ถึงเวลาของ INOX

สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย

 

คุณประสงค์ จากประชาชื่น กรุงเทพฯ พูดถึงสถานการณ์ของหุ้น INOX หรือบริษัท โพสโค-ไทยน๊อคซ์ จำกัด (มหาชน) มีประเด็นที่ชวนให้ติดตามหลายเรื่องด้วยกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้ทันทีคือ หุ้นตัวนี้แข็งแกร่งมากๆ โดยเฉพาะเหตุการณ์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนในการลงทุน แต่หุ้นเหล็กรายนี้กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

มันทำให้ผมลืมคำตักเตือนที่ว่า ซื้อหุ้นเหล็กมีแต่ “เจ๊งกับเจ๊ง” ไปเลยในทันที เพราะหุ้นตัวนี้ไม่เป็นเหมือนกับที่คนเขาพูดกัน จึงอยากให้อาจารย์ช่วยวิเคราะห์สถานการณ์ของหุ้นตัวนี้แบบหยาบๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการลงทุนด้วยครับ

 

ประเด็นของหุ้น INOX หรือ บริษัท โพสโค-ไทยน๊อคซ์ จำกัด (มหาชน) เป็นอะไรที่ต้องใช้เซนต์ส่วนตัวในการลงทุนล้วนๆ เพราะอาจารย์ยังเชื่อคำพูดที่ว่า หุ้นเหล็กมีวงรอบการขึ้นเป็นช่วงๆ จึงไม่กล้าให้น้ำหนักไปที่หุ้นเหล่านี้เลยสักครั้ง ถึงแม้จะมีบางช่วงที่หุ้นกลุ่มเหล็กจะทำกำไรได้อย่างโดดเด่น แต่ก็เป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ ไม่ใช่การเติบโตอย่างยั่งยืนแต่อย่างใด

ข้อมูลดังกล่าวถูกซับพอร์ตด้วยข้อมูลสำคัญทางการเงินด้านล่าง ซึ่งเป็นการรายงานตัวเลขให้นักลงทุนทั่วไปได้ทราบว่า บางปีกำไรได้อย่างหวือหวา แต่ในบางปีก็ทำกำไรได้แย่มากๆ จึงต้องวิเคราะห์สถานการณ์ในแต่ละช่วงเอื้อต่อธุรกิจเหล็กขนาดไหน?                     

 

	ปี 56	ปี 57	ปี 58	งวด 9 เดือน ปี 59
รายได้รวม	10,716.02	13,810.69	11,826.20	10,207.30
กำไรสุทธิ	-318.40	219.62	119.87	401.15
กำไรต่อหุ้น (บาท)	-0.04	0.03	0.02	0.05

(หน่วย : ล้านบาท)

 

โดยสิ่งที่พบล่าสุดคือ ในปัจจุบัน INOX เป็นบริษัทเหล็กที่สามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรได้ดีกว่าเจ้าอื่นๆ ซึ่งตัวอาจารย์เข้าใจว่า ทั้งหมดเป็นผลมาจากแผนการตลาดค่อนข้างดี และมีการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างยอดเยี่ยม แต่สิ่งหนึ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ หากการแข่งขันในอนาคตเริ่มรุนแรงขึ้น และความต้องการใช้เหล็กในระบบลดลงอย่างต่อเนื่อง หุ้นเหล็กรายนี้คงไม่รอดเหมือนกัน

วันนี้ถึงต้องมองกันว่า INOX เป็นหุ้นที่น่าลงทุนจริงไหม?

หรือเพียงเพราะเห็นราคาหุ้น INOX กระชากขึ้นอย่างร้อนแรง จึงพากันเชื่อว่า หุ้นตัวนี้คือคำตอบสุดท้ายของการลงทุนในเที่ยวนี้

ถ้าย้อนกลับไปดูราคาหุ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะรับรู้ได้ทันทีว่า หุ้นอยู่ในทิศทางขาลงมาโดยตลอด และเมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E ในระดับ 82 เท่า และ 30 เท่า ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ 38 เท่า ย่อมเป็นระดับที่สูงจนน่ากลัว ยกเว้นในไตรมาส 4 ปี 59 ตัวเลขกำไรออกมาดีกว่าปกติ ราคาหุ้นบริเวณนี้ถือว่า ไม่น่ากลัวเลยจริงๆ ครับ

วันนี้ถึงต้องวิเคราะห์กันอีกทีหนึ่งว่า ซื้อหุ้นเพื่อเอากำไร หรือ ซื้อหุ้นเพื่อถือนานๆ เพราะทั้ง 2 แนวทางให้ผลตอบแทนที่ต่างกันมากๆ

…

 

กราฟประกอบคอลัมน์ : Aspen, ราคาปิด ณ วันที่ 6 ม.ค.60