ทางออกตั๋วบี/อีลูบคมตลาดทุน
จริงๆ แล้ว ทางออกของตั๋วบี/อี ก็คือ ไม่ต้องไปหาทางออก
ธนะชัย ณ นคร
จริงๆ แล้ว ทางออกของตั๋วบี/อี ก็คือ ไม่ต้องไปหาทางออก
เพราะวิธีการหรือรูปแบบปัจจุบันนั้น หลายคนบอกว่า ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปเสียเวลา
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ บริษัทจดทะเบียน(บจ.) กับผิดนัดชำระตั๋วบี/อี ส่วนใหญ่มาจากปัญหาทางเทคนิค หรือเป็นปัญหาเฉพาะตัวของแต่ละบริษัท
มีคำเตือนออกมาด้วยครับ
บอกว่า หากไปทำอะไรกับตั๋วบี/อี ก็อาจยิ่งทำให้เป็นปัญหาขึ้นมาอีก
โดยเฉพาะการจัดเรตติ้ง
เดิมนั้น การออกตั๋วบี/อี ก็ทราบกันดีว่า เพื่อไปใช้ด้านการหมุนสภาพคล่อง
อายุของตั๋วบี/อี ก็ไม่ได้มาก
หรืออยู่ระหว่าง 3 เดือน ถึง 1 ปี
คนซื้อตั๋วบี/อี ส่วนใหญ่ เป็นนักลงทุนรายใหญ่ ที่เขาจะขายกันแบบเฉพาะเจาะจง หรือ PP หรือไม่น่าจะเกิน 10 รายและรับรู้เรื่อง “ความเสี่ยง” ดีอยู่แล้ว
ส่วนนักลงทุนสถาบันยิ่งไม่ต้องไปห่วง
คนในวงการกองทุน เชื่อว่า หลายๆ คนมีประสบการณ์ในเรื่องปัญหาตั๋วบี/อี มาเป็นอย่างดี
มีความเห็นว่า การจัดเรตติ้ง ยิ่งจะทำให้ “บจ.” ลำบากมากขึ้น
เพราะนั่นหมายความว่า ดอกเบี้ยจากตั๋วบี/อีนั้นจะปรับลดลงแน่นอน
และเมื่อผลตอบแทนลดลง ตั๋วบี/อี ก็จะไปสู้หุ้นกู้ไม่ได้ หรือไม่ก็คนก็จะหันไปลงทุนด้วยการซื้อหุ้นกู้กันมากขึ้น หรือเลือกช่องทางลงทุนอื่นๆ ทดแทน
เมื่อตั๋วบี/อี ไม่มีคนซื้อ หรือสู้สินค้าลงทุนตัวอื่นๆ ไม่ได้
บจ.ก็จะต้องกลับไปพึ่งพาธนาคาร
นายแบงก์เองเมื่อเห็นจังหวะเข้ามาแบบนี้ ก็อาจคิดดอกเบี้ย(กู้)เพิ่ม
และนั่นจะยังเป็นการซ้ำเติมกับ บจ.ที่ต้องการระดมทุนระยะสั้นๆ
เรื่องนี้ จึงการเสนอความเห็นว่า หากต้องการขายตั๋วบี/อี แบบเฉพาะเจาจะ หรือไม่เกิน 10 ราย
ก็สามารถขายได้ตามเกณฑ์ก่อนหน้านี้
คนซื้อเองก็ควรจะพิจารณา และศึกษาเรื่องความเสี่ยงกันเอง
เว้นแต่ตั๋วบี/อี ที่จะไอพีโอทั่วๆ ไป ก็อาจต้องมีการทำเรตติ้ง
แต่ที่ผ่านมานั้น ตั๋วบี/อี แบบที่ว่าดังกล่าว ก็จะมีการทำเรตติ้งอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ สมาคมตราสารหนี้ไทย เคยออกมาให้ข้อมูลว่า มูลค่าตั๋วบี/อี ในปัจจุบัน มีอยู่ประมาณ 4 แสนล้านบาท
ในจำนวนนี้ประมาณ 40% เป็นนอนเรตติ้ง
และอีก 60% จะมีเรตติ้ง
แต่ที่มีเรตติ้ง ก็มิได้หมายความว่าไม่มีความเสี่ยง เพราะการลงทุนทุกอย่างต่างมีความเสี่ยง
เพียงแต่ว่า ความเสี่ยงอาจต่ำกว่าแบบนอนเรตติ้งก็เท่านั้น
ส่วนปัญหาของ บจ.ที่ออกตั๋วบี/อี ในขณะนี้ และใกล้ถึงครบกำหนดชำระ และต้องการโรลโอเวอร์ ก็อาจมีปัญหาสักหน่อยครับ
นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจ
จึงไม่สามารถโรลโอเวอร์ได้
บจ.ก็จะต้องหันไปหานายแบงก์แทน
นายแบงก์รู้ตัวอยู่แล้วว่า พวกเขาเหล่านี้จะต้องมาหาแน่นอน ก็ปูเสื่อนั่งลูบปากรอกันเลย
เข้าทางนายแบงก์เต็มๆ