คุณตลาด 2559พลวัต 2016
เป็นธรรมเนียมเสียแล้ว ที่จะต้องนำนิทานคร่ำครึเรื่องนี้มาเล่า ไม่ใช่เพราะขี้เกียจหรือนึกอะไรไม่ทัน แต่ด้วยความรักและปรารถนาดีต่อนักลงทุนรายย่อยที่เป็นแฟนคลับของ ข่าวหุ้นธุรกิจ
วิษณุ โชลิตกุล
เป็นธรรมเนียมเสียแล้ว ที่จะต้องนำนิทานคร่ำครึเรื่องนี้มาเล่า ไม่ใช่เพราะขี้เกียจหรือนึกอะไรไม่ทัน แต่ด้วยความรักและปรารถนาดีต่อนักลงทุนรายย่อยที่เป็นแฟนคลับของ ข่าวหุ้นธุรกิจ
ปีนี้ก็เช่นกัน แม้สถานการณ์จะแตกต่างจากปีก่อนๆ
ปี 2559 เริ่มต้นด้วยดัชนีที่ต่ำระดับ 1,280 จุดเพราะตลาดทั่วโลกพากันวิตกว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ 4 ครั้ง หลังจากขึ้นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ในเดือนธันวาคมปีก่อน ผสมกับวิกฤตราคาน้ำมัน และ เศรษฐกิจจีนที่กำลังซื้อหดหาย
ดัชนีในกลางเดือนมกราคมที่ร่วงลงไปที่ 1,240 จุด ได้รับแรงซื้อกลับ จนกระทั่งล่าสุดสิ้นปีนี้ มีโอกาสที่จะปิดที่เหนือระดับ 1,550 จุดได้ หากไม่มีอะไรเลวร้ายมาถ่วงเสียก่อน
สภาพตลาดหุ้นไทยที่ “ต้นร้ายปลายดี” เช่นนี้ (ไม่มีหุ้น IPO ตัวใดเลยที่หลุดจอง) ถือว่าเป็นตลาดที่มีความแข็งแกร่งดีมาก ทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายในเอง ที่สำคัญคุณภาพของสินค้าและตัวนักลงทุนในตลาดมีการยกระดับขึ้นอย่างชัดเจน แต่เรื่องราว “ไม่รู้จบ” ของตลาดหุ้นที่มีปัจจัยของการเก็งกำไรเป็นองค์ประกอบที่ขาดเสียไม่ได้ ยังคงเป็นสิ่งที่จำต้องได้รับการเตือนสติกันอยู่เรื่อยๆ
มีนิทานเก่าแก่ที่สอนใจนักลงทุน เขียนโดยเบนจามิน แกรห์ม ต้นกำเนิดของกลยุทธ์ลงทุนในพอร์ตโฟลิโอแบบเน้นคุณค่า แต่ก็ยังคงใช้การได้อยู่เรื่อยๆ จากข้อสรุปที่ว่า เพื่อนรักที่นักลงทุนไม่สามารถไว้วางใจได้เลย ไม่ว่าจะใกล้ชิดเพียงใด คือ คุณตลาด…มีรายละเอียดดังนี้
เพื่อนรักของนักลงทุนทุกคน มีชื่อว่า คุณตลาด จะเข้ามาสร้างความสนิทสนมกับนักลงทุนเองในทุกๆ เช้าอย่างคุ้นเคย แล้วก็บอกว่าราคาหุ้นที่ซื้อขายกันในตลาดเมื่อวานนี้ในตัวที่เขาสนใจเป็นอย่างไร ราคาเปิด ราคาปิด แนวต้าน แนวรับ และความเคลื่อนไหวระหว่างวัน
จากนั้นเขาก็สาธยายออกมาว่า เส้นสัญญาณทางเทคนิคบอกเอาไว้ว่าอย่างไรและเบื้องหลังเหตุผลในการเปลี่ยนแปลงราคา เกิดจากปัจจัยแวดล้อมอะไรบ้าง
แล้วคุณตลาดจะบอกเพิ่มเติมอีกว่า เขามีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้สามารถหากำไรจากราคาหุ้นที่เขาซื้อขายได้ จากนั้นเขาก็จะแนะนำหุ้นเด็ด สำหรับเปิดตลาดเช้าวันนี้ให้ โดยบอกว่า มีทีเด็ดอะไรบ้าง
ข้อมูลของคุณตลาดนั้น เขาบอกเอาไว้เลยว่า ไม่ต้องใส่ใจเลยว่ามันจะสัมพันธ์กับคุณค่าหรือตัวเลขทางบัญชีหรือผลประกอบการใดๆ ของบริษัทที่เป็นเจ้าของหุ้นในตลาด เพราะราคามีความเคลื่อนไหวอย่างเป็นอิสระในระยะสั้นๆ ตามกลไกของตลาดคือแรงขายกับแรงซื้อ
