ปตท.ที่มิใช่แค่น้ำมันขี่พายุ ทะลุฟ้า

ชาญชัย สงวนวงศ์

 

เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ผมมีโอกาสได้เดินทางไปนครเวียงจันทน์ เพื่อจะไปเยี่ยมชมกิจการปั๊มน้ำมันปตท.ที่บัดนี้ขยายตัวไปถึง 29 แห่ง กระจายตัวไป 10 กว่าแขวงในสปป.ลาวแล้ว

คุณสรัญ รังคศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการปิโตรเลียมขั้นปลาย และคุณอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์   รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน ได้ร่วมให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง

ในตลาดค้าปลีกน้ำมันในลาวเท่าที่เห็น ก็คงจะมีแข่งขันกันอยู่ 3 เจ้านี่แหละ คือบริษัท เชื้อไฟลาว, ปิโตรเวียดของเวียดนาม และก็เป็นปตท.น้องใหม่ล่าสุดจากไทย

แต่ก็มาแรงมาก!

เพราะเป็นสถานีบริการน้ำมันที่ครบเครื่องทั้งการจำหน่ายน้ำมัน การให้บริการ และการค้าปลีก ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันสมัยใหม่ได้เป็นอันดี

เป็นปั๊มที่ออกจะดูเท่และดูมีระดับเสียด้วยซ้ำในสายตาชาวลาว

ห้องน้ำสะอาดเป็นมาตรฐานเดียวกับปั๊มปตท.ในไทย ร้านกาแฟอะเมซอนเห็นเด่นเป็นสง่า และร้านสะดวกซื้อภายใต้ชื่อแบรนด์จิฟฟี่ ที่ปตท.ซื้อไปจากเจท ยักษ์ใหญ่น้ำมันสหรัฐฯ

นอกจากนี้ก็ยังมีคาร์แคร์เจ้า “วิสาร์ด” ร้านค้าเอสเอ็มอีอาทิ ร้านหมูแผ่นหมูหยองปึงหงี่เชียง ร้านหมูปิ้งกริลพอร์ค เย็นตาโฟมัลลิกา ขนมไทยและเค้กขึ้นชื่อจากขอนแก่น รวมทั้งร้านเอาท์เลทให้เลือกช้อปสินค้าแฟชั่น

ปั๊มปตท.ในลาว จึงเป็นปั๊มที่ฉีกตัวแหวกแนวไปกว่าใคร รถราเข้าออกดูจะคึกคักมากกว่าปั๊มอื่นๆ ซึ่งก็คงจะเป็นเพราะความครบเครื่อง ที่มิได้ให้บริการค้าน้ำมันแต่เพียงอย่างเดียว

หากยังมีการค้าปลีกทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า และข้าวของเครื่องใช้ประจำวันอีกด้วย

รองฯอรรถพลพูดถึงกำไรจากการขายน้ำมันกับการค้าปลีก จะอยู่ในระดับเดียวกันที่ 3-5% แต่ธุรกิจน้ำมันมีต้นทุนที่สูงมาก นอกจากนั้นธุรกิจบริการก็ยังจะให้กำไรที่สูงกว่า

นี่คือความจำเป็นในการปรับยุทธศาสตร์ของปตท. โดยการแยกธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกออกมาจัดตั้งเป็นบริษัท ปตท.น้ำมันและค้าปลีก หรือ PTTOR

เรื่องปรับยุทธศาสตร์แล้ว ประสิทธิภาพจะดีขึ้นหรือไม่ อันนี้ก็คงจะเห็นกันชัดเจนแล้วในขั้นตอนการแยกธุรกิจปัจจุบัน ที่มีความคล่องตัวสูงขึ้นมาก แม้ยังไม่ถึงขั้นปรับเปลี่ยนเต็มรูปในการตั้งบริษัทใหม่ก็ตาม

รายได้ก็คงจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะมีทั้งขารายได้ด้านน้ำมัน และขารายได้ด้านการค้าปลีกร่วมกับรายได้จากการบริการ

ไม่ต้องพึ่งพารายได้จากน้ำมันเพียงขาเดียวเหมือนแต่ก่อน

ปตท.ได้ขยายการลงทุนปั๊มน้ำมันในอาเซียนอย่างรวดเร็วมาก ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 170 แห่ง นอกจากลาว 29 แห่งแล้ว ก็ยังมีกัมพูชา 28 แห่ง เมียนมา 8 แห่ง และฟิลิปปินส์ 105 แห่ง

ตั้งเป้าอีก 10 ปีข้างหน้าคือ 2569 จะมีปั๊มปตท. 500 ปั๊มในอาเซียน

เมื่อรวมกับปตท.ในประเทศที่มีอยู่แล้ว 1,400 ปั๊ม ธุรกิจน้ำมันของปตท.จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอย่างมหาศาล

จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการแยกตัวเองออกจากบริษัทแม่เพื่อให้เกิดความคล่องตัว เพิ่มประสิทธิภาพ และเพิ่มรายได้ ผลกำไร

บริษัท PTTOR ตั้งขึ้นมาเพื่อจะตอบโจทย์ความหวังความต้องการเช่นว่านั้น