พาราสาวะถี อรชุน
วันนี้ พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร 50 วัน เวลา 17.00 น. พระสงฆ์ 30 รูปสวดพระพุทธมนต์จบ มีพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา ส่วนวันพรุ่งนี้ เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 30 รูปสวดถวายพรพระ รับพระราชทานฉัน มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา ประเคนผ้าไตรพระ 89 รูป เท่าพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
วันนี้ พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร 50 วัน เวลา 17.00 น. พระสงฆ์ 30 รูปสวดพระพุทธมนต์จบ มีพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา ส่วนวันพรุ่งนี้ เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 30 รูปสวดถวายพรพระ รับพระราชทานฉัน มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา ประเคนผ้าไตรพระ 89 รูป เท่าพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ขณะที่ส่วนราชการทั่วประเทศก็พร้อมใจกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์เนื่องในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร 50 วัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมคณะรัฐมนตรีร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพร้อมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ส่วนที่รัฐสภา พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. นำคณะทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป
บรรยากาศการเมืองหันมาพูดกันด้วยเรื่องโรดแมปการเลือกตั้ง ในเมื่อยืนยันว่าทุกอย่างไม่มีเปลี่ยนแปลง แล้วเหตุใด บิ๊กตู่จึงออกอารมณ์โมโหตะคอกใส่นักข่าวบอกว่าเบื่อ อย่าถามเรื่องนี้อีก มันอึดอัดอะไรขนาดนั้น หรือที่เขาว่ากันมาการหย่อนบัตรของประชาชนจะเร็วกว่าที่คาดมันเป็นความจริง ถ้าเช่นนั้นก็พอจะเข้าใจอารมณ์ท่านผู้นำได้
หลอกให้ดีใจหรือไม่แม่นในข้อกฎหมาย เมื่อวันจันทร์ นรชิต สิงหเสนี เพิ่งตั้งโต๊ะแถลงข่าวในฐานะโฆษกกรธ. บอกพรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมได้หลังจากที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้ แต่คล้อยหลังไม่ถึง 24 ชั่วโมง สุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธานกรธ.ออกมาพูดไปอีกทางนั่นเป็นแค่การคาดเดา
เพราะเอาเข้าจริงอาจจะไม่ใช่แค่รอให้กฎหมายพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้ แต่ต้องรอให้กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.คลอดมาพร้อมกัน เนื่องจากกระบวนการทั้งหมดเกี่ยวเนื่องกัน อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ได้ทำกิจกรรม แต่สุพจน์ก็เชื่อว่าบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลายน่าจะเตรียมความพร้อมไว้แล้ว เมื่อถึงเวลาคงไม่มีปัญหาเรื่องการเตรียมตัวไม่ทัน
คำตอบที่ออกมาดูเหมือนว่ายังไม่ชัดเจน ต้องตอกย้ำอีกกระทอกจาก มีชัย ฤชุพันธุ์ คราวนี้แจ่มแจ้งแดงแจ๋ แม้ว่ากฎหมายพรรคการเมืองจะมีผลบังคับใช้ไปแล้ว แต่การจะอนุญาตให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมหรือไม่ขึ้นอยู่กับคสช. เพราะกฎหมายพิเศษทั้งประกาศและคำสั่งของคสช.ยังอยู่ กฎหมายลูกของรัฐธรรมนูญต้องหลบไป
เอากันเสียให้ชัดแบบนี้ คนที่ไม่ได้รู้สึกอินังขังขอบต่อการได้ทำกิจกรรมทางการเมืองกลับเป็น สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทยที่น่าจับตามอง เพราะท่วงทำนองการให้สัมภาษณ์ล่าสุดมันน่าจะเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง เริ่มที่ประเด็นการดำเนินงานของรัฐบาลปัจจุบันรวมไปถึงการร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเจ๊หน่อยบอกว่าไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อเปิดสิทธิและเสรีภาพให้กับนักการเมืองและประชาชน
