เอาอยู่?โมนิก้าและทีมงาน
*ก่อนอื่นต้องแจงให้เพื่อนๆ สมาชิกข่าวหุ้นทราบก่อนว่า “โมนิก้า” จั่วหัวออกมาในโทนนี้ไม่ได้มีอะไรเลยเถิดไปไกลอย่างที่หลายคนคิด แต่เป็นเพราะต้องการสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจถึงอารมณ์ของตลาดหุ้นมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ซึ่งเป็นผลมาจากเส้นแนวรับ 10 วันที่บริเวณ 1,580 จุดยังทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม จึงไม่ต้องเดือดร้อนถึงเส้นแนวรับ 25 วันที่บริเวณ 1,570 จุดไงล่ะค่ะ
*ก่อนอื่นต้องแจงให้เพื่อนๆ สมาชิกข่าวหุ้นทราบก่อนว่า “โมนิก้า” จั่วหัวออกมาในโทนนี้ไม่ได้มีอะไรเลยเถิดไปไกลอย่างที่หลายคนคิด แต่เป็นเพราะต้องการสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจถึงอารมณ์ของตลาดหุ้นมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ซึ่งเป็นผลมาจากเส้นแนวรับ 10 วันที่บริเวณ 1,580 จุดยังทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม จึงไม่ต้องเดือดร้อนถึงเส้นแนวรับ 25 วันที่บริเวณ 1,570 จุดไงล่ะค่ะ
*นอกจากนี้หากสังเกตให้ดีจะเห็นเส้นแนวรับสำคัญกำลังยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการตอกย้ำภาพในระยะสั้นว่า don’t worry ใครอยากเคาะขวาแบบจัดหนักจัดเต็ม ต้องลุยในช่วงที่บรรยากาศตลาดหุ้นเป็นใจ พร้อมกันนี้ต้องระวังด้วยว่า การดีดตัวขึ้นแรงในช่วงหลังๆ มักมีแรงเทขายทำกำไรออกมาเป็นจำนวนมาก จึงอย่ายึดติดกับการถือหุ้นเป็นอันขาด มีกำไรก็รีบเทขายออกไปก่อนนะคะ
*ประเด็นเหล่านี้ดูได้จากดัชนีพยายามแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,600 จุดมาหลายรอบ แต่สุดท้ายกลับโดนเทขายเมื่อพยายามจะเทคตัวผ่านระดับดังกล่าว “โมนิก้า” ถึงมองเป็นเหตุการณ์ที่เวียนมาบรรจบอีกครั้ง และการที่ดัชนีวิ่งมาปิดที่ 1,589.29 จุด บวกไป 6.77 จุด ด้วยมูลค่า 5.90 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพมุมเดิมที่เคยเห็นกันมาแล้ว ไม่มีอะไรต้องคิดมาก นอกจากเคาะรัวๆ ให้ทันเจ้าค่ะ
*โดยเฉพาะในรายของ AOT วันนี้ได้ฤกษ์เทรดพาร์ใหม่ 1 บาท มันเป็นเกมที่ต้องเคาะตามให้ทัน หลังจากวานนี้มีการดันหุ้นขึ้นมาปิดที่ 420 บาท บวกไป 8 บาท ด้วยมูลค่า 4 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นออร์เดิร์ฟเรียกน้ำย่อยก่อนถึงวันจริง และถ้ามองจากแพทเทิร์นของหุ้นที่แกว่งตัวไปมาในระยะเวลา 1 ปีนิดๆ หุ้นน่าจะกระชากขึ้นไปได้อีกเยอะพอสมควรนะจะบอกให้
*อีกหนึ่งตัวที่น่าตามไปดูอย่างใกล้ชิด “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่น้องมิ้น MINT หลังกระชากขึ้นมาปิดที่ 36 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่า 1.28 พันล้านบาท มันเป็นไฟต์บังคับที่ต้องทำให้หุ้นทะยานขึ้นไปอีก หลังหุ้นเปิดแก๊ปไว้ค่อนข้างกว้าง หากไปไม่ไหวจะกลับมาอยู่ในแพทเทิร์น w-shape ซึ่งมีกรอบบนอยู่ที่ 36 บาท กรอบล่างอยู่ที่ 34 บาท แถมแพทเทิร์นนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 3 ครั้งในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา บอกได้แค่ว่า วันนี้สนุกแน่เจ้าค่ะ
