ว่าแต่เขา..อิเหนาเป็นเองโมนิก้าและทีมงาน
*เดิมที “โมนิก้า” ตั้งใจจะพูดถึงเรื่องชิวๆ สบายๆ เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยในวารดิถีขึ้นปีใหม่ บวกกับเห็นผู้บริหารของบริษัทต่างๆ แสดงความมั่นใจเกี่ยวกับผลงานในปี 60 น่าจะออกมาดีกว่าปี 59 ย่อมกระตุ้นให้เดี๊ยนเร่งหาข่าวสารดีๆ มาเล่าสู่กันฟังทุกวัน หลังเห็นหุ้นโภคภัณฑ์ทะยานขึ้นทำ new high กันอย่างสนุกสนาน ผสมโรงกับหุ้นบลูชิพออกอาการดี๊ด๊ากันถ้วนหน้าแบบนี้..แฮปปี้สุดๆ เจ้าค่ะ
*เดิมที “โมนิก้า” ตั้งใจจะพูดถึงเรื่องชิวๆ สบายๆ เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยในวารดิถีขึ้นปีใหม่ บวกกับเห็นผู้บริหารของบริษัทต่างๆ แสดงความมั่นใจเกี่ยวกับผลงานในปี 60 น่าจะออกมาดีกว่าปี 59 ย่อมกระตุ้นให้เดี๊ยนเร่งหาข่าวสารดีๆ มาเล่าสู่กันฟังทุกวัน หลังเห็นหุ้นโภคภัณฑ์ทะยานขึ้นทำ new high กันอย่างสนุกสนาน ผสมโรงกับหุ้นบลูชิพออกอาการดี๊ด๊ากันถ้วนหน้าแบบนี้..แฮปปี้สุดๆ เจ้าค่ะ
*เผอิญสิ่งดีๆ ที่อยากจะเม้าท์ถึงเยอะแยะ ดันมาเจอกระแสโตไปไม่โกง เตะตัดขาเพื่อสกัดดาวรุ่งเสียก่อน “โมนิก้า” จึงต้องวกกลับมาดูเผือกร้อนที่เกี่ยวกับคนทั้งประเทศเสียหน่อย หลังผู้หลักผู้ใหญ่อย่าง “พิชิต อัคราทิตย์” ซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่ง รมช.คมนาคม แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการส่งมอบรถเมล์ NGV จำนวน 489 คันแบบปัดสวะไปให้พ้นๆ ตัวเองนั้น..เดี๊ยนรับไม่ได้จริงๆ นะคะ
*เนื่องจากของมันเห็นกันอย่างทนโท่ว่า เบสท์รินฯ กลายเป็นคนทำผิดสัญญาค่อนข้างจะแจ้ง แถมไม่ผลิตรถตามที่ยื่นเอกสารตอนประมูล แต่รัฐมนตรีใหม่กลับแบะท่าพร้อมกับอ้าขารอให้กับ “สุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล” ซึ่งนั่งในตำแหน่ง ผอ.ขสมก. เข้าเสียบแบบเนียนๆ พร้อมกับรายงานความคืบหน้าว่า เตรียมจะนำรถเมล์ออกจากท่าเรือจำนวน 291 คันในวันที่ 6 ม.ค.60 น้องโมขอถามหน่อยว่า เล่นอะไรกัน?
*ที่สำคัญคือก่อนหน้านี้ กรมศุลกากรยืนยันว่า รถเมล์ทั้ง 489 คัน จะต้องเสียภาษีนำเข้าจำนวน 718 ล้านบาท และในส่วนของ 100 คันแรก ต้องเสียค่าปรับอีกประมาณ 230 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่ผู้นำเข้าต้องชำระ 948 ล้านบาท “โมนิก้า” ถึงรู้สึกงงเป็นอย่างมากที่เห็นความดันทุรังของคนมีอำนาจ 2 คน…หรือว่า นี่เป็นยุคของทหารจะทำอะไรก็ได้ จึงไม่สนเสียงคัดค้านของคนทั่วไป เดี๊ยนถึงอยากรู้ว่า “ลุงตู่” ปล่อยเรื่องนี้มาได้อย่างไร เพราะมันไม่ต่างจากคำโบราณ “ว่าแต่ทักษิณ..ทหารเป็นเอง” ไงล่ะเจ้านาย..อิอิอิ
*ส่วนประเด็นร้อนๆ ที่ยังสาดโคลนกันไม่เลิก ต้องโฟกัสไปที่หุ้นไอเฟะ IFEC หลังประเด็นร้อนที่ทำให้ผู้คนมากมายหันมาสอบถามกับ “โมนิก้า” ตั้งแต่เช้าจรดเย็นนั้น มันเป็นเรื่องของตั๋วบี/อีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยครบกำหนดชำระในเดือนนี้ มันเป็นเรื่องที่ผู้บริหารต้องแก้ไขกันต่อไปเรื่อยๆ แต่ประเด็นที่ทำให้น้องโมต้องออกมาตีแผ่เป็นเรื่องของ บลจ.โซราริส ซึ่งเป็นหนึ่งในตุ๊กตาของเรื่องที่เกิดขึ้นเจ้าค่ะ
