CPN ฟอร์มดีรักษากำไรเสมอ

ประสิทธิภาพด้วยการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ปีละ 2-3 แห่ง ทุกปีของ CPN ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนให้ผลประกอบการดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี อย่างปี 2555 กำไรสุทธิจำนวน 6,188.70 ล้านบาท ต่อมาปี 2556 กำไรสุทธิจำนวน 6,292.53 ล้านบาท ส่วนปี 2557 กำไรสุทธิจำนวน 7,306.95 ล้านบาท และในปี 2558 กำไรสุทธิจำนวน 7,880.31 ล้านบาท


–คุณค่าบริษัท–

 

 

ประสิทธิภาพด้วยการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ปีละ 2-3 แห่ง ทุกปีของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนให้ผลประกอบการดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี อย่างปี 2555 กำไรสุทธิจำนวน 6,188.70 ล้านบาท ต่อมาปี 2556 กำไรสุทธิจำนวน 6,292.53 ล้านบาท ส่วนปี 2557 กำไรสุทธิจำนวน 7,306.95 ล้านบาท และในปี 2558 กำไรสุทธิจำนวน 7,880.31 ล้านบาท

จนกระทั้งเข้าสู่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 7,326.98 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 6,377.66 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการให้เช่าและให้บริการเพิ่มขึ้น 14% และมีรายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 31% ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,342.44 ล้านบาท หรือ 0.52 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,816.45 ล้านบาท หรือ 0.40 บาทต่อหุ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 21,770.31 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 18,753.28 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 7,025.25 ล้านบาท หรือ 1.57 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 5,969.67 ล้านบาท หรือ 1.33 บาทต่อหุ้น สะท้อนความแข็งแกร่งที่ชัดเจน

นอกจากนี้ ด้านนักวิเคราะห์มองว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 59 คาดกำไรเติบโตในเกณฑ์ดีเมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากค่าเช่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นค่าเช่าตามสัญญา และศูนย์การค้าพัทยาเซ็นเตอร์กลับมาเปิดตามปกติหลังจากปิดปรับปรุงใหญ่ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 59 อย่างไรก็ดี คาดกำไรชะลอตัวจากไตรมาสก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามปกติในช่วงปลายปี

ขณะที่รายได้จากการจัด Event คาดจะได้รับผลกระทบเล็กน้อยหลังจากการงดกิจกรรมด้านบันเทิงตั้งแต่กลางเดือน ต.ค. อย่างไรก็ดี คาดกิจกรรมการตลาดส่วนหนึ่งจะกลับมาจัดได้ในช่วงกลางเดือน พ.ย. เป็นต้นไป

ประเด็นที่น่าสนใจต่อมา ทางบริษัทตั้งเป้าหมายทางธุรกิจภายในระยะเวลา 5 ปี (2559-2563) บริษัทจะมีรายได้ที่เติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี โดยการกำหนดแนวทางเพื่อขยายธุรกิจ ซึ่งมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาให้ประมาณ 2-3 ศูนย์การค้าต่อปี และปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมถึงการปรับขึ้นค่าเช่าตามปกติ และการปรับปรุงการดำเนินงาน อีกทั้งบริษัทได้ศึกษาโอกาสเพิ่มเติมเพื่อขยายการลงทุนไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในประเทศที่มีโอกาสและศักยภาพในการเติบโต อาทิ มาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย เพื่อการเติบโตตามเป้าหมายในอนาคต

ทั้งนี้ภายใต้ความเจริญทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวสู่พื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยบริษัทมีการศึกษาโอกาสทางธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบใหม่รวม ทั้งนวัตกรรมด้านการออกแบบ และตกแต่งศูนย์การค้า เพื่อยกระดับให้ศูนย์การค้ามีความทันสมัย เพื่อตอบสนองต่อรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง

อีกทั้งนักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส คงคำแนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 70.00 บาท

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.บริษัท เซ็นทรัลโฮลดิ้ง จำกัด 1,176,343,960 หุ้น 26.21%

2.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 233,712,857 หุ้น 5.21%

3.STATE STREET BANK EUROPE LIMITED 218,128,390 หุ้น 4.86%

4.HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD 131,488,800 หุ้น 2.93%

5.BANK OF SINGAPORE LIMITED-SEG 93,025,620 หุ้น 2.07%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย สุทธิชัย จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ

2.นาย ปรีชา เอกคุณากูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

3.นาย ปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่

4.นาย กอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการ

5.นาย สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ กรรมการ

Back to top button