ด่านหิน 1,520 จุดโมนิก้าและทีมงาน

*เสน่ห์ของตลาดหุ้นไทยที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างหนึ่งก็คือ ไม่มีอะไรแน่นอนตายตัว พวกนักลงทุนสถาบันตัวแสบยังคงทำตัวเป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอกกันอย่างสนุกสนาน ส่วนพวกแมงเม่ายังคงอาศัยจังหวะตีกินไปเรื่อยๆ ภาพรวมของการลงทุนถึงไม่ได้เลวร้ายอย่างสุดกู่ และไม่ได้เลิศหรูอลังการงานสร้างจนเกิดอาการเคลิบเคลิ้ม ผลของเรื่องดังกล่าวถึงทำให้ดัชนียังวนเวียนไปมาอยู่ที่เดิมไงล่ะค่ะ


*เสน่ห์ของตลาดหุ้นไทยที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างหนึ่งก็คือ ไม่มีอะไรแน่นอนตายตัว พวกนักลงทุนสถาบันตัวแสบยังคงทำตัวเป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอกกันอย่างสนุกสนาน ส่วนพวกแมงเม่ายังคงอาศัยจังหวะตีกินไปเรื่อยๆ ภาพรวมของการลงทุนถึงไม่ได้เลวร้ายอย่างสุดกู่ และไม่ได้เลิศหรูอลังการงานสร้างจนเกิดอาการเคลิบเคลิ้ม ผลของเรื่องดังกล่าวถึงทำให้ดัชนียังวนเวียนไปมาอยู่ที่เดิมไงล่ะค่ะ

*วันนี้จึงไม่ต้องถามถึงเหตุผลที่จะทำให้ดัชนีเดินหน้าขึ้นไปทดสอบ 1,550 จุด เพราะสิ่งที่เห็นมาเป็นเวลานานคือ ดัชนีต้องผ่านด่านหิน 1,520 จุดไปให้ได้เสียก่อน ต่อจากนั้นต้องย่ำฐานจนแน่นปึ้กอีกสักระยะหนึ่ง ก่อนจะวิ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบน ซึ่งเป็นเรื่องที่มีการเม้าท์กันมาสักระยะหนึ่งแล้ว “โมนิก้า” ถึงอยากจะเม้าท์เรื่องนี้เพิ่มเติมอีกสักนิดหนึ่งเจ้าค่ะ

*เนื่องจากเที่ยวนี้กลายเป็นนักลงทุนต่างชาติที่หวนกลับเข้ามาซื้อหุ้น 1.20 พันล้านบาท ส่วนพวกปอบผีฟ้าเข้าซื้อหุ้นไปกว่า 300 ล้านบาท และที่ขาดไม่ได้เลยเป็นประจำทุกครั้งก็คือ กองทุนตัวแสบเข้าซื้อไปกว่า 200 ล้านบาท ขณะที่แมงเม่าปล่อยของออกไปกว่า 1.70 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมดันหุ้นบลูชิพรอบใหม่ที่นักเล่นต้องยึดคติ “ขายหมูดีกว่าติดดอย” นะคะ

*ฉะนั้น อย่าแปลกใจที่ดัชนีเป๋ไปเป๋มาตลอดภาคเช้า แต่พอถึงภาคบ่ายดันกระชากขึ้นมาปิดที่ 1,516.48 จุด บวกไป 14.82 จุด ด้วยมูลค่า 3.96 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจุดที่น่าสังเกตว่า การขึ้นเที่ยวนี้ไม่มีวอลุ่มซัพพอร์ตเท่าที่ควร จึงไม่แน่ใจว่า ดัชนีจะไปได้ไกลกว่ารอบที่แล้วมา? หรือแม้กระทั่งผ่านไปได้อย่างแจ่มแจ๋ว ก็คงไปไม่ถึงสวรรค์ชั้น 7 อีกกระมัง…อิอิอิ

