ตั้งไข่ล้ม โมนิก้าและทีมงาน
*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” เกิดความรู้สึกผิดหวังอย่างแรง เมื่อเห็นสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยออกไปในโทนล่มปากอ่าวซ้ำแล้วซ้ำอีก บวกกับนักลงทุนแกนหลักที่เคยเป็นผู้ซื้อเป็นประจำ กลับมาเทขายหุ้นอย่างเมามัน จนดัชนีลงมายืนอยู่ที่ 1,583.25 จุด ลบไป 6.04 จุด ด้วยมูลค่า 5.84 หมื่นล้านบาท มันเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องกลับมานั่งทบทวนรูปแบบการลงทุนอีกรอบนะจะบอกให้
*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” เกิดความรู้สึกผิดหวังอย่างแรง เมื่อเห็นสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยออกไปในโทนล่มปากอ่าวซ้ำแล้วซ้ำอีก บวกกับนักลงทุนแกนหลักที่เคยเป็นผู้ซื้อเป็นประจำ กลับมาเทขายหุ้นอย่างเมามัน จนดัชนีลงมายืนอยู่ที่ 1,583.25 จุด ลบไป 6.04 จุด ด้วยมูลค่า 5.84 หมื่นล้านบาท มันเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องกลับมานั่งทบทวนรูปแบบการลงทุนอีกรอบนะจะบอกให้
*โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่ปล่อยของออกไม่ทันในช่วงที่หุ้นถีบตัวขึ้นแรง “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่ต้องกำหนดกรอบการลงทุนให้กระชับขึ้นกว่าเดิม เพราะกำลังเกิดรายการสลับหน้าไพ่เล่นกันอย่างเมามัน วันนี้ถึงต้องเซ็ตเกมการลงทุนด้วยการขายหมูเป็นประเด็นหลัก และสาเหตุที่เดี๊ยนอยากให้นักเล่นคิดแบบนั้น ล้วนเป็นผลมาจากหุ้นเหวี่ยงตัวค่อนข้างแรงน่ะสิ
*ที่สำคัญคือ การขายหมูได้เรื่อยๆ มันหมายความว่า ไม่ขาดทุนซึ่งเป็นหลักในการลงทุนที่มีการพูดกันอย่างกว้างขวาง แต่พอถึงในทางปฏิบัติกลับทำได้ไม่ง่ายเหมือนกับที่พูด มันเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” เชื่อว่า หุ้นก็คงขึ้นไปได้ไม่ไกลสักเท่าไหร่ แถมวานนี้มีหุ้นหลายตัวที่ทำให้เดี๊ยนเจ็บกระดองใจโผล่หน้ามาให้เห็นอีกด้วยแบบนี้..เขาถึงบอกว่า โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนไงล่ะค่ะ
*ดูได้จากหุ้นลูกอ๊อด AOT โดนถล่มอย่างหนักหน่วง จนร่วงลงมาปิดที่ 40.25 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป4.20% ด้วยมูลค่า 5 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นรายการหักปากการเซียนชนิดที่ไม่เหลือปากกาให้หักอีกแล้ว อุตส่าห์ทำราคาขึ้นมาค่อนข้างดี กลับโดนเทขายในวันที่เอาฤกษ์เอาชัย มันคงเป็นเกมถนัดของพวกนักลงทุนสถาบัน ซึ่งช่วงหลังถนัดเข้าทำแบบสั้นๆ กระมั้ง!
