ซานต้า คลอส หรือ แมวตายเด้ง

บ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา แรงซื้อของรายย่อยดันดัชนีตลาดที่ทำท่าร่อแร่ให้บวกแกร่ง ไม่ลงไปใต้ 1,500 จุด แม้จะมีแรงขายของต่างชาติและกองทุนสวนออกมา แต่รายย่อยก็แสดงพลังว่าหากถึงเวลาจริงขึ้นมา ไม้ซีกก็งัดไม้ซุงได้


พลวัต 2016 : วิษณุ โชลิตกุล

 

บ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา แรงซื้อของรายย่อยดันดัชนีตลาดที่ทำท่าร่อแร่ให้บวกแกร่ง ไม่ลงไปใต้ 1,500 จุด แม้จะมีแรงขายของต่างชาติและกองทุนสวนออกมา แต่รายย่อยก็แสดงพลังว่าหากถึงเวลาจริงขึ้นมา ไม้ซีกก็งัดไม้ซุงได้ 

เพียงแต่เส้นกราฟเทคนิคที่ดูน่าเป็นห่วง ว่ายังไม่ผ่านเส้นแนวต้าน 20 วันก็มีคำถามว่าเหตุการณ์บ่ายวันศุกร์เป็นแค่ “แมวตายเด้ง” หรือซานต้า คลอส แรลลี่ กันแน่

สัปดาห์นี้คงได้เห็นกัน เพราะสถานการณ์ตลาดหุ้นปลายปีที่มูลค่าซื้อขายประจำวันต่ำนั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้เนื่องจากปริมาณการซื้อขายที่ต่ำ ทำให้การดันหรือการทุบทำได้ง่ายขึ้น

คำอธิบายว่า ช่วงที่มูลค่าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่ำ ก็คงไม่ต้องทำอะไร เพื่อจะทำให้ตลาดหุ้นฟื้นคืน แล้วเสียงเรียกหา “ช้อนทองคำ” เพื่อที่จะเข้ามาพลิกสถานการณ์ให้ตลาดกลับมาเป็นขาขึ้นระลอกใหม่ก็เปล่าประโยชน์

ในยามที่ตลาดซึมตัวลง แบบไซด์เวย์ ดาวน์ คำอธิบายใดๆ ที่ไม่สามารถชี้ให้เห็นได้ว่า ตลาดจะกลับมาคึกคัก และฟื้นตัวพลิกกลับจากการซึมลงแบบไซด์เวย์ เป็นขาขึ้นระลอกใหม่ จึงมักจะเกิดขึ้น แต่หากตลาดเกิดพลิกตัวกลับแม้มีมูลค่าต่ำ ก็อาจจะมีคำอธิบายแบบสูตรสำเร็จตามมาด้วยคำอธิบายที่นักวิเคราะห์บางสำนักเรียกว่า แนวรับรูปแบบสามเหลี่ยมใหญ่ที่เป็นจุดซื้อหุ้นกลับอีกครั้ง

ช้อนทองคำของตลาดหุ้น หมายถึงภาวะที่ราคาหุ้นสำคัญหรือดัชนีของตลาด พลิกกลับจากจังหวะขาลงมาเป็นขาขึ้น ซึ่งมี 2 แนวทาง คือ ระยะสั้น กับระยะกลาง (หรือยาว)

ช้อนทองคำระยะสั้น เรียกกันว่า เทคนิคัล รีบาวด์ หมายถึงการเปลี่ยนทิศทางกะทันหันของราคาหรือดัชนีตลาดหุ้น เป็นขาขึ้นชั่วคราว (ในที่นี้ รวมหมายถึงการรีบาวด์ขาลงที่เรียกว่า แมวตายเด้ง (dead-cat rebound) ด้วย)

ส่วนช้อนทองคำระยะกลาง (หรือยาว) หมายถึงภาวะกระทิง ซึ่งเป็นช่วงเวลาของขาขึ้นที่ยาวนาน (ส่วนใหญ่จะมีอย่างน้อย 4 ระลอกเป็นขั้นบันได) แต่ภาวะช้อนทองคำหลังสุดนี้ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ นักลงทุนส่วนใหญ่ของตลาดมีอารมณ์ชัดเจนในเรื่องของความเชื่อมั่นต่อตลาดโดยรวม ความเชื่อมั่นต่ออนาคตของหุ้นรายตัวที่ถืออยู่ และความคาดหวังทางบวกต่อผลของการลงทุน

ช้อนทองคำนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากอารมณ์ร่วมของนักลงทุนที่เรียกกันว่า ท่าทีกระทิง (bill position) หมายถึงความต้องการที่จะเข้าซื้อหลักทรัพย์หรือหุ้นในตลาดเพื่อถือเอาไว้ทำกำไรในอนาคต หรือที่รู้จักกันง่ายๆ ว่ายุทธศาสตร์ “ซื้อแล้วถือ” นั่นเอง

