ฟื้นไม่จริง!โมนิก้าและทีมงาน
*ประเด็นที่อาจารย์อยากให้นักลงทุนแยกแยะให้ดีในเวลานี้คือ อาการแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ เหมือนจะแข็งขืนสู้สุดตัวไม่ยอมถอยนั้น เอาเข้าจริงก็เป็นเพียงอาการของพวกติ๊ดชึ่งที่เข้ามาแบบกลัวๆ แรงซื้อถึงไม่สุดซอยเหมือนกับที่ควรจะเป็น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้เป็นประจำในยามที่ตลาดหุ้นไทยถูกรบกวนด้วยปัจจัยภายนอก ดัชนีถึงขยับเขยื้อนไปไหนได้ไม่ไกลไงล่ะค่ะ
*ประเด็นที่อาจารย์อยากให้นักลงทุนแยกแยะให้ดีในเวลานี้คือ อาการแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ เหมือนจะแข็งขืนสู้สุดตัวไม่ยอมถอยนั้น เอาเข้าจริงก็เป็นเพียงอาการของพวกติ๊ดชึ่งที่เข้ามาแบบกลัวๆ แรงซื้อถึงไม่สุดซอยเหมือนกับที่ควรจะเป็น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้เป็นประจำในยามที่ตลาดหุ้นไทยถูกรบกวนด้วยปัจจัยภายนอก ดัชนีถึงขยับเขยื้อนไปไหนได้ไม่ไกลไงล่ะค่ะ
*งานนี้ไม่มีความจำเป็นต้องไปคิดสะระตะให้ปวดกบาล เพราะสิ่งที่ทุกคนเห็นกันทนโท่ในยามนี้คือ ประเทศบ้าอำนาจ..อุ๊ย..มหาอำนาจ กำลังเล่นบทโหดกับคนอื่นไปทั่ว จึงเกิดความกังวลกันว่า ผลลัพธ์ที่ออกมาจะทำให้ทุกคนบาดเจ็บกันถ้วนหน้า “โมนิก้า” มองเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้การลงทุนในช่วงนี้ลำบากขึ้นกว่าเดิม จึงต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การซื้อหุ้นให้เข้ากับสถานการณ์นะจะบอกให้
*เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่า หุ้นกลุ่มบลูชิพตกอยู่ในที่นั่งลำบาก หุ้นขนาดกลางยังพอเอาตัวรอดได้บ้าง ส่วนหุ้นขนาดเล็กยังมีทีเด็ดที่จะโชว์อีกเยอะ มันเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องเลือกรูปแบบการเข้าลงทุนที่เหมาะกับตัวเอง หลังดัชนีแกว่งตัวเปะปะตลอดทั้งวัน ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,576.32 จุด ลบไป 0.99 จุด ด้วยมูลค่า 6.05 หมื่นล้านบาท ถือเป็นการสะท้อนภาพอาการเมาหมัดยังหลงเหลือยู่นะจ๊ะ
*โดยเฉพาะในรายของ TRUE พยายามรักษาฐานแนวรับ 7.10 บาทมาระยะหนึ่ง แต่สุดท้ายทำไม่ได้ดั่งใจหวัง จึงโดนรินเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง “โมนิก้า” มาเห็นราคาหุ้นอีกที ก็ลงมานอนแอ้งแม้งที่ระดับ 6.50 บาท ลบไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่า 1.24 พันล้านบาท แถมโพสิชั่นของหุ้นอยู่ในทิศทางซึมลงอย่างเห็นได้ชัดแบบนี้ สงสัยต้องลงไปตั้งหลักที่บริเวณแนวรับ 6 บาทกระมัง!
