ไชโย ลุงตู่แจกตังค์ทายท้าวิชามาร

และแล้ว รัฐบาลที่มีขุนพลคับคั่ง ทั้งขุนทหาร ขุนพลเศรษฐกิจ ก็ดวงตาเห็นธรรม บรรลุโสดาบัน ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอันเลิศล้ำ เจ๋งกว่าโดนัลด์ ทรัมป์ นั่นคือการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย 5.4 ล้านคน 1,500-3,000 บาท เป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่า


 ใบตองแห้ง

 

และแล้ว รัฐบาลที่มีขุนพลคับคั่ง ทั้งขุนทหาร ขุนพลเศรษฐกิจ ก็ดวงตาเห็นธรรม บรรลุโสดาบัน ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอันเลิศล้ำ เจ๋งกว่าโดนัลด์ ทรัมป์ นั่นคือการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย 5.4 ล้านคน 1,500-3,000 บาท เป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่า

เว้ากันซื่อๆ ก็คือแจกเงิน แต่ขอร้องไม่ให้เรียกว่าแจกเงิน เหมือนจำนำยุ้งฉาง ไม่ใช่จำนำข้าว เพราะรัฐบาลนี้ไม่ได้รับจำนำทุกเมล็ด

พรรคประชาธิปัตย์อย่ามาอ้าง ว่ารัฐบาลลุงตู่เอาอย่าง เพราะ ปชป.แจกตังค์มนุษย์เงินเดือน ไม่เหมือนลุงตู่แจกคนจน ตามที่ลงทะเบียนไว้ นี่ไง วิธีลดเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ไม่ใช่เซียนเศรษฐกิจอย่าง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คิดไม่ได้นะ

เรามาถูกทางแล้ว งบประมาณ 12,750 ล้าน ช่วยคนจนไม่เห็นเป็นไร ทีจำนำข้าวเป็นหนี้ 18 ปียังทำได้ ขอสนับสนุนให้ทำทุกปี เพื่อที่จะปิด GDP ได้สวยๆ ที่สภาพัฒน์คาดไว้ 3.2% นี่ถ้าอนุมัติมาตรการช้อปช่วยชาติ ช้อปพาราไดซ์ ช้อปเฮลเรสเซอร์ ฯลฯ ก็อาจพุ่งไปถึง 3.5%

เห็นด้วยจริงๆ นะครับ แค่อดสัพยอกไม่ได้ ใช้เวลาตั้งนานกว่าดวงตาจะเห็นธรรม ยอมจำนำยุ้งฉาง ยอมแจกตังค์ แบบที่เคยว่านักการเมือง “ประชานิยม” แต่ไม่เหมือนกันเพราะนี่เป็น “ประชารัฐ” ปัดโธ่!

เพียงแต่หลังจากคุยฟุ้งเรื่องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์ชาติ ฯลฯ ที่ใช้เวลาเป็นชาติ แล้วทีมงานระดับแบรนด์เนม ต้องกลับมาใช้วิธีแจกเงินกันดื้อๆ ก็ควรยอมรับความจริงสัก 1-2 อย่าง อย่างแรกคือ มันตื้อจนแก้ปัญหาไม่ออกแล้วใช่ไหม หมดเวลาคุย หมดมุก ไม่รู้จะทำอย่างไร

ที่กรณ์ จากติกวณิช ท้วงว่าการแจกเงินควรทำในช่วงวิกฤติ เช่นสมัย ปชป.จีดีพีติดลบ 7% จึงท้วงผิด เพราะเอาเข้าจริงเศรษฐกิจตอนนี้ก็น่าจะวิกฤติ แม้ยังคุยฟุ้งกันว่าเป็นบวกๆๆ ขึ้นๆๆ ขยายๆๆๆ ประชาชนเชื่อมั่นกล้าใช้จ่าย ฯลฯ น่าจะไม่เป็นอย่างราคาคุย ไม่งั้นจะใช้มาตรการแบบนี้เรอะ มาตรการที่ไม่ต้องใช้สมคิด ใช้นาย ก. นาย ข.คิดก็ได้

ในตัวเลขไตรมาส 3 ที่สภาพัฒน์แถลง ความจริงก็เห็นอยู่ การลงทุนขยายตัว 1.4% แต่มาจากภาครัฐเป็นหลัก การลงทุนภาคเอกชนลดลง 0.5% มูลค่าส่งออกขยายตัว 0.4% แต่ปริมาณลดลง 0.3% ตามการลดลงของสินค้าเกษตร ไตรมาส 4 การใช้จ่ายน่าจะลดลง การท่องเที่ยวลดลง ขณะที่การคาดการณ์ตัวเลขปีหน้า เป็นแบบมองโลกในแง่ดีไว้ก่อน

เศรษฐกิจตอนนี้แม้เป็นบวก แต่ก็ไม่เหมือนตอน ปชป.ลบ 7% ตรงที่มันกระทบคนระดับล่างมากกว่า ราคาพืชผลตกต่ำ คนตกงานหรือไม่ได้ทำงานเต็มกำลัง นี่จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แต่ก็ขึ้น 5 บาท 10 บาท ไม่รู้ซื้ออะไรได้

รัฐบาลซึ่งอยู่ในช่วงปีที่ 3 และรออีกปีกว่าถึงมีเลือกตั้ง (แต่ก็ได้รัฐบาลจากระบอบเดิม) จึงกลัวความไม่พอใจจากปัญหาปากท้อง  ซื้อใจไว้ก่อนไม่เห็นเป็นไร (ไม่ใช่ซื้อเสียง)

เพียงแต่ขณะเดียวกัน ก็ยอมรับเสียสิครับ ว่าการใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือช่วยเหลือคนยากจน เป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าจะเรียกประชารัฐหรือประชานิยม ก็เป็นอำนาจของรัฐบาลที่ต้องตัดสินใจดำเนินนโยบาย ถูกผิด ชอบไม่ชอบ ก็ให้ประชาชนตัดสินทางการเมือง ไม่ใช่ให้อำนาจองค์กรอิสระเข้ามาตัดสิน ตามร่างรัฐธรรมนูญ

เพราะเชื่อได้เลย ถ้ารัฐบาลเลือกตั้งทำอย่างนี้บ้าง ก็จะมีคนไปร้อง สตง. ป.ป.ช. กกต. ให้ตีความเอาผิด ออกคำเตือน คำสั่งห้าม ฯลฯ กลายเป็นเอกสิทธิ์ ลุงตู่เท่านั้นที่ทำได้ ไชโย

 

Back to top button