หนังม้วนเดิมโมนิก้าและทีมงาน
*เผลอแป๊บเดียวก็ปาเข้าไป 10 เดือนเสียแล้ว แต่ดูเหมือนว่า แพทเทิร์นการลงทุนในช่วง 4 เดือนล่าสุดยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ กรอบการวิ่งของดัชนีส่วนใหญ่ยังอยู่ที่ระดับ 1,400-1,500 จุด อาจมีเซอร์ไพรส์บ้างในเดือนสิงหาคม ที่ดัชนีขึ้นไปยืนแกว่งตัวแถว 1,550 จุดได้เกือบเดือน แต่สุดท้ายก็อ่อนตัวกลับมายืนอยู่ใต้ระดับ 1,500 จุดนะจะบอกให้
*เผลอแป๊บเดียวก็ปาเข้าไป 10 เดือนเสียแล้ว แต่ดูเหมือนว่า แพทเทิร์นการลงทุนในช่วง 4 เดือนล่าสุดยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ กรอบการวิ่งของดัชนีส่วนใหญ่ยังอยู่ที่ระดับ 1,400-1,500 จุด อาจมีเซอร์ไพรส์บ้างในเดือนสิงหาคม ที่ดัชนีขึ้นไปยืนแกว่งตัวแถว 1,550 จุดได้เกือบเดือน แต่สุดท้ายก็อ่อนตัวกลับมายืนอยู่ใต้ระดับ 1,500 จุดนะจะบอกให้
*หากประเมินจากสถานการณ์ดังกล่าวจากข้อมูลที่มีอยู่ ณ เวลานี้ “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของการช้อนหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมา และขายหุ้นเมื่อยกตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากหุ้นบางตัวเริ่มเผชิญกับเหตุการณ์ sell on fact มากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้นักเล่นรู้ว่า ขนาดผลงานดีก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก ส่วนผลงานแย่ก็เหนื่อยกว่าปกติ (เฉพาะหุ้นขนาดใหญ่) เจ้าค่ะ
*ประเด็นข้างต้นทำให้โฟกัสในการลงทุนเที่ยวนี้เบนเข็มไปที่หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งหลายคนคงเห็นจากการเคลื่อนไหวที่หวือหวาในบางช่วงบางตอน “โมนิก้า” ถือเป็นการเด้งรับข่าวดีอย่างสมเหตุสมผล และเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ความสนใจในหุ้นกลุ่มดังกล่าวมีมากขึ้นเป็นทวีคูณ หลังจากค้นพบว่า หุ้นขนาดใหญ่ถูกนักลงทุนสถาบัน “ลากขึ้น ลากลง” กันอย่างสนุกมือนะซี
*ก่อนจะไปเม้าท์หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก “โมนิก้า” ขอแสดงความยินดีกับหุ้น BPP สามารถทะยานขึ้นมาปิดที่ 27.25 บาท บวกไป 6.25 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่า หุ้นเป็นที่ต้องการของกองทุน ถึงไล่ราคากันอย่างเมามัน แต่ที่น่าแปลกใจตรงหุ้นตัวแม่ BANPU ดันอ่อนตัวลงมาปิดที่ระดับ 18.50 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่า 2.17 พันล้านบาท ผิดหลักการลงทุนไปค่อนข้างเยอะแบบนี้…เดี๋ยวก็เลิกเห่อแล้วมั่ง!