*ว่ากันว่า บริษัทไอเฟะมีดีลครบกำหนดชำระตั๋วบี/อีให้แก่ บลจ.ตัวแสบแห่งนี้สูงถึง 200 ล้านบาทเลยทีเดียว และยังต้องเผชิญชะตากรรมเกี่ยวกับตั๋วบี/อีของ KC ได้ผิดชำระหนี้ 200 ล้านบาทอีกกระทอกหนึ่งแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่สังคมต้องฉุกคิดนิดหนึ่งว่า ทำไม บลจ.แห่งนี้ไปพัวพันกับบริษัทสีเทา? บวกกับมีหน่วยข่าวกรองคาบข่าวมาเล่าให้ฟังว่า เริ่มมีกลิ่นไม่ค่อยดีโชยออกมาเป็นระยะแบบนี้..ในไม่ช้ามีเรื่องลับๆ ล่อๆ ของ บลจ.ตัวแสบ ให้เม้าท์มอยกันสนุกปากแน่ๆ พะยะค่ะ
*เหมือนกับกรณีของ KTB กระชากขึ้นมายืนที่ระดับ 18.60 บาท หรือขึ้นไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 3.33% ด้วยมูลค่า 3 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องตอกย้ำประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งว่า ทุกครั้งที่ฝรั่งตาน้ำข้าว กับกองทุนกระโจนใส่หุ้นในช่วงต้นปี กลางปี ท้ายปี มักมีชื่อของหุ้นตัวนี้เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นประจำ จึงเชื่อได้ว่า วันนี้หุ้นมีโอกาสไต่เพดานขึ้นไปอีกนะจ๊ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ TASCO กระชากขึ้นมาปิดที่ 20.70 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 7.80% ด้วยมูลค่า 1.32 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะเวลาที่เวียนมาบรรจบอีกรอบ และมุกที่นำมาใช้ในเที่ยวนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีการบันทึกกำไรพิเศษรอบใหม่ หรือคิดง่ายๆ ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันดิบอยู่ใต้ 50 เหรียญต่อบาร์เรล วันนี้พุ่งขึ้นมายืนเหนือ 55 เหรียญต่อบาร์เรล..รวยแบบไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ
*ส่วนในรายของ TYCN ออกตัวแรงเหมือนตัวเองได้ประโยชน์เต็มๆ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของกระแสที่จุดติดพอดี บรรดานักเคาะขวาถึงกดENTER แบบรัวๆ ไม่มียั้ง วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.34 บาท บวกไป 0.82 บาท หรือขึ้นไป 23.30% ด้วยมูลค่า 278 ล้านบาท พร้อมกับทำ new high ในรอบ 1 ปี 10 เดือน มันเป็นจังหวะที่ต้องตามไปดูสั้นๆเพื่อทำรอบก็เท่านั้นเอง
*เม้าท์ถึงเรื่องหุ้นที่กำลังมาแรง “โมนิก้า” ต้องชะโงกหน้าไปดูพระเอกตัวจริง AJD ก่อนใครเพื่อน หลังราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดขึ้นมายืนอยู่ที่ 1.96 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 3.20% ด้วยมูลค่า 444 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่ต้องใส่สุดตัว แถมตลาดหลักทรัพย์ฯ ดึงหุ้นของ “เสี่ยอมร” เข้าไปคำนวณใน sSET เสียด้วยแบบนี้ แสดงว่า ดวงขาขึ้นมาแล้ว..อิอิอิ
*ป.ล.ตลาดหุ้นในช่วงเงินทุนไหลเข้าไม่หยุดหย่อน ย่อมเป็นตัวเร่งให้หุ้นบลูชิพขึ้นมายึดหัวหาดบนกระดาน most active อย่างพร้อมเพรียง แต่ในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ “หุ้นเล่นสั้น หุ้นเล่นยาว” ได้ออกมาวาดลวดลายกันอย่างสนุกสนานนั้น “โมนิก้า” มองเป็นโอกาสทองของนักเสี่ยงโชค จึงไม่ต้องสนใจการทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,571.05 จุด บวกไป 7.47 จุด ด้วยมูลค่า 6.93 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นเพียงตัวเร้าอารมณ์ผู้เล่นให้รู้สึกฮึกเหิมขึ้นก็เท่านั้นเองจ้า..