สังคมข่าวหุ้นคาเฟอีน
*ACAP บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ภายใต้การบริหารของสาวหน้าหวาน “สุกัญญา สุขเจริญไกรศรี” โชว์สินเชื่อช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ ปล่อยกู้แล้ว 3,800 ล้านบาท มากกว่าเป้าหมายใหม่ที่เพิ่มปรับไปเมื่อกลางปี 3,500 บาท สงสัยสิ้นปีอาจถึง 4,000 ล้านบาท ส่วนโบรกฯ เองก็มองว่า ไตรมาส 3/59 กำไรจะเติบโตสูง และสิ้นปีกำไรสุทธิน่าจะอยู่ที่ 110 ล้านบาท พุ่งเกือบ 600% จากปี 2558
*ACAP บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ภายใต้การบริหารของสาวหน้าหวาน “สุกัญญา สุขเจริญไกรศรี” โชว์สินเชื่อช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ ปล่อยกู้แล้ว 3,800 ล้านบาท มากกว่าเป้าหมายใหม่ที่เพิ่มปรับไปเมื่อกลางปี 3,500 บาท สงสัยสิ้นปีอาจถึง 4,000 ล้านบาท ส่วนโบรกฯ เองก็มองว่า ไตรมาส 3/59 กำไรจะเติบโตสูง และสิ้นปีกำไรสุทธิน่าจะอยู่ที่ 110 ล้านบาท พุ่งเกือบ 600% จากปี 2558
*ลูกน้องของเสี่ย “รพี สุจริตกุล” เลขาฯ ก.ล.ต. โดยเฉพาะฝ่ายตรวจสอบ ช่วงนี้ทำงานกันหนักมาก เพราะวันๆ นั่งอ่านหนังสือพิมพ์คอยเช็กข่าว ตรวจข่าว ว่าบริษัทจดทะเบียน (บจ.) แห่งไหน ให้ข่าว ให้ข้อมูลกับสื่ออย่างไร หรือบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หรือโบรกฯ ไหนทำข้อมูลออกมาอย่างไร แล้วสื่อมานำลงต่ออย่างไร สงสัยคงจะฝึกก่อนที่ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ฉบับใหม่ จะออกมามีผลบังคับใช้ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นคงจะฝุ่นตลบน่าดู
*ไออาร์พีซี ที่มีเฮีย “สุกฤตย์ สุรบถโสภณ” นั่งบริหารงาน และเป็นบุคคลที่ friendly โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 3/59 กว่า 1.31 พันล้านบาท เติบโต 47% และกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.06 บาท (มากกว่า Q3/58 มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.04 บาท) ก็ถือว่าเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์คาดการณ์กันไว้ และพอหลังดูงบการเงินเสร็จ บรรดานักวิเคราะห์จากหลายโบรกฯ ยังประสานเสียงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายระหว่าง 2.70-6.00 บาทต่อหุ้น
*ดีเดย์ วันที่ 9 พ.ย.ศาลล้มละลายนัดพิจารณาแผนฟื้นฟูของสหวิริยาสตีลฯ หรือ SSI หากไม่มีเจ้าหนี้รายได้ออกมาคัดค้าน (เชื่อว่าจะไม่มี) ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรต่อ และสถานะของ SSI ก็จะถูกจัดชั้นจากลูกหนี้ NPL เป็นลูกหนี้ปกติ ก็ถือเป็นข่าวดีของทั้ง SCB, KTB และ TISCO แต่ก็ต้องดูรายละเอียดของแผนด้วยว่าเป็นยังไง มีการแฮร์คัทหนี้มากแค่ไหน
*บอสใหญ่ของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร คุณพี่เตา หรือ “บรรยง พงษ์พานิช” เขียนลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว เกี่ยวกับแผนการบริหารจัดการนับจาก ทุนภัทร และเกียรตินาคิน ควบรวมกิจการ พร้อมกับอธิบายว่า เหตุใดถึงดึง “อภินันท์ เกลียวปฏินนท์” มานั่งบริหารงาน KKP นั่นเพราะต้องการคนทำงานที่มีทัศนคติที่สอดคล้องกัน และผลประกอบการไตรมาส 3/59 ที่เติบโต ราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นจาก 30 บาท มาอยู่แถวๆ 58-59 บาทต่อหุ้น ใครสนใจเข้าไปอ่านดูได้ที่เฟซบุ๊คชื่อ Banyong Pongpanich
*คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน หรือ FOMC ของเฟด คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25-0.50% ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ ตัวเลขเศรษฐกิจในหลายเซ็กเตอร์แข็งแกร่งขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเป็นปัจจัยหนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ส่วนการประชุมของ FOMC ครั้งต่อไปคือวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้ ลุ้นกันต่อ
*ต้องจับตาดูว่ามีนัยสำคัญอะไรไหม หลัง บมจ.ซิโน–ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) แจ้งการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ บมจ.ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) จำนวน 181.50 ล้านหุ้น ซื้อในราคาหุ้นละ 4.85 บาท รวมเป็นเงินกว่า 880 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ TSE จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม คือ บมจ.เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (WAVE)
*บทวิเคราะห์หุ้น KTC ของ บล.บัวหลวง ที่บอกว่า KTC มีอัพไซด์จากที่ว่า “ปี 2560 จากการเติบโตของการเข้าซื้อกิจการเข้ามาในพอร์ตสินเชื่อของสินเชื่อส่วนบุคคล” เปลี่ยนมาเป็น “ปี 2560 มีโอกาสจากการเติบโตของการเข้าซื้อกิจการเข้ามาในพอร์ตสินเชื่อของสินเชื่อส่วนบุคคล” งานนี้สงสัย หรืออาจจะเป็นไปได้ว่า ทางฝ่ายตรวจสอบ สำนักงานก.ล.ต. คงไล่บี้ไปทาง KTC ซึ่งก็บอกก่อนหน้านี้แล้วว่า วันๆ นั่งจับผิดกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