IFEC (ไอเฟะ)ลูบคมตลาดทุน
วันศุกร์ที่ 20 ม.ค.นี้ “เสี่ยทวิช” ก็จะออกมากู้สถานการณ์ IFEC แล้ว
ธนะชัย ณ นคร
วันศุกร์ที่ 20 ม.ค.นี้ “เสี่ยทวิช” ก็จะออกมากู้สถานการณ์ IFEC แล้ว
สำหรับเสี่ยทวิช หรือ “ทวิช เตชะนาวากุล คือ เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค และเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ตัวจริงๆ เสียงจริงของ IFEC ในขณะนี้
การออกมาของเสี่ยทวิช อาจพอทำให้ IFEC ดูดีขึ้นบ้าง
เพราะตามข่าวที่ได้รับมา
วัตถุประสงค์จริงๆ ก็เพื่อต้องการสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับ IFEC ก่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 ม.ค.นี้
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นไปอย่างคาดหวังหรือไม่
เพราะก่อนหน้านี้ มีการมองกันว่า เสี่ยทวิชค่อนข้างอิงไปทางหมอวิชัย
แต่ไปๆ มาๆ หากจับต้นชนปลายล่าสุด ดูเหมือนเสี่ยทวิช จะมีความเห็นอะไรหลายๆ อย่างไปทางเสี่ยอ๋า
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็เหอะ
ในด้านความสัมพันธ์ระหว่าง “หมอวิชัย” (วิชัย ถาวรวัฒนยงค์) กับ “เสี่ยอ๋า” หรือคุณสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ ก็ยังคงสู้รบกันฝุ่นตลบต่อไป
ทั้ง 2 คนมีเรื่องฟ้องร้องกันน่าจะหลายคดีแล้วมั้ง
เวลาไปไหนมาไหนก็จะมี “การ์ด” คอยคุ้มกันตลอด
ไม่เว้นแม้แต่ช่วงเข้าห้องน้ำ
สมมุติหากเสี่ยทวิช สามารถเข้ามาคุมการบริหารงานได้ตามแผนงาน และกอบกู้ IFEC ได้
โอกาสของ IFEC ก็อาจพอเห็นแสงสว่าง
และความขัดแย้งของหมอวิชัย กับ เสี่ยอ๋า ก็ไม่น่าจะเกิดผลกระทบกับ IFEC ดั่งเช่นที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ส่วนปัญหาตั๋วบี/อี หากดูจากมูลค่าการค้างชำระ 200 ล้านบาท ก็ถือว่าไม่มากนัก
และวันนี้ (19 ม.ค.) จะมีครบกำหนดชำระอีก 100 ล้านบาท
ก็รวมเป็น 300 ล้านบาท
ก็ยังถือว่าไม่มากเช่นกัน เมื่อเทียบกับจำนวนหนี้ตั๋วบี/อี ของ IFEC ที่มีจำนวนกว่า 3,500 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญคือว่า จำนวนหนี้ของ IFEC จะมียอดค้างชำระเกินกว่า 300 ล้านบาทไม่ได้
นั่นเพราะจะไปเข้าเงื่อนไขของหุ้นกู้มูลค่า 3,000 ล้านบาท ที่มีธนาคารกรุงไทย เป็นอันเดอร์ไรเตอร์ และจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนพฤศจิกายน 60 นั้น
จะครบกำหนดอัตโนมัติ หรือต้องชำระทันที
หรือก็คือ เจ้าหนี้จะขอเรียกเงินคืนได้
หากไปถึงสถานการณ์เช่นนั้นจริง IFEC อาจมีอาการสาหัสมากกว่าที่เป็นอยู่
เว้นแต่ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ การประชุมฯ ผ่านไปได้ด้วยดี
เสี่ยทวิช และกรรมการ เข้ามาบริหารจัดการ
พร้อมกับ “เคลียร์” เรื่องหนี้สินต่างๆ ได้ ก็เชื่อว่า กรณีผิดนัดชำระหนี้เพิ่มก็จะไม่เกิดขึ้น
IFEC นั้น เริ่มมีปัญหาไม่ดีมาตั้งแต่ช่วงเข้าไปซื้อโรงแรมดาราเทวี
ในขณะนั้น คนในวงการตลาดทุนก็กำลังงุนงงว่า เหตุใด IFEC จึงไปเลือกลงทุนธุรกิจโรงแรม มีความจำเป็นแค่ไหน และจะส่งผลดีต่อ IFEC อย่างไร
การซื้อในครั้งนั้น ว่ากันว่า รับทราบกันไม่กี่คน
กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และเป็นนักลงทุนรายใหญ่ ที่มีการไปดึงมาลงทุนในหุ้น IFEC
ต่างไม่ได้รับทราบดีลนี้ด้วยเลย
และทำให้เกิดการ “วงแตก” และทยอยขายหุ้นกันออกมา
ราคาหุ้น IFEC จากที่เคยยืนเหนือ 10 บาท ก็ลงมาเหลือระดับ 3 บาท และยังถูกตลาดหลักทรัพย์ฯแขวนป้าย SP เพื่อหยุดการซื้อขายอีกในตอนนี้
นักลงทุนรายย่อยพากันเซ็งเป็ด
เงินถูกขังอยู่ในหุ้น IFEC จำนวนมาก
มีข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า เงินที่ใช้การซื้อโรงแรมดาราเทวีนั้น
มาจากการออกตั๋วบี/อี
จนนำไปสู่การแสดงความเห็นของคนในวงการตลาดทุนว่า บจ.หลายๆ แห่งมีการใช้ตั๋วบี/อี ผิดวัตถุประสงค์
เพราะตั๋วบี/อี จะออกมาเพื่อใช้หมุนสภาพคล่องเท่านั้น เช่น 3 เดือน 6 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี
แต่หากนำเงินที่มาจากตั๋วบี/อี เพื่อใช้ลงทุน
ก็ถือว่ามีความเสี่ยงอย่างมากที่จะมีการผิดนัดชำระหนี้ หากหมุนเงินไม่ทัน
เว้นแต่ว่าจะมีการใช้วิธีการ “โรลโอเวอร์” ไปเรื่อยๆ
กลับมาที่เสี่ยทวิชกันต่อ
เห็นมีข่าวว่า เขายืนยันเกี่ยวกับสินทรัพย์ของ IFEC มีมากกว่าหนี้สิน และพร้อมจะขายโรงแรมดาราเทวี เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ที่มีอยู่
นี่เป็นเพียงแผนงานคร่าวๆ ในเบื้องต้น
ต้องดูว่า IFEC จะกลับมาเป็นตัวเองได้หรือไม่
หรือจะแปลงเป็นไอเฟะ