TPOLY ไม้ผลัดใบ แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
การจากไปอย่างกะทันหันของผู้ก่อตั้ง ผู้บริหารสูงสุด และผู้นำขององค์กรตั้งแต่เริ่มต้น นาย เจริญ จันทร์พลังศรี เมื่อหลายปีก่อน ทำให้ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY ตกอยู่ในสภาพเรือที่ลอยเท้งเต้งไปกับสถานการณ์
การจากไปอย่างกะทันหันของผู้ก่อตั้ง ผู้บริหารสูงสุด และผู้นำขององค์กรตั้งแต่เริ่มต้น นาย เจริญ จันทร์พลังศรี เมื่อหลายปีก่อน ทำให้ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY ตกอยู่ในสภาพเรือที่ลอยเท้งเต้งไปกับสถานการณ์
เหตุผลหลักก็มาจากยังไม่มีใคร “สวมรองเท้าแห่งบารมี” แบบที่นายเจริญทิ้งมรดกเอาไว้ได้
น้องชายคนรอง นายไชยณรงค์ จันทร์พลังศรี ที่เข้ามารับตำแหน่งซีอีโอ แทนพี่ชาย ก็ทำได้แค่ประคองตัวให้รอดท่ามกลางความยากเย็นแสนเข็ญ…ทำดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
สถานการณ์ทางการเงินที่เข้าข่ายขาดทุนสุทธิต่อเนื่องหลายปี ทำให้มีบางช่วงส่วนของผู้ถือหุ้นร่อยหรอถึงขั้นเกือบติดลบ และต้องเพิ่มทุนใหญ่เมื่อกลางปี 2558 เพื่อรักษาส่วนของผู้ถือหุ้นให้เป็นบวกไว้
หลายปีนี้ TPOLY มีความต้องการแก้ปัญหาการเงินที่รุมเร้า ทั้งด้านสภาพคล่อง และชำระหนี้ หลังจากมีตัวเลขขาดทุนมายาวนานกว่า 3 ปีเศษจากธุรกิจก่อสร้าง ถึงขนาดสิ้นเดือนธันวาคม 2557 มีส่วนผู้ถือหุ้นเหลืออยู่เพียง 25.70 ล้านบาทเท่านั้น และปี 2558 แม้จะเพิ่มทุนไปแล้ว (พร้อมกับแถมวอร์แรนต์ให้คนเพิ่มทุน) ขายในราคาสูงกว่าพาร์ คือ 4 บาทต่อหุ้น (พาร์ 1 บาท) ก็ทำให้มีส่วนผู้ถือหุ้นใหม่เพียงแค่ 192.61 ล้านบาท ไม่เพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจก่อสร้าง เสียโอกาสมหาศาล
TPOLY ต้องหาทางเอาตัวรอดจากปัญหาการเงินในปี 2558 หลายวิธี
หนึ่งวิธีการที่โดดเด่น ก็เพราะมรดกที่นายเจริญทิ้งเอาไว้ต่างหน้าคือ บริษัทประกอบการด้านพลังงานทางเลือก บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH ที่โตวันโตคืนต่างจาก TPOLY ….เปิดช่องให้แก่ปฏิบัติการ “ขายลูกกิน” …ถึง 2 ครั้ง ในปี 2558
ครั้งแรก ขายหุ้นที่ถือใน บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH ในวันที่ 30 กันยายน 2558 ออกไปแล้ว 2.5 ล้านหุ้น ได้เงินมานิดหน่อย ซึ่งไม่เพียงพอ
ครั้งที่สอง จำต้องตัดใจขายยกล็อต 37,500,000 หุ้น หรือ 9.35% ของหุ้นรวมของ TPCH ให้กับ “นักลงทุนที่สนใจโดยตรง” หลายคน ในราคาหุ้นละ 17.80 บาท ดีกว่าที่ตั้งเป้าไว้หุ้นละ 2.27 บาท รวมแล้วเกินเป้าไปมากถึง 85.125 ล้านบาท