นั่นหมายความว่า การทำงานของรัฐบาลไม่ได้ดำเนินการไปสู่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง จึงไม่ใช่การดำเนินงานที่จะเดินไปสู่การเลือกตั้งได้ ดอกเดียวยังไม่พอเจ้าแม่กทม.ของพรรคนายใหญ่ ตามซ้ำด้วยดาบสอง ประเทศไทยติดหล่มมานาน รัฐบาลและคสช.ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าและเป็นประชาธิปไตย แต่กลับไม่เห็นความชัดเจนใดที่จะดำเนินการตามสัญญานั้นได้
ดังนั้น การจะเลื่อนโรดแมปการเลือกตั้งออกไปหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของคสช.ที่จะต้องตอบคำถามและอธิบายให้กับประชาชนคนไทยรวมไปถึงประชาคมโลกให้เข้าใจ เพราะได้ไปสัญญาไว้แล้วว่าเราจะทำตามสัญญา จากนักการเมืองหญิงที่ได้รับคำชมจากหัวหน้าคสช.ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่น่าให้การสนับสนุน เจอวลีทองเหล่านี้ไปไม่รู้ว่าบิ๊กตู่ยังจะมีความคิดแบบเดิมอยู่หรือเปล่า
วนเวียนอยู่กับปมย้อนแย้งในสิ่งที่ตัวเองเกลียด ว่าคนอื่นทำแล้วชั่วไม่ดี จึงหาวิธีแถไถพลิกแพลงหลายตลบแต่ก็จบด้วยผลลัพธ์ที่ไม่ต่างจากนักการเมือง พรรคการเมืองเคยทำในอดีต มีข่าวแว่วว่ารัฐบาลจะตัดงบประมาณกระทรวงสาธารณสุข วันวานไปประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่กระทรวงคุณหมอ ท่านผู้นำจึงหยอดคำหวานไม่มีแนวคิดที่จะหั่นงบประมาณแม้แต่น้อย
จนหลายคนเกิดคำถาม ที่ทุ่มงบประมาณแจกให้คนมีรายได้น้อย ตามด้วยมาตรการช้อปช่วยชาติ แล้วบอกว่าไม่มีปัญหาเรื่องรัฐสูญเสียรายได้ เลยไม่รู้ว่ามันจะเชื่อถือดีไหม ว่าแล้ว วัฒนา เมืองสุข ขาเก่าเจ้าประจำของรัฐบาลคสช. ก็ออกมาแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว กรณีมติครม.เห็นชอบกรอบวงเงินจำนวน 12,750 ล้านบาทเพื่อแจกผู้มีรายได้น้อยด้วยหัวข้อสนทนา “สิ้นคิดแถมยังผิดกฎหมาย”
มติครม.ดังกล่าว เป็นการใช้เงินในส่วนของงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น หรือรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2561 ตามที่สำนักงบประมาณเห็นสมควร โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย สำรองจ่ายค่าใช้จ่ายไปก่อนและชดเชยต้นทุนเงินให้กับธนาคาร
เท่ากับรัฐบาลทำผิดกฎหมายก่อหนี้กู้ยืมเงินจากธนาคารโดยไม่ได้ออกเป็นกฎหมายรองรับ จึงไม่ผูกพันที่รัฐสภาจะต้องอนุมัติงบประมาณประจำปี 2561 จำนวนดังกล่าวให้ จึงถือเป็นมติครม.ที่ขัดต่อกฎหมายและธนาคารที่ปล่อยกู้อาจจะไม่ได้รับเงินคืน ป.ป.ช.และสตง.ที่เคยขยันเล่นงานแต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์กรุณาอย่าเพิกเฉยกับเรื่องนี้
การแจกเงินยังแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลขาดสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืน โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าเกษตรที่มีปัญหาเรื่องราคา ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา และข้าวโพด วิสัยทัศน์ของท่านผู้นำ จึงมีเพียงชวนข้าราชการออกกำลังในเวลาราชการและใช้ปากแก้ปัญหา เช่น โทษเกษตรกรที่ปลูกกันมากเองหรืออยากได้ราคาให้เอาไปขายที่ดาวอังคาร
วัฒนาออกตัวว่าไม่ได้คัดค้านผลประโยชน์ของประชาชน แต่รัฐบาลจะต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย หัวใจสำคัญของเศรษฐกิจคือความเชื่อมั่น แต่การที่ประเทศเป็นเผด็จการ มีหัวหน้ารัฐบาลที่ขาดวิสัยทัศน์แต่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเหนือทุกองค์กรและทุกคนตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ไม่มีใครกล้ามาลงทุน เพราะอาจสิ้นคิดออกคำสั่งยึดกิจการของนักลงทุนแบบที่เคยเกิดขึ้นในอเมริกาใต้ หรือยึดทรัพย์นักลงทุนแบบทัวร์ศูนย์เหรียญ
ดังนั้น หากรักชาติและต้องการให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น หัวหน้ารัฐบาลจะต้องกำหนดเวลาที่จะมีการเลือกตั้ง ประกาศว่าตัวเองและพรรคพวกจะไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศอีกต่อไป เว้นแต่จะลงเลือกตั้ง เพียงเท่านี้บรรยากาศของการลงทุนจะดีขึ้นและขยะสังคมที่พูดถึงก็จะหมดไปทันที ทิ้งท้ายในสิ่งที่ท่านผู้นำไม่อยากพูดถึงเสียด้วย แบบนี้คงมองเห็นอนาคตกันยาก