เขาย้ำว่า อารมณ์อยากซื้อหรือขาย มันเป็นอารมณ์ที่แก้ไขได้ยาก นักลงทุนที่ไหนก็มีกันในตัว แต่หากสังเกต จะพบได้ไม่ยากในหลายๆ ครั้งว่า ความรู้สึกและอารมณ์ของคุณตลาดนั้น เกิดจากจินตนาการของเขาเองมากกว่าจากข้อเท็จจริง
ตัวอย่างเช่น เวลาที่เขารู้สึกอิ่มเอิบ เขาจะมองเห็นข้อดีเต็มไปหมด เวลาที่เขาตื่นเต้นคึกคัก เขาจะรีบร้อนซื้อขายมือเป็นระวิง ราวกับว่าจะถูกคนอื่นแย่งซื้อขายหรือชักผลประโยชน์จากเขามากเกินไป แต่ยามใดที่เขารู้สึกเศร้าหมอง เขาจะมองเห็นแต่เรื่องเศร้าสลดรอบด้าน แล้วก็จะสั่งขายอย่างเดียว
แม้นิสัยอย่างที่กล่าวมาข้างต้นจะน่าเบื่ออยู่บ้าง แต่คุณตลาดก็มีข้อดีคือ เขาไม่ใส่ใจกับอารมณ์แปรปรวนของคนอื่นๆ เวลาที่มีคนไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของเขา หรือไม่มีใครใส่ใจกับคำแนะนำให้ซื้อให้ขายของเขา เขาก็จะหายหน้าไปพักหนึ่ง แต่วันรุ่งขึ้น เขาก็จะกลับมาทักทายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เป้าหมายของคุณตลาดก็คือ ให้เพื่อนๆ ของเขาซื้อและขายบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขาถือว่า ยิ่งซื้อขายมากเท่าใด จะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย
แต่ก็นั่นแหละ เขาไม่เคยบอกกับใครๆ เลยว่า ซินเดอเรลล่าในงานเลี้ยงที่พระราชวังของเจ้าชายรูปงามนั้น หลังเที่ยงคืนไปแล้วจะกลายเป็นสาวใช้ และรถเทียมม้าโก้หรูที่โดยสารมา จะกลายเป็นแค่ฟักทองในสวน กับหนูโสโครกในท่อระบายน้ำ
เขาบอกว่า หน้าที่ของเขาคือ ให้บริการข้อมูลกับเพื่อนๆ ไม่มีหน้าที่ในการชี้นำเพื่อนๆ ให้ไปตามที่เขาต้องการ เพราะเขาเป็นคนใจกว้าง จิตสงบนิ่ง และเป็นประชาธิปไตยเสมอ
เขาบอกเสมอว่า กระเป๋าเงินสำคัญกว่าไขมันที่อยู่ในสมองเสมอ เพราะมันทำประโยชน์ให้ได้มากกว่า เนื่องจากจับต้องได้ ไม่ใช่สิ่งเลื่อนลอย
ที่สำคัญ เพื่อนๆ อยากจะต่อว่าหรือด่าทอ หรือขัดคอเขาใดๆ ก็ย่อมได้ทั้งนั้น เพราะเขาเป็นคนด้านชาที่ไม่เคยถือโกรธใครเลย
สิ่งที่คุณตลาดเตือนเพื่อนๆ ก็มีอยู่เพียงแค่ว่า อย่ายอมตกอยู่ใต้อิทธิพลของเขา หรืออ้างว่าซื้อขายเพราะเขาชี้นำก็แล้วกัน เพราะเขาไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ คำแนะนำก็เป็นแค่การให้ข้อมูลที่เป็นกลางด้วยสุจริตใจเท่านั้นเอง เพื่อให้เพื่อนๆ รู้ว่ากติกาของเกมที่กำลังกระทำกันอยู่นั้น มันมีอะไรบ้าง
คุณตลาดจะพร่ำย้ำเสมอด้วยถ้อยคำของนักการพนันโป๊กเกอร์ว่า “หากคุณนั่งลงที่โต๊ะนานเกินครึ่งชั่วโมง แล้วยังไม่รู้ว่าคนในวงมีใครเป็นหมูตู้บ้าง ขอให้จำไว้เสมอว่า คุณนั่นแหละคือหมูตู้เสียเอง”
……….
นิทานเปรียบเปรยเรื่องนี้ ใครจะบอกว่าเย้ยหยันนักลงทุน หรือเย้ยหยันการเก็งกำไร หรือเย้ยหยันระบบทุนนิยม ก็สุดแท้จะคิดกัน แต่ขาใหญ่อย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์ ชอบนำนิทานเรื่องนี้ไปเล่ามาก