ความหวังของหุ้น CHOลูบคมตลาดทุน
ปัญหาเรื่องรถโดยสารปรับอากาศ NGV กำลังเป็น “ความหวัง” อีกครั้งของ บมจ. ช ทวี หรือหุ้น CHO
ธนะชัย ณ นคร
ปัญหาเรื่องรถโดยสารปรับอากาศ NGV กำลังเป็น “ความหวัง” อีกครั้งของ บมจ. ช ทวี หรือหุ้น CHO
เพราะล่าสุด “สุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล” ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ออกมาบอกว่า หากบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวีไม่ทัน
ก็พร้อมจะปรับเงิน และยกเลิกสัญญาทันที
จริงๆ เบสท์รินฯ ยังมีเวลาเหลืออีกเยอะ
เพราะกำหนดการส่งมอบนั้นคือ วันที่ 29 ธ.ค.59 ทั้งหมด 489 คัน
ส่วนรอบที่มีปัญหาเป็นล็อตแรกจำนวน 100 คัน มีกำหนดจะส่งมอบให้ก่อน ในวันที่ 15 ธ.ค.59
เบสท์รินฯ อ้างว่า หากกรมศุลกากรยังไม่ปล่อยรถล็อตนี้ ก็จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปตีธง จุดพลุ เปิดตัวรถเมล์เอ็นจีวี ให้ประชาชนทดลองนั่งไม่ทันในวันที่ 21 ธ.ค.นี้
ประเด็นของปัญหารถเมล์ล็อตนี้ ก็คือกรมศุลกากรตั้งข้อสงสัยเอาไว้
เพราะรถเมล์ที่นำเข้ามา อาจไม่ได้ประกอบที่ประเทศมาเลเซีย โดยใช้ชิ้นส่วนในอาเซียนเกิน 40%
และทำให้ได้รับข้อยกเว้นด้านภาษี หรือเสียภาษีศูนย์เปอร์เซ็นต์
กรมศุลฯ สงสัยว่า รถเมล์อาจจะประกอบมาจากประเทศจีน ทั้งหมด (หรือไม่)
เพราะหากเป็นเช่นนั้น เบสท์รินฯ ก็จะต้องเสียภาษีพร้อมค่าปรับ
หรือมีโทษตามกฎหมายคือปรับ 4 เท่าของราคาสินค้าบวกอากร แต่ถ้าเจรจาและยอมความกันต้องเสียค่าปรับ 2 เท่าของภาษีอากร คิดเป็นมูลค่าประมาณ 300-400 ล้านบาท
กรมศุลฯ ให้ทางเลือกของ เบสท์รินไว้ครับ
นั่นคือ ต้องวางแบงก์การันตี ด้วยเงินเท่ากับมูลค่าสินค้า อากร บวกค่าปรับ แล้วนำรถเมล์ออกไปได้
มีการตั้งประเด็นคำถามว่า
หากเบสท์รินฯ มั่นใจว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน (การประกอบรถเมล์) และถูกต้องแน่นอน เหตุใดถึงไม่เลือกตามแนวทางของกรมศุลฯ ที่เสนอมา
และเหตุใดถึงเลือกแนวทางการให้ข่าว หรือแถลงข่าวตอบโต้
ยังมีประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติมอีกนะ
คือ การแถลงข่าวของกรมศุลฯ ครั้งนี้ เหมือนมีการเตรียมข้อมูลมาดีมาก
ผู้บริหารออกมาแถลงข่าวอย่างมั่นใจในข้อมูลของตนเอง พร้อมกับมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปประเทศมาเลเซียด้วย
สรุปง่ายๆ คือ “ข้อมูลแน่นมาก”
ว่ากันว่า ปัญหารอบนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารของกระทรวง หรือของ ขสมก.เอง ก็ไม่มีใครกล้าออกตัวแทนเบสท์รินฯ
แม้กระทั่ง “บิ๊กตู่” นายกรัฐมนตรีเอง ก็กล่าวย้ำว่า จะต้องทำให้ “ถูกต้องตามกฎระเบียบ”
ย้อนกลับไปดูข้อมูลเก่ากันสักหน่อย
เรื่องรถเมล์นั้นมีปัญหามาช้านานมากนับตั้งแต่ปี 2545 มีอาถรรพ์มาโดยตลอด เจอปัญหาสารพัด
กระทั่งมาเปิดประมูลอีกครั้งในรัฐบาล คสช.
ครั้งแรกผลชนะในครั้งนั้นตกเป็นของ บมจ. ช ทวี (CHO) หรือ ชื่อในขณะนั้น คือ “ช. ทวี ดอลลาเซียน”
แต่ปรากฏว่า “เค่อ นัว หลิน” ประธานบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป ที่พ่ายแพ้ในการประมูล มายื่นเรื่องว่า การประมูลไม่โปร่งใส และขอให้มีการตรวจสอบในทุกขั้นตอน
และนำมาซึ่งการยกเลิกการประมูลในที่สุด
ต่อมา ขสมก.จึงเปิดประมูลครั้งใหม่
ผลออกมาคือ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ราคา 3,389.70 ล้านบาท
ก็ต้องติดตามเรื่องรถเมล์กันต่อไปว่า ปัญหาจบลงอย่างไร
หรือหากเบสท์รินฯ มีปัญหาการส่งมอบจริงๆ ก็อาจะทำให้ ขสมก.ทำเรื่องประมูลใหม่ขึ้นมา
เมื่อถึงเวลานั้น CHO ก็น่าจะเข้าร่วมประมูล(อีกครั้ง)ด้วย
สำหรับ CHO นั้น ล่าสุดเพิ่งได้รับการประกาศจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็น 1 ใน 55 บจ. ที่ได้รับ Thailand Sustainability Investment หรือ “หุ้นยั่งยืน” ประจำปี 2559
สะท้อนถึง บจ. เห็นความสำคัญและมีพัฒนาการในการดำเนินธุรกิจสู่ความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน
คำนึงถึงความสมดุลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล