สังคมข่าวหุ้นเกียรติก้อง ว่องไวยากร
*เอ็มเอฟซีไอพยุงหุ้นไทย
*เอ็มเอฟซีไอพยุงหุ้นไทย
*หุ้นเข้าคำนวณดัชนีเอ็มเอฟซีไอ ดาหน้ากันขึ้น หลังประกาศรายชื่อออกมาวานนี้ ตัวที่ทำเซอร์ไพรส์ ก็ต้องยกให้ KCE เพราะไม่มีวี่แววมาก่อน ส่วนตัวที่เข้า MSCI Small Cap เด่นๆ ต้องยกให้ COM7 TKN TFG MALEE จะมีผลวันที่ 30 พ.ย. นี้เลย ทำให้ช่วยพยุงดัชนีหุ้นไทยไว้ได้ ไม่ดิ่งต่อเนื่อง หลังจากที่เงินต่างชาติไหลออกไม่ยอมหยุด ส่วนหนึ่งกังวลเรื่องนโยบายของทรัมป์ ที่อาจส่งผลเชิงลบต่อประเทศเกิดใหม่ จากการกีดกันทางการค้าในอนาคต และมองว่าทรัมป์จะสนับสนุนการเติบโตภายในประเทศ ทำให้นักลงทุนขนเงินกลับไปตั้งหลักก่อน และอีกปัจจัยหนึ่ง เจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาริชมอนด์ พูดถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ อาจทำให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น เงินทุนก็จะไหลออกจากไทยอีกรอบ นับตั้งแต่ต้นปีต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 1.3 แสนล้าน แต่ปัจจุบันขายหุ้นออกไปกว่า 3 หมื่นล้าน แนวรับตอนนี้ให้ไว้ 1,465 จุด ส่วนแนวต้าน 1,485 จุด
*หุ้นสื่อสารโดยเฉพาะพวกที่มีสตอรี่ อย่าง ดีแทค ถูกถล่มอย่างหนัก หลัง ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย เรื่องการเข้าซื้อกิจการ DTAC เพราะไม่เคยมีการคุยกันแม้แต่ครั้งเดียว ทำเอาหุ้นดีแทคดิ่งนรกวานนี้ ใครที่เล่นตามข่าวลือต้องจำไว้เป็นบทเรียน
*ใครขายหว่า ไม่รู้ว่าเสี่ยคนไหนขายทิ้งหุ้น บมจ.คราวน์ เทค แอดวานซ์ หรือ AJD ของอมร มีมะโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารออกมาอย่างหนักวานนี้ สวนทางกับผลประกอบการ 9 เดือนที่กำไรกว่า 300 กว่าล้านบาท เพิ่มขึ้น พันกว่าเปอร์เซ็นต์ ราคาก็ยังไม่ถึงเป้า โบรกฯเลยให้แถว 2.80 บาท แบบนี้จะทุบเอาของหรือเปล่า เพราะถ้าดูตามพื้นฐานไตรมาสที่ 4 ก็ยังกำไรแบบก้าวกระโดดอีกแน่นอน หลังจากตู้เติมสบายขายเพลิน ใกล้ถึงเป้าเร็วๆ นี้
*แบงก์ชาติกังวลเรื่องหนี้เสียของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แต่บัตรกรุงไทย รูดปรื๊ด ภายใต้การนำของ ระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลับโตสวนกระแส ปีนี้คาดว่าจะกำไรโตไม่ต่ำกว่า 15% และรักษาระดับของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในระดับที่ 1.9% ซึ่งต้องยอมรับฝีมือของผู้บริหาร ส่วนราคาหุ้นช่วงนี้ ก็ยังพอมีลุ้น จากราคาเป้าหมายแถวๆ 160 บาท
*JAS ของเสี่ยพิชญ์ โพธารามิก กลับมาแล้ว ตัวเก็งที่จะได้เข้าเซต 50 รอบใหม่ ที่จะมีการประกาศชื่อในราวกลางเดือนธันวาคม และมีผลประมาณต้นเดือนมกราคมนี้ แม้ว่าจะเจอมรสุมพัดผ่านมาบ้าง แต่ถ้าเจ๋งจริงก็ไม่ต้องกลัว
*หลังหมดฤดูกาลประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 นักวิเคราะห์ก็เริ่มมั่นใจว่าปีนี้ผลประกอบการ บจ. จะออกมาดีกว่าปีก่อนแน่นอนแล้ว บางรายเพิ่มเป้าขึ้นเป็น 8.7 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 1 หมื่นล้านบาทจากปีก่อน จากการปรับเพิ่มกำไรของ บจ. หลายแห่ง ซึ่งนักวิเคราะห์บางสำนักฯให้ตัวเลขปีนี้กำไรอาจแตะ 9 แสนล้านบาทโน่นก็มี
*ต้องรอลุ้นประชุมโอเปกดันราคาน้ำมันขึ้น ในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.นี้ หากมีข้อตกลงที่ชัดเจน แม้ว่านักวิเคราะห์ไม่ค่อยมั่นใจ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ เหมือนอย่างกรณีทรัมป์ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี หุ้นกลุ่มพลังงาน อย่างปตท. ปตท.สผ. และกลุ่มโรงกลั่น ไทยออยล์ ก็จะกลับมาผงาดกันอีกรอบ ขณะที่ทวารัฐ สูตะบุตร โฆษกกระทรวงพลังงาน มองว่านโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่มีผลกระทบต่อราคาน้ำมันหรือแผนพลังงานของไทยแต่อย่างใด