*เช่นเดียวกับในรายของ JAS ทะยานขึ้นมาปิดที่ 8.10 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่า 4.10 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมหุ้นที่ถูกจุดพลุขึ้นมาใหม่อีกรอบ และประเด็นที่มีน้ำหนักทำให้หุ้นวิ่งระเบิดระเบ้อก็มาจากขาใหญ่นิรนามเป็นคนทำให้เป็นแบบนั้น เดี๊ยนถึงต้องถามเหล่านักเล่นผู้กล้าหาญว่า มองหุ้นตัวนี้เป็นแบบไหน? ยังมีโอกาสทำกำไรอีกไหม? บวกกับหุ้นลูก JTS กลับมาแสดงผลกำไรในไตรมาส 3 และจ่ายปันผลหุ้นละ 0.10 บาท มันเป็นการส่งสัญญาณอะไรไปถึงหุ้นแม่หรือเปล่า…ลองไปคิดดูนะคะ
*เหมือนกับหุ้น DTAC กระชากขึ้นมาปิดที่ 31.50 บาท บวกไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่า 640 ล้านบาท มันเป็นผลมาจากความเชื่อที่ว่า ธุรกิจเดินทางมาถึงก้นเหว และหุ้นก็เดินมาถึงจุดต่ำสุด จึงมีแรงซื้อเข้ามาไล่เก็บหุ้นอีกรอบ และดูเหมือนว่า กระแสดังกล่าวจะได้การตอบรับที่ดีจากเหล่านักเล่น หุ้นถึงยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง แต่โอกาสที่หุ้นจะเดินหน้าขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายนะจะบอกให้
*ส่วนหุ้นที่เด้งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำท่าจะเดินหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ SUSCO ก่อนหุ้นตัวอื่นๆ หลังหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 3.58 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 7.20% ด้วยมูลค่า 216 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเทรดบนค่า P/E 20 เท่า พร้อมกับทำจุดสูงสุดในรอบ 1 ปี 6 เดือน ย่อมเกี่ยวข้องโดยตรงกับผลประกอบการไตรมาส 3 หากออกมาดีมีสิทธิ์เห็นหุ้นขึ้นไปยืนแถว 4 บาทแน่ๆ เจ้าค่ะ
*อีกหนึ่งช็อตเด็ดที่เห็นเป็นประจำอย่าง TFG ยังคงเป็นทางเลือกที่ “โมนิก้า” ชอบเม้าท์ถึงทุกครั้งเมื่อหุ้นเริ่มขยับตัวให้เห็นอีกครั้ง พร้อมกับจุดประกายความหวังว่า หุ้นจะขยับขึ้นไปถึง 5 บาท หลังแมงลือเม้าท์กันอย่างสนุกสนานว่า ยอดขายไก่เติบโตตามเป้าที่วางไว้ ผลประกอบการไตรมาส 3 น่าจะออกมาดี ส่งผลให้ราคาปิดที่ 4.76 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 5.80% จึงเหลือแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกพอควรนะจ๊ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ ASEFA เห็นเงียบๆ แบบนี้…ฟาดเรียบทั้งบาง จากหุ้นที่เคยรูดลงไปถึง 5.55 บาท ล่าสุดเด้งขึ้นมาปิดที่ 7.45 บาท บวกไป 0.20 บาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักลงทุนน่าตามไปดูจริงๆ หากดูตามแพทเทิร์นการเคลื่อนตัวจะเห็นว่า สเต็ปแรกของหุ้นอยู่ที่ 8 บาท หากขึ้นไปยืนสร้างฐานได้มั่นคง สามารถมองยอดเก่าที่ราคา 9 บาทได้อีกทอดหนึ่งค่ะ
*ส่วนหุ้นที่มีรูปแบบการเคลื่อนไหวชัดเจน นักเล่นสามารถวนเวียนเข้ามาเล่นรอบได้หลายเที่ยว “โมนิก้า” ต้องหันไปมองที่หุ้น WHA ของคุณน้อง “จูน” เพื่อเปิดเป็นอีกหนึ่งออปชั่นสำหรับคนที่ชอบของ “ช้าแต่ชัวร์” หลังเห็นกันเต็มลูกตาว่า เคลื่อนตัวแบบ w-shape ซึ่งมีจุดนัดพบอยู่ที่ 3.40 บาท กับ 3.60 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดอยู่ที่ 3.28 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่า 770 ล้านบาท มันน่าสนใจไหมล่ะค่ะ
*ตบท้ายวันนี้ขอพูดถึงจุดยืนในการเสนอข่าวของทีมงาน “ข่าวหุ้น” ทุกองคาพยพ ล้วนเป็นการบอกเล่าเหตุการณ์ในตลาดหุ้นทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น ข่าวจริง ข่าวลือ ข่าววิเคราะห์ ข่าวเม้าท์ คือสิ่งที่พวกเราต้องการบอกเล่ากับชาวหุ้นได้รู้สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างครบครัน เดี๊ยนจึงขอแส่เรื่องของชาวบ้านต่อไปเรื่อยๆ เพราะต้องการให้ตลาดหุ้นเป็นเครื่องมือในการลงทุนสำหรับทุกคน…บรรดาแมงเม่าควรได้รู้เรื่องราวลึกลับซับซ้อนแบบละเอียดยิบ ส่วนจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ใช้วิจารณญาณส่วนตัวตัดสินกันเอาเอง…งานนี้พวกปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่ามาสะเออะในการทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงแห่งตลาดทุนนะคะ