นแรงกดดันให้นักเล่นต้องถอยฉากออกมาก่อน พร้อมกับเลือกยุทธวิธี “ขายทิ้งก่อน ถามทีหลัง” ซึ่งเป็นกิมมิคเดิมๆ ที่เหล่านักเล่นขาประจำเห็นจนชินตา ซึ่งเหมือนกับคำแนะนำก่อนหน้านี้ที่บอกให้นักเล่นต้องเพิ่มความละเอียดในการซื้อหุ้นไงล่ะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ ESSO กลายเป็นหุ้นที่นักเล่นกระโจนใส่มือเป็นระวิง จนหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 9.25 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 12.12% ด้วยมูลค่า 1.54 พันล้านบาท ทั้งที่ 2 สัปดาห์ก่อนยืนอยู่แถว 5.75 บาท มันเป็นผลมาจากตัวเลขผลประกอบการมีแนวโน้มไปได้สวย และยังเป็นหุ้นที่เทรดบนค่า P/E 8 เท่า หุ้นถึงมีโอกาสวิ่งกลับขึ้นไปยืนแถว 10 บาทอีกรอบค่อนข้างสูงไงล่ะค่ะ

*ทรงเดียวกับหุ้น ค้ายา…อุ๊ย…ขายยา MEGA ไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จากหุ้นที่เคยย่ำต๊อกต๋อยอยู่ที่บริเวณ 19 บาท ล่าสุดบวกสวนภาวะตลาดหุ้น ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 24.10 บาท  บวกไป 0.40 บาท  ด้วยมูลค่า 620 ล้านบาท พร้อมกับเข้าเขตซื้อมากเกินไป และยังเป็นการขึ้นมาใกล้กับจุดสูงสุดที่เคยทำไว้เมื่อเข้ามาเทรดใหม่ๆ เมื่อ 2 ปี 10 เดือนที่แล้ว มันเสี่ยงเกินไปที่จะตามไปดูนะคะ

*หากผู้เล่นชอบความเสี่ยงเป็นจิตใจ “โมนิก้า” ขอให้แฟนคลับหันมามองหุ้นน้องใหม่ SQ ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเหมืองครบวงจร และยังมีงานตุนอยู่ในมือเพียบ บวกกับมีแก๊ปในการทำกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี จนผู้รู้บางสำนักให้ราคาเป้าหมายสูงถึง 5 บาท ขณะที่ราคาปิดล่าสุดอยู่แค่ระดับ 4 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 25% ด้วยมูลค่า 2.97 พันล้านบาท มันน่าสนไหมล่ะค่ะ

*มาต่อกันที่พระเอกตัวจริง AJD กระชากขึ้นสวนภาวะตลาดหุ้นที่แดงเถือก ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 2.28 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 4.60%  ด้วยมูลค่า 580 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องภาวะการลงทุนไม่เป็นใจ หุ้นเลยขึ้นช้ากว่าที่ควรจะเป็น หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ “บุญมีแต่กรรมบัง” ช็อตแรกของเที่ยวนี้ถึงมองได้แค่ 2.60 บาท หากผ่านไปได้ค่อยมองกันที่ 3 บาทแล้วกัน…งานนี้เอาแบบช้าแต่ชัวร์ดีกว่านะคะ

*อีกหนึ่งช็อตเด็ดที่ไม่ควรมองข้าม แถมเป็นหุ้นมาเป็นรอบ “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น AQUA หลังไต่ระดับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แถมตลอดทางมีวอลุ่มหนุนเข้ามาไม่ขาดสาย วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 0.91 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 5.80% ด้วยมูลค่า 373 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่ลุ้นได้ถึง 1 บาทแบบสบายๆ เพราะหุ้นเทรดกันไม่ถึง P/E 10 เท่า ตามทฤษฎีต้องไปอีกไกลเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่ชัวร์ยิ่งกว่าชัวร์ ต้องยกให้ขวัญใจยุคแรกๆ อย่างหุ้น EA ซึ่งมีแบ็คอัพเรื่องผลประกอบการหนุนหลังแบบสุดตัว และที่ผ่านมาพยายามทดสอบแนวต้าน 30 บาทมาหลายรอบ แต่เริ่มเห็นน้ำเห็นเนื้อมากสุด ก็ในจังหวะแรงสุดตัวในเที่ยวนี้แหละ…ล่าสุดขึ้นมายืนอยู่ที่ 28.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่า 720 ล้านบาท แสดงว่ากองทุนบางส่วนเข้ามาเก็บหุ้นแน่ๆ งานนี้มีสิทธิ์แรลลี่ยาวนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของ FSMART มีของดีอยู่ในตัวเองตั้งเยอะแยะ แต่ยังไม่เอาออกมาโชว์ให้ผู้คนได้เห็นหมดเปลือก หุ้นถึงสวิงสวายในทิศทางขาขึ้นเป็นเวลานาน ล่าสุดหุ้นขึ้นมาปิดที่ 17.10 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยมูลค่า 182 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องโหนกระแสในทันที เพราะยอดเดิมของรอบก่อนหน้านี้อยู่แถว 18 บาทนะซี

*คล้ายคลึงกับกรณีเดียวกับ TPCH ไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 19 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่า 240 ล้านบาท โดยมียอดเก่าอยู่ที่บริเวณ 21 บาท มันเป็นอีกหนึ่งช็อตที่ต้องตามไปดูอีกเช่นเคย วินาทีนี้ถึงต้องถามว่า มีใครกล้า follow buy กันหรือเปล่า? เพราะของมันเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า กำไรโตขึ้นอย่างต่อเนื่องพะยะค่ะ

*ตบท้ายกันที่รูปแบบการเล่นเที่ยวนี้ควรเป็นลักษณะ Selective Buy หลังผู้เล่นกลุ่มสถาบันหันมาใช้วิธีดันไปออกของ หลังจากนั้นค่อยเข้ามารับของถูก จึงต้องเข้าใจด้วยว่า การทยอยหนีเที่ยวนี้เป็นผลมาจากแท็คติกในการลงทุนล้วนๆ นะคะ