*อีกหนึ่งรายที่ทำให้รู้สึกผิดหวังในระยะสั้นๆ “โมนิก้า” ต้องโฟกัสไปที่หุ้น PTT วานนี้โดนสอยปลายคางร่วงลงมาปิดที่ 394 บาท ลบไป 14 บาท หรือลงไป 3.40% ด้วยมูลค่า 5.11 พันล้านบาท พร้อมกับเป็นการปิดที่จุดต่ำสุดของวันแบบนี้ เขาเรียกว่า เกมตีหัวเข้าบ้าน! หากมองเกมให้ยาวขึ้นมานิดหนึ่งจะเห็นว่า ต้นปี 59 หุ้นอยู่แถว 200 บาท ปลายปีขึ้นมายืนแถว 380 บาท ขณะที่ราคาสูงสุดของปี 60 อยู่ที่ 430 บาท มันเป็นจังหวะของการแกว่งตัวหาฐานค่อนข้างชัดเจนเจ้าค่ะ
*ไซเคิลดังกล่าวคล้ายคลึงกับกรณีของ KTB ตลอดทั้งปีราคาหุ้นแกว่งตัวไปมาในกรอบ 16-20 บาท หรือถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ มีรูปแบบขยับตัวเป็นลักษณะ W-Shape ขณะที่วานนี้หุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 19.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่า 2.76 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องเดิมๆ ที่เคยเห็นกันมาแล้ว 3 รอบ ส่วนรอบนี้จะแตกต่างจากรอบก่อนไหม? ต้องติดตามดูกันเอาเองค่ะ
*ส่วนรายที่ผิดไปจากเดิมแน่นอน “โมนิก้า” ต้องย้อนกลับไปดู TISCO หลังหุ้นกระชากขึ้นทำ new high แบบไม่เหน็ดเหนื่อย ขนาดวานนี้ขึ้นมาปิดที่ 67.50 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่า 730 ล้านบาท ยังเป็นการเทรดบนค่า P/E 10 เท่าแบบนี้ มีแก๊ปให้หุ้นวิ่งขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว งานนี้จึงต้องดูกันยาวๆ มากกว่าดูกันสั้นๆ เพราะหุ้นมีโอกาสไปต่อค่อนข้างสูงเจ้าค่ะ
*ตรงกันข้ามกับในรายของ SYMC กระชากขึ้นมายืนที่ 11.40 บาท บวกไป 1.70 บาท หรือขึ้นไป 17.50% ด้วยมูลค่า 255 ล้านบาท มันเป็นเกมที่โอเวอร์รีแอ็กต์มากๆ เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีทีท่าจะขึ้นแรงแบบไม่บอกให้ใครรู้ จู่ๆ พุ่งพรวดพราดชนิดที่ไม่ให้ใครตั้งตัว จึงโดนตลาดหลักทรัพย์ฯ จับติดคุกเสียเลยแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่รูดม่านปิดฉากอย่างรวดเร็วเหมือนก่อนไม่มีผิดเพี้ยน(มาเร็ว เคลมเร็ว)นะจะบอกให้
*อีกหนึ่งรายที่เริ่มออกอาการไม่ค่อยดี “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่ KOOL เพราะหุ้นเริ่มโค้งตัวลงเรื่อยๆ แถมสัญญาณเทคนิคหลายตัวแสดงอาการอ่อนค่าลงอย่างเห็นได้ชัด จึงเป็นจังหวะของการถอยลงไปตั้งรับมากกว่าทำตัวเป็นชาวสวน ล่าสุดเห็นหุ้นยืนอยู่ที่ 8.15 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 3% พร้อมกับเกิดแท่งเทียนสีแดงเรียงตัว 3 แท่ง บอกตรงๆ เดี๊ยนใจคอไมดีเอาเสียเลยเจ้าค่ะ
*เหมือนกับความขัดแย้งของผู้บริหารกลุ่ม IFEC มันมีการขมวดปมเข้ามาจนใกล้จะเห็นจุดจบของเรื่องแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงเห็นเอกสารลับออกมาเรื่อยๆ หรือแม้กระทั่ง ก.ล.ต. ยังต้องออกโรงเตือนนักลงทุนให้ไปใช้สิทธิ์โหวตบอร์ด ในวันที่ 14 ก.พ. ที่หอประชุมกองทัพเรือแบบนี้ มันหมายความว่า ทุกคนอยากเห็นโฉมหน้าผู้บริหารใหม่อย่างเป็นทางการ เดี๊ยนถึงอยากให้ท่านทั้งหลายโหวตกันให้จบกันไปเลย!…ถ้าไม่จบต้องมีคนรับผิดชอบนะจ๊ะ