ขอเวลาพักโมนิก้าและทีมงาน

*อาการที่ดัชนีพยายามสู้สุดตัว ก่อนกระชากขึ้นพรวดเดียว จนมาปิดที่ระดับ 1,498.36 จุด บวกไป 6.24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.23 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการตอกย้ำสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยยังไม่นิ่งเท่าที่ควร แรงซื้อถึงกระจัดกระจาย ไม่เป็นรูปขบวนเหมือนก่อนหน้านี้ ผสมผสานกับบรรยากาศของตลาดหุ้นต่างประเทศถูกกดดันด้วยราคาน้ำมันอ่อนตัวลงอีกรอบ และท่าทีของเฟดในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ย่อมทำให้การลงทุนลำบากมากขึ้นอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ


*อาการที่ดัชนีพยายามสู้สุดตัว ก่อนกระชากขึ้นพรวดเดียว จนมาปิดที่ระดับ 1,498.36 จุด บวกไป 6.24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.23 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการตอกย้ำสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยยังไม่นิ่งเท่าที่ควร แรงซื้อถึงกระจัดกระจาย ไม่เป็นรูปขบวนเหมือนก่อนหน้านี้ ผสมผสานกับบรรยากาศของตลาดหุ้นต่างประเทศถูกกดดันด้วยราคาน้ำมันอ่อนตัวลงอีกรอบ และท่าทีของเฟดใน

*ฉะนั้น อย่าได้แปลกใจที่สถานการณ์หลายอย่างทำให้นักลงทุนอึดอัดใจอย่างแรง เพราะในมุมของข่าวสารที่ปรากฏให้เห็นในเที่ยวนี้ มันเดินมาถึงจุดพีคของเรื่องอีกครั้งหนึ่ง จึงต้องขอเวลาพักเอาแรงสักระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นจะเริ่มไต่ระดับขึ้นไปอีกครั้ง “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องกลับมาทบทวนรูปแบบการลงทุนอย่างเร่งด่วน เพื่อทำให้ช่วงระยะเวลาที่เหลืออีก 2 เดือนของปี 59 เป็นการลงทุนอย่างสบายใจเฉิบนะคะ

*ส่วนคนที่รู้สึกไม่มั่นใจในฝีไม้ลายมือของตัวเอง อาจใช้ช่วงเวลาดังกล่าวปลีกวิเวกเป็นการชั่วคราวก่อนก็ได้ เพราะของมันเห็นกันมาหลายรอบแล้วว่า ดัชนีขึ้นมายืนแถว 1,500 จุดทีไร…ไปต่อไม่เป็นสักที! “โมนิก้า” ถึงมีความมั่นใจเล็กๆ ว่า อย่าทำตัวสวนกระแสท่ามกลางความขมุกขมัวของข่าวสาร เพราะผลลัพธ์ที่ออกมาในแต่ละรอบ เดี๊ยนเห็นมีแต่คนเจ็บตัวนะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ BANPU กับหุ้นลูก BPP ล้วนเป็นความเสี่ยงที่แมงเม่าไม่ควรเข้าไปข้องเกี่ยว หลังเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า ความสามารถในการทำกำไรไม่ชัดเจน และยังเป็นหุ้นที่กระจุกตัวอยู่ในกองทุนตัวแสบ ส่งผลให้ภาพในระยะสั้นดูไม่ดีเอาเสียเลย “โมนิก้า” ถึงเม้าท์ได้แค่ว่า เที่ยวนี้วัดกันที่ “กึ๋น” กับ “ความไว” เป็นประเด็นหลัก…ขณะที่ราคาปิดหุ้นแม่ยืนอยู่ที่ระดับ 19 บาท บวกไป 0.30 บาท ด้วยมูลค่า 4.12 พันล้านบาท ส่วนหุ้นตัวลูกตั้งราคาขายหุ้นเต็มสตรีมที่ระดับ 21 บาท แล้วมันจะเอาแก๊ปที่ไหนวิ่งล่ะค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องเด็ดประเด็นร้อนขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่หุ้นเจ้ากรรม CPALL สักนิดหนึ่ง! หลังโลกโซเชียลมีเดียพูดพร่ำพรรณนาไปในทางเดียวกันว่า ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน CG ของหน่วยงาน IOD ในปี 59 พร้อมกับพุ่งเป้าไปที่กองทุนตัวแสบ คิดอ่านประการใดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว? เดี๊ยนถือเป็นคำถามที่แทงใจดำผู้จัดการกองทุนเต็มๆ เพราะเป็นที่รับรู้กันมาระยะหนึ่งว่า มือถือสาก…ปากถือศีล กันทั้งนั้น…ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานยืนอยู่ที่ 61 บาท ลบไป 0.75 บาท มันเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไหม…ลองไปคิดดูนะคะ

