JAS เพราะไม่ปรึกษาเสี่ยพิชญ์

แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

 

ปีนี้ ชื่อของหุ้นบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในหุ้นที่อื้อฉาวที่สุดของบริษัทจดทะเบียน แต่จะอื้อฉาวอย่างไร มูลค่าการซื้อขายก็ยังได้รับความนิยมจากนักลงทุนไม่เสื่อมคลาย เพราะเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนในด้านของ มูลค่าของผู้ถือหุ้น หรือ shareholder’s value ที่โดดเด่นที่สุด แม้ว่าความโดดเด่นดังกล่าวจะมีต้นทุนด้วยการล้างผลาญกำไรสะสมของบริษัทลง….อย่างฮวบฮาบ ก็ตาม

ชื่อของเสี่ยพิชญ์ โพธารามิก…นักสร้างราคาหุ้นอย่างถูกกติกามารยาท…ไม่เคยถูกลงโทษจาก ก.ล.ต.

เหตุผลก็เพราะมากับตำรากฎหมาย..ที่กอดแน่น ชนิดแกะไม่ออก …ทำอะไรก็ไม่ผิด

ฉายาของเสี่ยพิชญ์ ไม่ได้มาโดยบังเอิญ หรือ โชคช่วย

ไม่มีปฏิบัติการเรื่องของ “นอนมา มีพระนำ”ให้วุ่นวาย

เพิ่งจะมีเรื่องอื้อฉาวจากกรรมการคนหนึ่งของ JAS ในเรื่องใช้ข้อมูลวงใน จนกระทั่งถูกเปรียบเทียบปรับมากมายหลายล้านจาก ก.ล.ต.  แถมยังเป็นการใช้ข้อมูลวงใน ไม่ใช่เพื่อซื้อขายหุ้นสามัญหรือ วอร์แรนต์ของ JAS แต่…เป็นการหาประโยชน์จากลาภอันมิควรได้ จากการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ ที่ใช้ราคาอ้างอิงราคาจาก JAS เป็นปฐม

จะหลบเลี่ยงไปไกลแค่ไหน ยังต้องแอบอิงกับJAS วันยังค่ำ

ถือเป็นปฏิบัติการนอกคอกที่เล่นนอกบท…มิใช่สไตล์ เสี่ยพิชญ์ แน่นอน

แต่เป็นสไตล์จำเพาะ ของ นายโสรัชย์ อัศวะประภา เอง จนกระทั่งปัจจุบันถือเป็นอดีตกรรมการของ JAS ไปเรียบร้อยแล้ว

รายละเอียดน่าสนใจทีเดียว เพราะอยู่ในคำประกาศของ ก.ล.ต.เอง

 เริ่มจาก ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นายโสรัชย์ ในฐานะที่เป็นกรรมการของ JAS ได้ทราบข้อมูลจากหนังสือเชิญประชุมคณะกรรมการบริษัทว่า ในวันที่ 25 มกราคม 2559 จะมีการพิจารณาจ่ายเงินปันผลประจำปี 2558 นายโสรัชย์ จึงได้สั่งซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (เปิดสถานะ) JASH16 Futures ซึ่งเป็นสัญญาฯ ที่อ้างอิงกับราคาหุ้น JAS จำนวน 10,000 สัญญา (1 สัญญามีขนาดเท่ากับ 1,000 หุ้น) หรือ เทียบเคียง 10 ล้านหุ้นก่อนเข้าประชุมในวันดังกล่าว

ต่อมาภายหลังจาก JAS ได้เปิดเผยข้อมูลการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ราคาหุ้น JAS ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น นายโสรัชย์จึงได้สั่งขายสัญญา (ปิดสถานะ) JASH16 Futures และได้รับกำไรจากการลงทุน

เอกสาร ก.ล.ต. ไม่ได้บอกว่านายโสรัชย์กำไรกี่มากน้อย แต่ คิดง่ายๆ คือ ต้องอยู่ระหว่าง เลข 7-8 หลัก

ยังไม่ได้มีแค่นี้ …ต่อมาอีก  นายโสรัชย์ได้ทราบข้อมูลจากหนังสือเชิญประชุมคณะกรรมการบริษัทว่า ในวันที่ 7 มีนาคม 2559 คณะกรรมการ JAS จะพิจารณาอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนด้วยราคา 5.00 บาท ซึ่งเป็นราคาซื้อที่สูงกว่าราคาตลาด(ขณะนั้น 3.60 บาทเศษ)  นายโสรัชย์ได้สั่งซื้อ (เปิดสถานะ) JASH16 Futures อีกครั้งจำนวน 8,000 สัญญา (เทียบเคียงกับ 8 แสนหุ้น) ในวันที่ 2 มีนาคม 2559

อีกเช่นเคย หลังจาก JAS ได้เปิดเผยข้อมูลโครงการดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ราคาหุ้น JAS ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น นายโสรัชย์จึงได้สั่งขาย (ปิดสถานะ) JASH16 Futures และได้รับกำไรจากการลงทุนเช่นเดียวกัน         

พฤติกรรมการใช้ข้อมูลวงในลักษณะข้างต้นแล้ว นายโสรัชย์มิได้เปิดเผยข้อมูลการมีส่วนได้เสียของตนจากการเป็นผู้ถือ JASH16 Futures ให้คณะกรรมการบริษัททราบ ก่อนการออกเสียงลงมติในการเข้าประชุมทั้งสองครั้งด้วย…ผิดหลักธรรมาภิบาลเบ็ดเสร็จ

ข้อมูลดังกล่าว มีผลให้นายโสรัชย์ต้องหลุดจากการเป็นกรรมการของ JAS แต่…ยังรวมไปถึงการเป็นกรรมการและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯทุกแห่ง เพราะว่า “ขาดความน่าไว้วางใจให้เป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน” ตามคำสั่ง ก.ล.ต. เป็นเวลานาน 2 ปี

นอกเหนือจากนั้น นายโสรัชย์ ยังถูกเปรียบเทียบปรับเป็นวงเงินจากการทำผิดชนิดมีใบเสร็จเต็มๆ ดังกล่าว 5,560,000 บาท กรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แสวงหาประโยชน์จากอินไซเดอร์ เทรดดิ้ง

การกระทำความผิดแล้วถูกตรวจสอบได้อย่างนี้…มีคำถามเชิงสมมติฐานว่าเกิดขึ้นเพราะนายโสรัชย์ ไม่ยอมปรึกษาเสี่ยพิชญ์ ผู้ช่ำชองเชิงยุทธ์ในเรื่องหุ้นทุกแง่มุม…โดยเฉพาะหุ้น JAS

เล่นจะรวยคนเดียวเงียบๆ ก็เลยเจอวิบากกรรมจากประเด็นเรื่อง “ของปลอม ทำ(ไม่)เหมือน”เช่นนี้

เพราะ………ถ้าปรึกษาเสี่ยพิชญ์แล้ว รับรอง…ปลอดความผิดแน่นอน

“อิ อิ อิ”