STPI กำลังมา?
การประเมินราคาหุ้นของ STPI เป็นอะไรที่พูดยากมากๆ เพราะการทะยานขึ้นในแต่ละรอบ มักมีปัจจัยที่แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง จึงต้องมองไปที่รอบขึ้นของหุ้นจะยาวนานแค่ไหน หรือรูปแบบที่นักลงทุนถนัดเล่นเป็นแบบไหน
สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย
คุณสุกิจ จากรามอินทรา กรุงเทพฯ พูดถึงหุ้น STPI หรือ บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) เริ่มปรับตัวขึ้นตัวขึ้นรอบใหม่ ทั้งที่ก่อนหน้าประมาณ 2 ปี ราคาหุ้นไหลลงมาตลอด จึงสงสัยว่า การทะยานขึ้นรอบนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน หลังผมคำนวณราคาหุ้นจากค่า P/E ด้วยตัวเองแล้วพบว่า หุ้นยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีกค่อนข้างเยอะนั้น อาจารย์คิดเหมือนผมไหมครับ
การประเมินราคาหุ้นของ STPI หรือ บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) เป็นอะไรที่พูดยากมากๆ เพราะการทะยานขึ้นในแต่ละรอบ มักมีปัจจัยที่แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง จึงต้องมองไปที่รอบขึ้นของหุ้นจะยาวนานแค่ไหน หรือรูปแบบที่นักลงทุนถนัดเล่นเป็นแบบไหน
เนื่องจากปัจจัยข้างต้นจะเป็นตัวบอกให้นักลงทุนรู้ว่า STPI เป็นหุ้นที่เหมาะต่อการลงทุนจริงไหม? เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเห็นนักลงทุนเจ๊งกับหุ้นตัวนี้หลายรายด้วยกัน จึงขอเอาเกร็ดความรู้จากคนที่เคยโดนหุ้นตัวนี้เล่นงานมาเล่าให้ฟัง เพื่อใช้เป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจซื้อหุ้นนะครับ
สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนทุกรายมีเหมือนกันคือ ซื้อหุ้นบนความคาดหวังที่ค่อนข้างสูงเกินไป และสุดท้ายมักพบกับความผิดหวังเป็นประจำ ซึ่งเป็นผลมาจากตัวนักลงทุนขาดระเบียบวินัยในการลงทุน และยังชอบเข้าข้างตัวเองเป็นประจำว่า เดี๋ยวหุ้นก็ขึ้นในไม่ช้า ทั้งที่ผลขาดทุนตอนนั้นเกินระดับ 10% ไปแล้ว
โดยนักลงทุนรายหนึ่งที่เผชิญกับการขาดทุนจากหุ้น STPI เคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า เขาวิเคราะห์โดยเอาอดีตมาใช้มากเกินไป ทั้งที่ความเป็นจริงพบว่า ทุกวันนี้เราต้องมองอนาคตเป็นหลัก และเขาก็ผิดพลาดตรงที่ไม่มองอนาคตเลย มองงบการเงินตอนนั้นยังดี จึงคิดว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น
เขาเลยสรุปให้อาจารย์ฟังว่า ถ้ามองอย่างนักลงทุนระยะยาวจริงๆ ตัวนี้ไม่ได้แย่อะไรหรอก ถ้าหางานรับเหมาใหญ่ๆ มาได้สัก 1-2 โครงการ ตัวเลขกำไรในช่วง 1-2 ปีหลังจากนั้นจะดีมากๆ ปัญหาคือหางานใหม่มาเติมความหวังไม่ได้ ราคาหุ้นก็เลยร่วงลงมาเรื่อยๆ ราคาหุ้นที่เห็นว่าถูกสุดๆ จึงกลายเป็นภาพลวงตา
สิ่งที่ได้จากบทเรียนตรงนี้คือ ถ้าธุรกิจไหนคนมองว่า เสี่ยงหรือโตช้าจะให้ PE ต่ำ แต่ถ้ามองอย่างทะลุปรุโปร่งว่า เป็นเหตุการณ์ชั่วคราว และสามารถเก็บหุ้นได้ในราคาต่ำ ในไม่ช้าคุณเป็นเศรษฐีแน่นอนครับ
ฉะนั้นเมื่อย้อนกลับมาดูค่า P/E ที่ระดับ 8.60 เท่า ย่อมเป็นจุดที่เหมาะสำหรับคนที่เชื่อว่า STPI คือคำตอบของการลงทุนรอบใหม่ โดยมีความหวังว่า กำไรในไตรมาส 4 น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และกำไรจะโตต่อเนื่องไปถึงปี 60 ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ราคาหุ้นทะยานขึ้นแรงอีกรอบ(ดูกราฟประกอบ)
สรุปวันนี้คือ หากเชื่อว่า STPI จะทำผลงานได้ดีขึ้น ก็ถึงเวลาทยอยเก็บหุ้น แต่สำหรับอาจารย์กลับมองเรื่องนี้เป็นจังหวะของการลงทุนสั้นๆ เพราะข่าวจริงยังไม่ปรากฏแน่ชัด จึงอย่าไปตั้งความหวังอะไรเยอะในภาวะตลาดหุ้นผันผวนเลยครับ
…
กราฟประกอบคอลัมน์ : Aspen, ราคาปิด ณ วันที่ 2 ธ.ค.59