*สำหรับหุ้นที่มาเหนือเมฆอย่างพ่อดอกมะลิ JAS ก็พุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ 7.95 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 9.70% ด้วยมูลค่า 2.51 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นประเด็นที่แฟนคลับต้องใช้ความว่องไวมากเป็นพิเศษ เพราะหุ้นนอนนิ่งเกือบเดือน เผลอแป๊บเดียวหุ้นเด้งขึ้นอย่างรวดเร็วแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่น่าคิดไม่ใช่น้อยว่า ถึงเวลาดันราคารอบใหม่แล้วเหรอ?…ใครรู้ช่วยตอบด้วยเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ COM7 หลังจากทำท่าจะไปไม่รอด โดนเทขายอย่างหนักตั้งแต่เช้า สุดท้ายก็วิ่งขึ้นมาปิดที่ 13.20 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่า 580 ล้านบาท พร้อมกับทำ new high นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในเที่ยวนี้ หลังมีการตั้งสมมุติฐานกันว่า P/E 47 เท่าจะลดลงอย่างฮวบฮาบ หากกำไรในไตรมาส 3 ออกมาดี…งานนี้เชื่อหรือไม่ ก็อยู่ที่ตัวผู้เล่นคิดอย่างไรนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ CHG หากมองตามรูปการที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ ก็มีแพทเทิร์นคล้ายคลึงกับรายข้างต้น แต่ต่างกันนิดหนึ่งตรงที่หุ้นผ่านกระบวนการย่ำฐานมาระยะหนึ่ง บวกกับวานนี้กระชากขึ้นแรงเป็นวันแรก ส่งผลให้ราคาปิดที่ 2.76 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 7.80% ด้วยมูลค่า 860 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกเยอะพอสมควร เพราะฐานเดิมอยู่แถว 3 บาทนจะบอกให้

*ไหนๆ ก็เม้าท์ถึงจังหวะ follow buy ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอย้อนกลับไปดู SQ หุ้นทีเด็ดที่เพิ่งเม้าท์ให้ฟังเมื่อวันก่อนสักเล็กน้อย หลังมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.28 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 1,500 ล้านบาท กลายเป็นตัวแปรที่ทำให้สถานการณ์หลายอย่างดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม จึงกลายเป็นหุ้นที่เหมาะที่จะเล่นต่อในวันนี้เจ้าค่ะ

*ส่วนหุ้นขายยางชั้นนำของประเทศอย่าง STA กับ TRUBB มันเป็นจังหวะของการเล่นตามน้ำสั้นๆ หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาใกล้กับยอดเดิม 13.60 บาท กับ 1.60 บาท ขณะที่ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 13.20 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 6.45% และตามติดมาด้วยการปิดที่ 1.48 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 5.70% มันเป็นทางเลือกที่ผู้เล่นสามารถกำหนดเงินในกระเป๋าตัวเองได้ น้องโมไม่จำเป็นต้องเสนอความคิดมากกว่านี้นะคะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ TACC อย่างสิ้นเชิง เพราะรายนี้ “โมนิก้า” สามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเองเวลาเข้าในไปในเซเว่นฯ จึงไม่ต้องรอให้ผู้รู้จากสำนักต่างๆ มาแนะนำให้เสียเวลา ล่าสุดเห็นหุ้นกระโดดขึ้นมาปิดที่ 10.30 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 5.60% ด้วยมูลค่า 193 ล้านบาท เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดอย่างเป็นทางการว่า ผู้เล่นมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเติบโตจะเป็นไปตามแผน จึงเห็นหุ้นทำ all time high เป็นว่าเล่น..จ.ริงไหม…เฮียชนิต!

Back to top button