การขายดังกล่าวครั้งสุดท้าย ทาง TPOLY ย้ำอีกครั้งว่า จะเป็นการขายครั้งสุดท้าย ไม่ขายอีกแล้ว เพราะขืนขายมากกว่านี้ สัดส่วนการถือครองหุ้นใหญ่จะลดลงกว่า 41.26% ไม่ดีแน่สำหรับอนาคต
ครึ่งหลังของปี 2559 ฐานะการเงินของ TPOLY เริ่มกระเตื้องขึ้นอย่างชัดเจน เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนไป เริ่มมีเงินสดกลับมาบ้าง ในขณะที่การรับรู้รายได้จากเงินลงทุนในขณะที่ธุรกิจพลังงานทางเลือกอย่าง TPCH เริ่มกลับมามีกำไร และจ่ายปันผลคืนกลับมา ทำให้ 9 เดือนแรก TPOLY สามารถบันทึกกำไรสุทธิได้สำเร็จ เข้าสู่ยุคเทิร์นอะราวด์
ส่วนล่าสุด วอร์แรนต์ที่ได้รับการแปลงสิทธิ หลังจากการเพิ่มทุนล่าสุด ก็เพิ่งทยอยเข้ามาเทรดในตลาดเพิ่มเติมอีกครั้งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
นับแต่ปลายปีที่ผ่านมา คนในวงการธุรกิจ ได้มีอโอกาสเห็นนายไชยณรงค์เกี่ยวก้อยคนในครอบครัวจันทร์พลังศรีออกงานแนะนำตัวกับแวดวงบ่อยครั้ง ส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
แล้วในที่สุดก็ไม่ต้องรอนานให้คาดเดา การเปลี่ยนแปลงแบบไม้ผลัดใบเกิดขึ้นจริง เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 30 มกราคม รับทราบการลาออกของ นายไชยณรงค์ ที่ขอลาออกจากทุกตำแหน่งทั้งตั้งแต่ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ รวมถึงตำแหน่งบริหารทั้งหมดของบริษัทย่อย บริษัทในเครือ รวมถึงกิจการร่วมค้า ด้วยเหตุผลสั้นๆ ว่า เนื่องจากมีภารกิจอื่น โดยได้ขอลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป
คณะกรรมการรับทราบ แล้วอนุมัติแต่งตั้งนางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี (ภรรยาของนายเจริญ) เป็นประธานกรรมการบริหาร และ แต่งตั้ง นายปฐมพล สาวทรัพย์ มืออาชีพที่ร่วมงานมายาวนาน ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป
เรียบร้อยโรงเรียนจันทร์พลังศรี
พร้อมกันนั้น ก็เชื้อเชิญสื่อทั้งหลายให้ไปร่วมฟังแถลงข่าวของ TPOLY ต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างหมดเปลือก พร้อมกับแผนธุรกิจในอนาคต
การเปลี่ยนปลงนี้ ด้านหนึ่งถือเป็นการล้างมือในอ่างทองคำของนายไชยณรงค์ ที่พา TPOLY ผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญมาได้ถึงฝั่งเรียบร้อย แม้จะทุลักทุเลพอสมควร แล้วส่งมอบภารกิจแห่งอนาคตกับคนรุ่นต่อไปได้สานต่อ …ส่วนจะสานได้ดีกว่าเดิม หรือเท่าเดิม ก็คงต้องว่ากันตามเนื้อผ้า
การเปลี่ยนยุคเช่นนี้ เป็นธรรมาภิบาลของบริษัทมหาชนจดทะเบียนที่พึงกระทำ
อนาคตของ TPOLY ย่อมมีแน่นอน…ในกำมือของคนรุ่นต่อไป
การเปลี่ยนแปลงย่อมเป็นนิรันดร์
“อิ อิ อิ”