THCOM น่าผิดหวัง
ข้อมูลของการลงทุนในตลาดหุ้นมีหลากหลายรูปแบบ และแต่ละแบบก็ส่งผลต่อราคาหุ้นในกระดานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับผลประกอบการขึ้นมาสอดรับกับราคาหุ้นขนาดไหน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อการทะยานขึ้นอย่างบูรณาการ
สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย
คุณชูชาติ จากพระโขนง กรุงเทพฯ พูดถึงหุ้น THCOM หรือ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ว่า ก่อนหน้านี้หลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้อนาคตจะสดใส และราคาหุ้นจะถีบตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่ทันทีที่ประกาศตัวเลขกำไรลดลงอย่างฮวบฮาบ ราคาหุ้นก็รูดลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเกิดคำถามขึ้นมาในทันทีว่า พวกเราจะเอาอย่างไรกับหุ้นตัวนี้ จึงอยากให้อาจารย์ช่วยประเมินสถานการณ์ในอนาคตด้วยครับ
ข้อมูลของการลงทุนในตลาดหุ้นมีหลากหลายรูปแบบ และแต่ละแบบก็ส่งผลต่อราคาหุ้นในกระดานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับผลประกอบการขึ้นมาสอดรับกับราคาหุ้นขนาดไหน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อการทะยานขึ้นอย่างบูรณาการ
ด้วยเหตุนี้ถึงต้องกลับไปดูผลประกอบการในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมามีพัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้นขนาดไหน เพราะตรงนี้จะเป็นตัวยืนยันราคาหุ้นในกระดาน ณ ตอนนี้เหมาะสมเพียงใด และผลลัพธ์ที่ประจักษ์แก่สายตานักลงทุนทุกคนก็คือ ไม่มีอะไรดีกว่าเมื่อก่อนอย่างชัดเจน
| ปี 56 | ปี 57 | ปี 58 | ปี 59 | |
| รายได้รวม | 8,286.13 | 10,375.96 | 13,136.40 | 11,516.63 |
| กำไรสุทธิ | 1,127.62 | 1,600.88 | 2,122.15 | 1,611.77 |
| กำไรต่อหุ้น (บาท) | 1.03 | 1.46 | 1.94 | 1.47 |
(หน่วย : ล้านบาท)
ประเด็นดังกล่าวทำให้ข่าวดีที่ปรากฏบนหน้าสื่อทุกชนิดเป็นเพียงแค่ไฟไหม้ฟาง ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาได้แค่ระยะเวลาสั้นๆ แต่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมยังไม่เกิดขึ้น จึงมีแรงเทขายทำกำไรพรั่งพรูออกมาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ภาพของหุ้น ณ เวลานี้ดูไม่ดีเอามากๆ เพราะกลายเป็นหุ้นที่อยู่ในทิศทางขาลงเต็มตัว
บวกกับคำอธิบายบนงบการเงินรายงานว่า ธุรกิจดาวเทียม กับธุรกิจอินเตอร์เน็ตมีผู้มาใช้บริการน้อยลง ถือเป็นสัญญาณอันตรายสำหรับการทำธุรกิจในอนาคต เพราะมันหมายความว่า ถูกคู่แข่งแย่งชิงลูกค้าไปเป็นจำนวนมาก และถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ย่อมไม่เป็นผลดีกับตัวบริษัท
วันนี้ถึงต้องวิเคราะห์ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทแห่งนี้มีมากเพียงใด และมีจุดได้เปรียบคู่แข่งขันรายอื่นอะไรบ้าง หรือแม้กระทั่งแวลูที่เห็นทุกวันนี้สามารถเพิ่มขึ้นอีกไหม ฯลฯ ล้วนเป็นคำถามที่ยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้สักทีนะครับ
ฉะนั้นอย่าได้มองอะไรที่ไกลเกินจากข้อมูลที่มีอยู่ในมือ เพราะการคิดแบบนั้นเหมือนเป็นการ “เข้าข้างตัวเอง” ซึ่งเป็นกระบวนการลงทุนที่ผิดหลัก และวันนี้สามารถพูดได้ทันทีว่า เอาเวลาไปดูหุ้นตัวอื่นดีกว่า!
ในเมื่อไม่มีอะไรที่ทำให้อุ่นใจได้เลย ก็อย่าไปเสี่ยงเลยดีกว่า และเอาเวลาที่มีไปเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มทำกำไรโดดเด่น น่าจะทำให้นักลงทุนรู้สึกสบายใจขึ้นนะครับ
…
กราฟประกอบคอลัมน์ : Aspen ราคาปิด ณ วันที่ 3 ก.พ.60