สังคมข่าวหุ้นนิวส์เวฟ
ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,521.84 จุด ปรับลดลง 8.96 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 4.9 หมื่นล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,521.84 จุด ปรับลดลง 8.96 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 4.9 หมื่นล้านบาท
* สุดท้ายตลาดหุ้นไทยปิดตัวในแดนลบกันไป ถึงแม้ในช่วงระหว่างวันดัชนีจะไล่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,531 จุด แต่ด้วยแรงขายหุ้นใหญ่กลุ่มพลังงานและกลุ่มสื่อสารบางตัวที่สาดออกมา จึงได้กดดันให้พี่ SET ถอยกลับมาปิดแดนลบจนได้
* โดยขาเข้าซื้อสุทธิทางรายย่อยนำทัพเข้าเก็บไป 1,504 ล้านบาท ตามด้วยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 79 ล้านบาท ส่วนฝั่งเทขายสถาบันสาดออก 1,440 ล้านบาท และต่างชาติ 144 ล้านบาท
* เอาละเปิดกันด้วยหุ้นแรก ขอเลือก WHA กันไปเลย
* ความน่าสนใจหลักอยู่ที่ตัวงบไตรมาส 4 ซึ่งมีโอกาสทำกำไรนิวไฮตั้งแต่จัดตั้งบริษัททีเดียว
* โดยล่าสุด ทางโบรกฯ ประเมินกำไรไตรมาส 4 จะมีโอกาสทำกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้นจำนวน 2,500 ล้านบาท
* แรงหนุนหลักเป็นผลจากการบันทึกรายได้ขายสินทรัพย์ให้กองรีท2กอง มูลค่ารวม10,200ล้านบาท
* ซึ่งผลักดันให้งบไตรมาส 4 ออกมาโดดเด้งเกินคาด พร้อมกับหนุนให้งบปี 59 จะมีโอกาสฟาดกำไรรวมเฉียด 3,000 ล้านบาททันที
* ล่าสุด หุ้นปิดการซื้อขายที่ 3 บาท ยังคงเป็นจุดที่เข้าเก็บได้สบายๆ เพราะเมื่อเทียบกับสตอรี่บวกหนุนหุ้นรายทาง เช่น งบปี 60 ที่ยังมีโอกาสโตต่อเนื่อง หรือ แผนการนำ WHAUP เข้าจดทะเบียน
* เนื่องจากถือเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อหุ้น WHA ทั้งเชิงระยะสั้นและระยะยาว
* หุ้น CPF น่าสนใจไม่เบา เพราะล่าสุดประเดิมส่งออกเนื้อไก่มาตรฐานล็อตแรกไปยังเกาหลีใต้กันแล้ว
* หลังจากในช่วงประมาณ 12 ปีที่ผ่านมา เกาหลีใต้ ยกเว้นนำเข้าไก่บ้านเรา เพราะเกิดปัญหาไข้หวัดนก
* จึงถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อทาง CPF แบบเต็มสูบ เพราะแค่ตัวฐานออเดอร์งานดั้งเดิมก็โตเด่นอยู่แล้ว
* แต่นับจากนี้ไปจะได้ออเดอร์จากทางฝั่งเกาหลีใต้เข้ามาช่วยหนุนเพิ่มเติมอีก โดยจะสะท้อนผลบวกได้เต็มที่ในปี 60 จึงขอให้จับตาดูกันไว้ด้วย
* JAS-W3 ร้อนแรงจริงๆ ช่วงที่ผ่านมาราคาวอร์แรนต์ในกระดานบวกต้นทุนแปลงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ
* มีต้นทุนรวมต่ำกว่าตัวหุ้นแม่ JAS ในกระดานมากพอตัว
* แต่ล่าสุด JAS-W3 ปิดบวก 4.50 บาท บวกกับค่าแปลงสิทธิอีก 3.904 บาท เท่ากับมีต้นทุนรวม 8.40 บาท กลายเป็นราคาเทียบเท่าหุ้นแม่ไปแล้ว
* งานนี้ ความน่าสนใจจึงย้ายไปที่ตัวแม่ JAS เป็นหลักมากกว่า JAS-W3 แทนทันที
* และยังมีปัจจัยที่น่าจับตาคือภายใน 15-16 ธ.ค. ถือเป็น 2 วันทำการสุดท้ายที่อยู่ในช่วงกำหนดการจำหน่ายหุ้นซื้อคืน 1,200 ล้านหุ้น
* หากทางบริษัทไม่มีการขายหุ้นซื้อคืนออกมา ขั้นตอนต่อไปเตรียมเข้าสู่กระบวนการตัดลดทุน และจะส่งผลให้เงินปันผลต่อหุ้นในอนาคตสูงขึ้นอีกมากโข
* หุ้น STA วิ่งบวกร้อนแรงไปกว่า 12% มาซื้อขายแถวระดับ 22 บาท
* เมื่อวานวอลุ่มไหลเข้าตัวหุ้น STA แบบถาโถมใส่ไม่ยั้งไปกว่า 1,100 ล้านบาท
* เป็นผลจากกรณีราคายางพาราที่ทยอยเพิ่มขึ้น จึงผลักดันให้เกิดแรงเก็งกำไรเข้ามา
* ฟากโบรกเองยังร่วมมองเชิงบวกพร้อมกับปรับเพิ่มกำไรปี 60 และราคาเป้าหมายใหม่เหนือระดับ 20 บาททันที
* แต่ขณะนี้หุ้นวิ่งมาร้อนแรงเกินไปแล้ว จึงถือเป็นโอกาสดีที่จะขายทำกำไรออกไปก่อน
* ปิดท้ายด้วยหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากช่วงนี้มีความคึกคักและโดดเด่นกว่าใครเพื่อน
* ซึ่งวันนี้จะมีอีกหนึ่งปัจจัยให้ได้ลุ้น คือ การเปิดราคาสัญญา 5 สายสีส้ม และมีราคากลางอยู่ที่ 4,915 ล้านบาท
* โดยฝั่งเอกชนที่ได้รับการพิจารณาและได้ลุ้นในสัญญา 5 นี้ ได้แก่ กลุ่ม CKST JOINT VENTURE ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่าง CKและSTEC
* รวมถึงยังมีหุ้น ITD และทาง UNIQ ที่เข้ามาลุ้นชิงคว้างานไปครองด้วยเช่นกัน
* ดังนั้น ใครที่มีหุ้นรับเหมาก่อสร้างอยู่ในมือ ขอให้จับตาดูกันอย่างใกล้ชิด ห้ามพลาดความเคลื่อนไหวเด็ดขาด