HANA กำไรดีขึ้น
ทางด้านนักวิเคราะห์มีการปรับมุมมองต่อ HANA มาเป็นบวกมากขึ้นหลังพบว่ายอดขาย semiconductor ทั่วโลกได้ขยับเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และทำสถิติสูงสุดใหม่ในเดือนตุลาคม จากอุปสงค์ของผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มสต็อก หลังจากที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 58
–คุณค่าบริษัท–
ทางด้านนักวิเคราะห์มีการปรับมุมมองต่อ บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA มาเป็นบวกมากขึ้นหลังพบว่ายอดขาย semiconductor ทั่วโลกได้ขยับเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และทำสถิติสูงสุดใหม่ในเดือนตุลาคม จากอุปสงค์ของผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มสต็อก หลังจากที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 58
นอกจากนี้ ก็ยังเห็นว่าผลประกอบการของ HANA ก็ดีขึ้นในไตรมาส 3 ปี 59 ตามยอดขายในตลาดโลกเช่นกัน โดยยอดขายได้ขยับขึ้นเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบห้าไตรมาส ในขณะที่ยอดขายจากธุรกิจ PC คิดเป็นสัดส่วนเพียงแค่ 13% ของยอดขายรวม เมื่อเทียบกับในปี 2557 อยู่ที่ 33% ทำให้มองว่าผลการดำเนินงานของ HANA มี downside จำกัด
ทั้งนี้ ยอดขาย semiconductor โลกที่ดีขึ้นจากการฟื้นตัวของ PC, Smartphones และอุปกรณ์ในรถยนต์ จะส่งผลดีโดยตรงต่อ HANA ในขณะที่ยอดขายและราคาหุ้นมีสหสัมพันธ์กับยอดขายในตลาดโลกสูงถึง 80-90%
ทางด้านผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 5,489.13 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 5,422.17 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 569.01 ล้านบาท หรือ 0.71 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 328.66 ล้านบาท หรือ 0.41 บาทต่อหุ้น
ส่วนผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 15,351.04 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 15,755.72 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,469.96 ล้านบาท หรือ 1.83 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,244.60 ล้านบาท หรือ 1.55 บาทต่อหุ้น เป็นการตอกย้ำว่าบริษัทมีความแข็งแกร่งจริงๆ
อย่างไรก็ตาม HANA มีแผนจะขยายกำลังการผลิต IC ที่โรงงานอยุธยาอีกประมาณ 10-15% เป็น 4.3-4.5 พันล้านชิ้นต่อปี โดยจะเริ่มในไตรมาส 2 ปี 60 เนื่องจากยอดสั่งซื้อใหม่ๆ ที่เพิ่มตามการเติบโของยอดขาย semiconductor โลกทำให้ HANA ต้องผลิตเกือบเต็มกำลังการผลิตแล้ว
ดังนั้น นักวิเคราะห์ บล. กรุงศรี ปรับเพิ่มสมมติฐานยอดขายของธุรกิจ IC ในปี 2560-2561 ขึ้นอีกปีละ 9% เป็น US$250 ล้าน และ US$257 ล้าน ส่งผลให้ประมาณการ EPS ปี 60 อยู่ที่ 6.8% เพิ่มขึ้นเป็น 2.8 บาทและปี 61 เพิ่มขึ้น 11.9% เป็น 3.2 บาท
ยิ่งไปกว่านั้น ยังคาดว่าแนวโน้มเงินบาทที่อ่อนค่าลง ก็น่าจะส่งผลดีต่อ HANA เนื่องจากยอดขายทั้ง 100% ของบริษัทอยู่ในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ 60% ของต้นทุนการผลิตรวมอยู่ในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจากการวิเคราะห์พบว่าค่าเงินบาทที่อ่อนลง 1% จะทำให้กำไรสุทธิของ HANA เพิ่มขึ้น ประมาณ 3.0% (กรณีฐานของเราอยู่ที่ 36.0 บาท/US$)
ส่งผลให้ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 43 บาท
…
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
1. OMAC (HK) LIMITED 172,480,000 หุ้น 21.43%
2. CREDIT SUISSE AG, SINGAPORE BRANCH 84,075,000 หุ้น 10.45%
3. STATE STREET BANK EUROPE LIMITED 59,351,834 หุ้น 7.37%
4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 56,115,746 หุ้น 6.97%
5. บริษัท โอแมค จำกัด 40,939,360 หุ้น 5.09%
รายชื่อกรรมการ
1.นาย บัญชา ทานพระกร ประธานกรรมการ
2.นาย บัญชา ทานพระ กรกรรมการอิสระ
3.นาย บัญชา ทานพระกร ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ
4.นาย ริชาร์ด เดวิด ฮัน กรรมการ
5.นาย วินสัน มุง ชู ฮุย กรรมการ