*เหมือนกับในรายของพี่เทพ PTTEP โดนมรสุมข่าวกระหน่ำเข้ามาไม่ขาดสาย ล่าสุดก็มีข่าวโดนรัฐบาลอินโดฯสั่งปิดโครงการขุดเจาะน้ำมัน พอสืบไปสืบมากลายเป็นว่า ยังไม่มีการทำหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ อาการแพนิคเลยค่อยๆ จางหาย แรงซื้อเริ่มกลับเข้ามาแทนที่แรงเทขาย วานนี้ถึงเห็นหุ้นปิดที่ 91.25 บาท บวกไป 1.75 บาท ด้วยมูลค่า 2.68 พันล้านบาท น้องโมมองเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นล้วนๆ เจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเหลือบดูหุ้นแม่ PTT สักหน่อยก็แล้วกัน เพราะในช่วงหลังๆ เริ่มมีเสน่ห์เร้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นหุ้นที่พยายามทำ new high ตลอดเวลาแบบนี้ มันเป็นจังหวะของการตามน้ำไปดูโดยไม่มีข้อแม้ แถมการขึ้นมาปิดที่ 367 บาท บวกไป 11 บาท ด้วยมูลค่า 2.28 พันล้านบาท เป็นแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันเสียด้วย…ราคาหุ้นคงไม่จบแค่นี้แน่ๆ พะยะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ GL ทำไปทำมากลายเป็นว่า มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 62 บาท ด้วยมูลค่า 970 ล้านบาท พร้อมกับทำ new high นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้น “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของพวกโหนกระแสที่นิยมความรวดเร็วเป็นชีวิตจิตใจ ขนาดมีคำทักท้วงจากสำนักงาน ก.ล.ต. หุ้นยังไม่มีอาการหงอให้เห็นแม้แต่นิดเดียวเลยนะจ๊ะ

*คล้ายคลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ TLUXE นับตั้งแต่งบไตรมาส 3 ออกมาสวยสดงดงาม ราคาหุ้นก็ตั้งหน้าตั้งตาขึ้นลูกเดียว จนล่าสุดเห็นหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 8.65 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่า 300 ล้านบาท พร้อมกับทำจุดสูงสุดในรอบ 1 ปี 8 เดือน “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่นักลงทุนต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด เพราะหุ้นเคยเปิดตัวหรูๆ แล้วลงเอยด้วยการเข้ารกเข้าพงหลายรอบแล้วนะซี

*หากยังมองประเด็นดังกล่าวไม่ออก “โมนิก้า” ขอแวบไปดูหุ้น STA เพื่อจูนให้เข้าบรรยากาศดังกล่าวสักหน่อย เพราะการขยับตัวของหุ้นล้อไปตามวัฏจักรของธุรกิจ จึงไม่ต้องแปลกใจที่เห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 18.40 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 7.60% ด้วยมูลค่า 451 ล้านบาท โดยทิศทางขาขึ้นของหุ้นเริ่มตั้งแต่กลางเดือนต.ค. ซึ่งตอนนั้นราคาหุ้นยืนอยู่ที่ 11 บาทต้นๆ ถ้าวันนี้จะตามไปดูอีก ก็ต้องเผื่อทางหนีไว้บ้างนะคะ

*ส่วนตัวทีเด็ดอย่าง TACC ถือเป็นของดีที่ไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะตามท้องเรื่องมีข้อมูลแจ๋วๆ ที่จะทยอยออกมาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ของหุ้นจอมโปรเจ็กต์ที่ติดตัวมาตั้งแต่ก่อนเข้าตลาดหุ้น เมื่อได้ทั้งเงินทุนที่หนาขึ้น บวกกับคอนเน็กชั่นที่ปึ้กขึ้นกว่าเดิม วานนี้ถึงเห็นออกสเต็ปด้วยการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 9.90 บาท บวกไป 0.15 บาท ด้วยมูลค่า 270 ล้านบาทไงล่ะค่ะ

*ส่วนเสือสุ่มอย่างพระเอกตัวจริง AJD ยังคงเป็นทางเลือกสำหรับนักเล่นที่ชอบหุ้นต่ำกว่า 5 บาท เพราะรูปแบบของการเล่นนับตั้งแต่ต้นปีเป็นแบบ “เข้าทำเร็ว” โดยมีผลประกอบการเป็นแบ็คอัพหลักในการเรียกความเชื่อมั่น คิดดูแล้วกันวันนี้เทรดที่ราคา 1.94 บาท ซึ่งอยู่บนค่า  P/E 27 เท่า มันไม่ได้สูงเกินไปเมื่อเทียบกับยอดขายตู้เติมเงินที่ตั้งเป้าไว้ 5 หมื่นตู้ ซึ่งเราเคยเห็นกันมาแล้วว่า ไตรมาส 3 ทำได้ 3 หมื่นตู้ กำไรโตระเบิดระเบ้อขนาดไหน…อิอิอิ

*ตบท้ายกันที่หญิงแกร่ง “หลุยส์” ซึ่งกำลังจะก้าวขึ้นมานั่งเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งอาณาจักร TRITN “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่เหมาะสมทุกประการ เพราะจะทำให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้นกว่าเดิม และยังได้เรียนรู้กระบวนการทางความคิดของผู้นำคนใหม่แบบนี้ น้องโมมองเป็นเรื่องของจังหวะเวลาที่เวียนมาบรรจบพอดี จึงน่าจะช่วยหนุนให้ทิศทางของหุ้นตัวนี้ดีขึ้นในปี 60 นะคะ

Back to top button