โจทย์สำคัญที่นักลงทุนต้องค้นหาให้ได้ เพื่อจะไม่ต้องพลาดอยู่ที่ว่า จะสามารถอ่านสัญญาณล่วงหน้าได้หรือไม่ว่า ช่วงจังหวะของ “ช้อนทองคำ” นั้น ควรจะเกิดขึ้นเมื่อใด ที่ไม่ใช่ซื้อเมื่อคิดว่าถูกแล้ว แต่ยังมีถูกกว่าเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก

การได้มาซึ่ง “ช้อนทองคำ” จึงเรียกร้องประสบการณ์ค่อนข้างมาก ไม่ใช่ได้มาแบบฟรีๆ และส้มหล่น โดยไม่ผ่านกระบวนการของประสบการณ์

เพียงแต่ปรากฏการณ์เมื่อวันศุกร์ ก็ชวนให้ตั้งข้อสังเกตว่า ช่วงเวลาที่ผิดปกติที่สุด  มีสถิติที่นักวิเคราะห์และนักลงทุนเก๋าเกม 3 สัปดาห์ระหว่างข้ามปีก่อนวันคริสต์มาสถึงวันที่ 8 มกราคม ว่าเป็นช่วงเวลาที่ขาขึ้นดีที่สุดของตลาดหุ้น

สถิติดังกล่าวเป็นที่มาของคำนิยามในตลาดหุ้นอเมริกาและยุโรปหลายชื่อแต่ความหมายล้วนเป็นเชิงบวกทำนองเดียวกันเพียงแต่รายละเอียดแตกต่างกัน เพียงแต่เป็นข้อสังเกตที่ไม่ใช่สูตรสำเร็จ เพราะเป็นแค่สถิติที่หยาบและยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นระบบที่สำคัญในบางปีที่วนเวียนกลับก็ไม่เกิดขึ้น และอาจจะทำให้นักลงทุนหลงผิดได้ 

ที่ผ่านมา นับจากชัยชนะผิดคาดของโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งสหรัฐจนถึงในช่วงต้นเดือนธันวาคม ทำให้หุ้นธนาคารและไฟแนนซ์ถูกขายทำกำไรทั่วโลก แรงขายจากความวิตกถึงผลสะเทือนของเฟด ต่อสู้กับแรงโหมของโอกาสซื้อของถูกที่มีความเสี่ยงเจือปนอยู่ด้วย

นับแต่ดัชนีดาวโจนส์ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ 20,000 จุดได้ คำถามว่าด้วย “ซานต้า คลอส แรลลี่” หรือ “คริสต์มาส แรลลี่” จึงเกิดขึ้นไม่ขาดระยะ

การพักฐานของวอลล์สตรีทช่วงสั้นๆ ในขณะที่ค่าดอลลาร์เริ่มทรงตัวชั่วคราวไม่กี่วันที่ผ่านมา จึงถือเป็นโอกาสที่ทำให้มีมุมมองใหม่ที่เพิ่มความหวังสำหรับการลงทุนว่าตลาดจะเป็นขาขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคม เพราะตลาดรอการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าปีนี้เพราะภาวะเงินฝืดหรือเงินเฟ้อติดลบ 

โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยที่มีปัจจัยบวกเหมาะกับซานต้า คลอส แรลลี่เต็มเหนี่ยว ด้วย 3 ปัจจัยหลักคือ 1) มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศระดับหัวแถวของโลก 2) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐหลายด้านพร้อมกัน 3) สภาพคล่องเฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนในตลาด ที่มีหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ดี/อี) ต่ำสุดในเอเชีย 

ความโน้มเอียงจะเกิดซานต้าคลอสแรลลี่ในตลาดหุ้นไทย จึงเป็นไปได้ และถือเป็นอารมณ์ที่ส่งผลบวกต่อการลงทุนอย่างแท้จริง หากไม่นับความยากลำบากทางด้านผลประกอบการของหุ้นกลุ่มสื่อโทรทัศน์และสื่อสารแล้ว ทิศทางขาขึ้นของหุ้นหลักอย่างธนาคาร ค้าปลีก พลังงาน และบริการเป็นสิ่งที่สัมผัสได้

เพียงแต่นักลงทุนรายย่อยจะต้องมั่นใจในอนาคตมากขึ้นอีกกว่าระดับปกติเท่านั้น ทุกอย่างไม่เกินกว่าคาด แล้ว “แมวตายเด้ง” จะไม่เกิดขึ้น

Back to top button