หุ้นน้ำมันลูบคมตลาดทุน

ธนะชัย ณ นคร

 

วานนี้มูลค่าการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นไทยกลับมาหนาแน่น หรือกว่า 6.99 หมื่นล้านบาท

ถือว่าดีขึ้นจากหลายวันก่อนหน้านี้ ที่ตัวเลขออกมาต่อวันไม่เกิน 4 หมื่นล้านบาท

มาร์เก็ตติ้งนั่งตบยุงกันเพลินเลย

ที่น่าสนใจคือ ในช่วงชั่วโมงสุดท้าย วอลุ่มซื้อขายเข้ามาถึง 3 หมื่นล้านบาท

ในมุมมองของนักวิเคราะห์บอกว่า เป็นการ “ปรับพอร์ต” ของนักลงทุน หลังจากตลาดหุ้นไทยได้ถูกปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนจาก MSCI เมื่อวานนี้ (30 พ.ย.)

ส่วนเรื่อง “น้ำมัน” ก็เป็นปัจจัยหนุนเช่นกัน

ตลอดวานนี้ มีรายงานข่าวออกมาเป็นระยะว่า น่าจะมีข่าวดีสำหรับการประชุมของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือกลุ่มโอเปก ที่มีการประชุมกันที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

หลายประเทศสมาชิกพร้อมให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิต

ระหว่างนั่งเขียนคอลัมน์นี้

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าก็ดีดขึ้นเช่นกัน เพื่อขานรับกับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปกจะบรรลุข้อตกลงกันได้

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า ยิ่งแล้วใหญ่ครับ

เพราะปรับขึ้นมาอย่างแรงกว่า 6% ทำให้สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) วิ่งขึ้นมาเกือบแตะ 48 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.

ก่อนการประชุมที่กรุงเวียนนาจะเริ่มขึ้น

ข่าวเกี่ยวกับประเทศในกลุ่มโอเปก และนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย มีออกมาต่อเนื่อง

หากวันไหนใครออกมากล่าวที่เป็นข่าวเชิงบวกสักหน่อย

                สัญญาน้ำมันดิบก็ดีดขึ้นทันที

แต่หากช่วงไหน วันใด มีข่าวเชิงลบ หรือประเทศใดออกมาพูดเป็นเชิงว่า ยังคงต้องการคงกำลังการผลิตน้ำมันของตนเองไว้

หรืออาจไม่ได้เข้าร่วมประชุมกับกลุ่มโอเปก

สัญญาน้ำมันดิบก็ปรับลงทันที

ก่อนหน้านี้มีการประชุมของกลุ่มโอเปกอยู่หลายครั้ง

ครั้งล่าสุดคือเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ในวันนั้น ก็มีข่าวว่า อาจจะมีการบรรลุข้อตกลงเพื่อปรับลดกำลังการผลิตกันได้

ทว่าในที่สุดก็ไม่สามารถตกลงกันได้ และให้แต่ละประเทศไปทำการบ้าน นั่งทบทวนกันใหม่ แล้วนัดประชุมกันอีกครั้งเมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) หรือเวลา 16.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย

ปัญหาก่อนหน้านี้คือ อิหร่าน ไม่ต้องการปรับลดกำลังการผลิตของตนเองออกมา เพราะต้องการผลิตน้ำมันดิบชดเชยกับช่วงที่ถูกคว่ำบาตรไป

ไนจีเรีย และลิเบียก็ไม่ต้องการเช่นกัน

เพราะทั้ง 2 ประเทศอยู่ในช่วงภาวะสงคราม หรือเกิดความขัดแย้งภายในประเทศ

ในที่ประชุมของกลุ่มโอเปกเลยพอจะหยวนๆ ให้กับ 3 ประเทศดังกล่าวได้รับการยกเว้นไม่ต้องปรับลดกำลังการผลิต

กลุ่มโอเปกนั้น ต้องการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบจากระดับ 33.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลงมาเหลือที่ 33.5–33.0 ล้านบาร์ต่อวัน หรือลดลงมา  6 แสนบาร์เรล ถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

โกลด์แมน แซคส์ ได้ออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับราคาน้ำมัน

โดยระบุว่า สมาชิกโอเปกจะเผชิญกับการเจรจาต่อรองอย่างหนักในการประชุม

และหากตกลงกันไม่ได้ จะทำให้ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 45 ดอลลาร์/บาร์เรลจนถึงช่วงฤดูร้อนปีหน้า

ทว่า หากโอเปกบรรลุข้อตกลงลดการผลิตน้ำมันสู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลงจาก 33.82 ล้านบาร์เรล/วันในเดือน ต.ค. ราคาน้ำมันดิบก็จะดีดตัวขึ้นทะลุกรอบ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล

วานนี้ หุ้น PTT ปิดตลาดบวกขึ้นมา 7 บาท ปิดที่ 349 บาท เปลี่ยนแปลง 2.05%

ส่วน PTTEP บวก1 บาท ปิดที่ 82.50 บาท เปลี่ยนแปลง 1.23%

TOP ปิดบวก 2 บาท ปิดที่ 74.00 บาท เปลี่ยนแปลง 2.78%

IRPC ก็บวกขึ้นมา 0.06 บาท ปิดที่ 4.84 บาท เปลี่ยนแปลง 1.26%

เช้าวันนี้ ผลการหารือของกลุ่มโอเปกน่าจะมีออกมาแล้ว แต่ราคาน้ำมัน กับหุ้นน้ำมัน

ราคาต่างวิ่งกันไปล่วงหน้ากันแล้ว