*ส่วนในรายของ ADVANC อาศัยแรงซื้อจากพวกนักลงทุนสถาบันเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก หุ้นถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ 170.50 บาท บวกไป 7 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่า 4.72 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของการไล่ราคาหุ้น เพราะมันหมายถึงหุ้นมีความพร้อมที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 190 บาทครั้งแรกในรอบ 6 เดือน มันต้องลุยกันไม่ยั้ง เรื่องอื่นไว้พูดกันทีหลัง เพราะอารมณ์กำลังมานะคะ
*เหมือนกับในรายของ INTUCH ออกอาการกระเสาะกระแสะมาระยะหนึ่ง พอถึงบทวิ่งขึ้นแบบไม่ต้องเหลียวหลัง ก็ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 55.25 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่า 1.90 พันล้านบาท มันเป็นเรื่องของจังหวะที่เข้ามาสอดรับกันพอดี “โมนิก้า” ถึงอยากให้เล่นตามเกมสั้นๆ ไปสักระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นคอยถอยฉากเพื่อดูสถานการณ์ เพราะเมื่อปีที่แล้วก็วิ่งขึ้นไปถึง 65 บาทต่อจากนั้นรูดลงมานอนที่ 50 บาท ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 2 ครั้งภายใน 1 ปีแบบนี้..มีโอกาสซ้ำรอยนะจ๊ะ
*ตัวที่น่าสนใจสุดกลายเป็น PTTGC พยายามยกฐานแนวรับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายขึ้นมายืนอยู่ที่ 70.25 บาท บวกไป 1.25 บาท ด้วยมูลค่า 1.13 พันล้านบาท โดยเส้นแนวรับ 10 วันกับ 25 วัน ยังคงดันแท่งเทียนขึ้นไปเรื่อยๆ “โมนิก้า” ถือเป็นภาพที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แถมได้ข่าวแว่วมาแต่ไกลว่า ธุรกิจยังไปได้สวยแบบนี้ มันเป็นจังหวะของการ follow buy อย่างแน่นอนค่ะ
*คล้ายคลึงกับกรณีของ TK มีการไล่ราคากันมาระยะหนึ่ง แต่วานนี้ไล่แรงเกินไปหน่อย หุ้นเลยพุ่งขึ้นมาปิดที่ 12.60 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่า 176 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่ยังเข้าไปตะลุมบอนได้แบบสบายๆ เพราะวันนี้เทรดบนค่า P/E 13 เท่า จึงเหลือแก๊ปให้ใส่ได้ไม่ยั้ง ซึ่งเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับพวกขาลุยที่ต้องการโหนกระแส แต่มีข้อแม้ว่า วันนี้ต้องผ่าน 13 บาทไปให้ได้เสียก่อนจ้า!
*หุ้นทีเด็ดอีกหนึ่งตัวที่มีโปรไฟล์คล้ายกับข้างต้น “โมนิก้า” คงต้องเหลือบมอง OTO เป็นคิวถัดมาสำหรับการลงทุนในเที่ยวนี้ เพราะมองจากมุมของกำไรที่มีแนวโน้มจะทำ new high มันเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้หุ้นไต่ระดับขึ้นไปได้อีกแน่ๆ และการที่หุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 7.10 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 7.60% ด้วยมูลค่า 133 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของคนที่ใส่ก่อนได้ก่อนเจ้าค่ะ
*ส่วนในรายของ CHO เป็นอะไรที่ต้องดูกันช็อตต่อช็อต ไม่สามารถมองภาพไกลๆ เหตุพ่อทูนหัวอย่าง ขสมก. อีเรื่อยเฉื่อยแฉะไปเรื่อยๆ ส่งผลให้ราคาหุ้นตัวนี้ฉวัดเฉวียนเสียเหลือเกิน ล่าสุดเด้งขึ้นมาปิดที่ 1.89 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 50 ล้านบาท มันเป็นผลมาจากความคาดหวัง ขสมก. จะเดินหน้าโครงการรถเมล์ NGV แบบรวดเร็ว (ถ้าทำได้จริง ข้าน้อยขอคาราวะหนึ่งจอก)..เรื่องทั้งหมดถึงวิ่งกลับไปที่พ่อทูนหัว เพราะทางฝั่งของ “เสี่ยจิง” เขาพร้อมอยู่แล้ว…อิอิอิ