RICH หนี้ในหลุมดำแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

เมื่อวานนี้ ราคาหุ้น บริษัท ริช เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ RICH เปิดตลาดในแดนลบ ที่ 0.21 บาทแล้วมีแรงขายทำให้ราคาร่วงติดฟลอร์ 28.57% มาอยู่ที่ 0.20 บาท ก่อนที่จะไปปิดตลาดที่ 0.22 บาท เป็นราคาต่ำสุดในรอบหลายปี


เมื่อวานนี้ ราคาหุ้น บริษัท ริช เอเชีย คอร์ปอเรชั่น  จำกัด (มหาชน)หรือ RICH เปิดตลาดในแดนลบ ที่ 0.21 บาทแล้วมีแรงขายทำให้ราคาร่วงติดฟลอร์ 28.57% มาอยู่ที่ 0.20 บาท ก่อนที่จะไปปิดตลาดที่ 0.22 บาท เป็นราคาต่ำสุดในรอบหลายปี

 เหตุผลที่ราคาร่วงหนักเพราะก่อนเปิดตลาดRICH ได้แจ้งข่าวร้ายว่า เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2560 บริษัทได้รับหนังสือแจ้งการผิดนัดชำระหนี้จากเจ้าหนี้ธนาคารแห่งหนึ่ง และได้เรียกให้บริษัทชำระเงินค้างชำระต้นเงินจำนวน 537.75 ล้านบาท ดอกเบี้ยคงค้างคิดเพียงวันที่ 10 ม.ค.60 จำนวน 268.12 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 805.86 ล้านบาท ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 26 ม.ค.60

ผลพวงจากหนังสือทวงหนี้ดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการ RICH เมื่อวันที่ 12 มกราคม ได้มีมติให้เจรจาและดำเนินการจัดทำแผนการปรับปรุงโครงสร้างทางการเงิน และภาระหนี้ที่มีอยู่ของบริษัท พร้อมกับแต่งตั้งบริษัท ฟีนิกซ์ แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและที่ปรึกษากฎหมายในการแก้ไขปัญหาการชำระหนี้ ซึ่งคาดว่าจะแจ้งความคืบหน้าแนวทางการแก้ไขได้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2560

ผลข้างเคียงของการถูกเรียกให้บริษัทชำระหนี้คงค้างเลวร้ายลงอย่างมาก เพราะว่าภายใต้กติกาของตลาดเงิน ถือเป็นเหตุให้หุ้นกู้คงค้างทั้งจำนวนของบริษัทผิดนัดชำระหนี้ด้วย เป็นไปตามข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ที่กำหนดไว้

นอกจากนี้ยังมีตั๋ว B/E จำนวน 20 ล้านบาทที่ถึงกำหนดชำระในวันที่ 13 มกราคม  ที่ยังไม่ได้ชำระหนี้ตามกำหนดวันใช้เงินตามตั๋วแลกเงิน ส่งผลให้มีหนี้ผิดชำระทั้งหมด 5 รายการ มูลค่ารวม 2.06 พันล้านบาท คิดเป็น 54.15% ของสินทรัพย์รวม เมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมตามงบการเงิน สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 ประกอบด้วย

1) มูลหนี้รวมดอกเบี้ย 805.86 ล้านบาท จากเจ้าหนี้ธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศ โดยเริ่มผิดนัดชำระหนี้วันที่ 31 ต.ค.59 เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจและผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก 

2) ตั๋ว B/E วงเงิน 20 ล้านบาท จากผู้ลงทุนรายหนึ่ง เริ่มผิดนัดชำระหนี้เมื่อวันที่ 31 ม.ค.60 เนื่องจากการเพิ่มทุนไม่สำเร็จตามแผนงานที่กำหนดไว้ ทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอชำระหนี้

3) หุ้นกู้ วงเงิน 500 ล้านบาท จากผู้ถือหุ้นกู้รายย่อย เริ่มผิดนัดชำระเมื่อวันที่ 11 ม.ค.60 เนื่องจากการเพิ่มทุนไม่สำเร็จ และผลกระทบจากการผิดนัดชำระหนี้กับเจ้าหนี้ธนาคาร  

4) หุ้นกู้ วงเงิน 230 ล้านบาท จากผู้ถือหุ้นกู้รายย่อย  เริ่มผิดนัดชำระเมื่อวันที่ 11 ม.ค.60 เนื่องจากการเพิ่มทุนไม่สำเร็จ และผลกระทบจากการผิดนัดชำระหนี้กับเจ้าหนี้ธนาคาร 

5) ตั๋ว B/E ที่เหลืออยู่แต่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ วงเงิน 105 ล้านบาท จากผู้ลงทุนรายย่อย 5 ราย โดยมีกำหนดชำระมูลหนี้ 15 ล้านบาท ในวันที่ 27 ก.พ.60, ชำระ 40 ล้านบาท ในวันที่ 28 ก.พ.60, ชำระ 30 ล้านบาท ในวันที่ 2 มี.ค.60 และชำระ 20 ล้านบาท ในวันที่ 24 เม.ย.60

การผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าว ส่งผลกระทบให้ RICH มีภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบในงบการเงินและงบแสดงฐานะการเงินของบริษัท

RICH20170117

ปัญหาเรื่องผิดนัดชำระหนี้ของ RICH ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะบริษัททำธุรกิจเหล็ก และขาดทุนจากการดำเนินงานมาตลอด 5 ปีหลังสุด (แม้จะมีกำไรพิเศษเป็นครั้งคราวมาช่วย) ชนิด “ซ้ำซากที่แผลเดิม” เพราะกี่ปีๆ ผู้บริหารบริษัทนี้ ยังสร้างผลขาดทุนมากกว่ากำไรมาตลอด ไม่มีท่าทีว่าจะเกิดจุดเปลี่ยนทางธุรกิจเกิดขึ้น

ภาพลักษณ์ของ RICH ที่ผ่านมาหลายปี จึงไม่ใช่หุ้นพื้นฐาน แต่เป็นหุ้นที่พร้อมตกเป็นเหยื่อของมันนี่ เกม ที่บรรดา “ขาใหญ่” ผลัดเวียนกันเข้ามาหวังหากำไรเข้ากระเป๋า ประหนึ่งเป็นธุรกิจสีเทาอันชวนให้เคลือบแคลง

ที่สำคัญ RICH กลายเป็นหุ้นที่ไม่เคยขาดเหยื่ออันโอชะมาคอยป้อนตลอดมา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน กลายเป็นหุ้นขวัญใจแมงเม่าชอบเสี่ยง

การล่มสลายของเครดิตที่เกิดขึ้นล่าสุดของ RICH ที่นำไปสู่ปากเหวแห่งหายนะ อย่างที่ต้องเกิด และเลี่ยงไม่พ้น เพราะขาดสภาพคล่องรุนแรง

อนาคตที่หมิ่นเหม่เช่นนี้ เสมือนหนึ่งตกอยู่ในหลุมดำซึ่งไม่รู้ว่าจะมีทางออกอย่างไร

เป็นปลาตัวเดียวที่ทำให้เหม็นเน่าไปทั้งข้อง…เอวัง

Back to top button