*เช่นเดียวกับในรายของ BEAUTY หลังจากผ่านจุดพีคในการทำธุรกิจ และราคาหุ้นก็ทำนิวไฮไว้ที่บริเวณ 12.50 บาท ถัดจากนั้นก็มีแต่เรื่องลบๆ เกิดขึ้นมากมาย จนนำไปสู่คำแนะนำให้ขายเพื่อลดความเสี่ยง จนวานนี้หุ้นลงมายืนอยู่ที่ 10.50 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 5.40% ด้วยมูลค่า 1.28 พันล้านบาท แถมเป็นการปิดที่จุดต่ำสุดของวันอีกด้วยแบบนี้ ตามตำราเขาบอกว่า อย่าเพิ่งเข้าไปยุ่งนะคะ
*ส่วนรายที่ “โมนิก้า” ต้องขอเผือกนิดหนึ่งอย่าง EA ยังเป็นอะไรที่น่าสนใจเสมอในสายตา “โมนิก้า” แม้ศาลปกครองสูงสุดจะชี้ว่า บ.เทพสถิต วินด์ฟาร์ม ใช้พื้นที่ ส.ป.ก. ผิดวัตถุประสงค์ แต่อย่าลืมว่า ศาลปกครองมักจะตัดสินเป็นกรณีไป แถมยังต้องรอความเห็นจาก ส.ป.ก.กลาง อีกทอดหนึ่ง มันเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องใช้สติให้มากๆ เพราะเดี๊ยนเชื่อว่า น้องอมร เตรียมแผนสำรองขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 ไว้หมดแล้ว และการที่หุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 25.75 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 9.65% ด้วยมูลค่า 1.21 พันล้านบาท มันเข้าทำนองที่ว่า วิกฤติคือโอกาส..เชื่อหัวน้องโมเถอะ!
*ส่วนในรายของ KCE รูดลงมาอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดยืนอยู่ที่ 103 บาท ลบไป 6 บาท หรือลงไป 5.50% ด้วยมูลค่า 960 ล้านบาท มันเป็นการเทขายที่มีออกมาอย่างต่อเนื่องนั้น “โมนิก้า” เข้าใจว่า ฝรั่งตาน้ำข้าว กับกองทุนตัวแสบกำลังอยู่ในขั้นตอนของการลดพอร์ต สภาพของหุ้นถึงดูร่องแร่งผิดจากรูปเดิมไปมาก งานนี้ถึงบอกได้แค่ว่า ต้องให้พ่อทูนหัวทั้งสองหน่อหยุดขาย หุ้นถึงจะหยุดลง..หากไม่หยุด เส้นแนวรับ 200 วันที่บริเวณ 100 บาทก็คงเอาไม่อยู่จ้า!
*อีกรายที่น่าเป็นห่วงก็คือ BA ราคาหุ้นรูดลงมาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางปัจจัยลบมากมาย “โมนิก้า” ถือเป็นความเสี่ยงที่ยากจะประเมินจริงๆ เพราะการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 21.30 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 3.20% ด้วยมูลค่า 350 ล้านบาท แถมเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี 1 เดือน 3 สัปดาห์ มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้เชื่อว่า น่าจะมีราคาต่ำกว่านี้อีกนะคะ
*ขนาดหุ้น BCH ยังโดนสาดหุ้นออกมาไม่ยั้ง จนโพสิชั่นของหุ้นไม่สวยงามเอาเสียเลยแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นจุดที่นักเล่นต้องคิดกันเอาเองว่า กล้าเข้าไปรับหุ้นหรือเปล่า? หลังหุ้นลงมานอนอยู่ที่ 14 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 5.40% ด้วยมูลค่า 730 ล้านบาท มันเป็นการปิดต่ำกว่าเส้นแนวรับ 75 วัน ซึ่งอนุมานได้ว่า หุ้นอาจลงไปพักตัวแถวเส้นแนวรับ 200 วันที่บริเวณ 12.60 บาทนะจ๊ะ
*ย้อนกลับมาดูหุ้นที่พุ่งแรงกันบ้างดีกว่า และคราวนี้ก็เป็นคิวของ CSS หลังกระชากขึ้นมาปิดที่ 3.64 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 5.20% ด้วยมูลค่า 140 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นการไล่ราคารอบใหม่ที่น่าสนใจสุดๆ เพราะทุกคนรู้ดีว่า นี่เป็นหุ้นเหาฉลามที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนของบริษัทโทรคมนาคม รวมทั้งยังได้อานิสงส์จากโครงการภาครัฐในการย้ายสายไฟลงดิน หากยังจำกันได้..ฐานเก่าของหุ้นอยู่ที่ 4 บาท จำได้ไหมเอ่ย!
*ส่วนคนที่ชอบตามกระแส “โมนิก้า” ขอแนะนำให้มอง JWD เป็นทางเลือกแรกๆ หากคิดจะลุยกันสุดตัว 9.70 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่า 328 ล้านบาท มันเป็นการพุ่งขึ้นแรงเป็นวันที่สอง ถึงกระนั้นก็ต้องเตือนไว้นิดหนึ่งว่า การขึ้นของหุ้นใน 3 รอบที่ผ่านมา ยังไม่เคยผ่านแนวต้าน 10 บาทไปได้สักที จึงกลายเป็นเกมที่ค่อนข้างตื่นเต้นสำหรับคนที่มีหุ้นอยู่ในพอร์ตเจ้าค่ะ