เงินกู้หรือจำนำขี่พายุ ทะลุฟ้า
เศรษฐกิจต่างจังหวัดซบเซาหนัก ถ้าใครได้มีโอกาสเดินทางไปต่างจังหวัด จะสัมผัสได้ทันทีว่าต่างกันกับคำโฆษณาชวนเชื่อยังไง
ชาญชัย สงวนวงศ์
เศรษฐกิจต่างจังหวัดซบเซาหนัก ถ้าใครได้มีโอกาสเดินทางไปต่างจังหวัด จะสัมผัสได้ทันทีว่าต่างกันกับคำโฆษณาชวนเชื่อยังไง
ผมมีโอกาสเดินทางไปทำธุระปะปังอยู่ 2 จังหวัด ทางอีสานจังหวัดหนึ่ง และก็ภาคเหนืออีกจังหวัด
ทางเหนือยังพอมีคนบ้าง เพราะเป็นเมืองมหาวิทยาลัยและเมืองการศึกษา จึงยังพอมีกำลังบริโภคท้องถิ่น และก็ยังมีนักท่องเที่ยวเข้ามาอยู่บ้าง
แต่นักท่องที่ยวจีน หายไปเยอะทีเดียว
ส่วนจังหวัดในภาคอีสานที่ผมไป ขนาดเป็นเมืองที่เคยมีเที่ยวบินลงถึงวันละเกือบ20เที่ยวบิน แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นเมืองที่เงียบสงบ ความพลุกพล่านแทบไม่มี
ขนาดโรงแรมที่ผมเข้าพักอยู่กลางเมือง มีศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ และสวนน้ำครบวงจร แต่บรรยากาศสงัดมาก
ไม่มีทั้งคนเข้าไปตีตั๋วหนัง ไม่มีคนเดินในศูนย์การค้า และสวนน้ำก็ไม่มีคนเข้าใช้บริการ
ตัวปัญหาก็คือ คนต่างจังหวัดโดยเฉพาะเกษตรกรไม่มีเงิน
เศรษฐกิจต่างจังหวัดจะคึกคักได้อย่างไร ในเมื่อพืชผลทางการเกษตรตกต่ำไปเสียแทบทุกตัว
เมื่อเศรษฐกิจต่างจังหวัดแย่ เศรษฐกิจในเมืองก็ไปไม่ไหว มูลค่าราคาสินค้าเกษตรทั่วประเทศ ถึงแม้จะน้อยกว่ามูลค่าสินค้าอุตสาหกรรมและบริการ
แต่ก็ผูกพันกับคนกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ
ฉะนั้น ถ้าราคาสินค้าเกษตรไม่ดี เกษตรกรไม่มีกำลังใช้จ่าย เศรษฐกิจในภาพรวมก็ไปไม่ไหว คนรวยกว่าก็ไม่รู้จะเอาสินค้าและบริการไปขายใคร
การเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรของรัฐบาล จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เมื่อราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
ปัญหาข้าวเปลือกหอมมะลิตกต่ำ รัฐบาลก็ออกมาตรการมาช่วยเหลือชาวนาแล้ว โดยแบ่งเป็นการรับจำนำที่ 90% ของราคาตลาด ค่าเก็บเกี่ยว และค่ายุ้งฉาง
แพ็กเกจนี้ 13,000 บาทต่อตัน หากชาวนาไม่มียุ้งฉาง ก็ต้องขายเอง แต่จะได้รับการช่วยเหลือเป็นค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวตันละ 2,000 บาท
ต่อมา รัฐบาลก็ออกมาตรการครอบคลุมไปยังข้าวเปลือกเจ้าและข้าวหอมประทุม ในแพ็กเกจเต็มที่เข้าร่วมในราคา 10,500 บาทและ 11,330 บาทตามลำดับ
รัฐบาลให้ธ.ก.ส.เข้ามารับจำนำ หากชาวนาไม่มาไถ่ถอน ธ.ก.ส.ก็จะสั่งแปรสภาพเป็นข้าวสารและบรรจุถุงขายผ่านระบบสหกรณ์ทั่วประเทศ
แต่ข้อสงสัยของชาวนาในขณะนี้ ก็อยู่ที่ชื่อโครงการนี้เป็น “โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี”
หาใช่เป็น “จำนำข้าว” สมัยยิ่งลักษณ์แต่อย่างใดไม่
ถ้าเป็น “จำนำ” เมื่อไม่มาไถ่ถอน ก็ปล่อยริบทรัพย์ข้าวเปลือกนั้นไป ไม่มีภาระใดๆต่อกัน
แต่ในเมื่อเป็น “สินเชื่อ” ก็เหมือนเงินกู้ แม้ทิ้งจำนำไปก็ยังมีภาระหนี้สินที่ต้องชดใช้
รัฐบาลต้องการให้เป็นเช่นไร ก็ควรมีคำอธิบายที่ชัดเจนออกมา