ศึกชิง IFECลูบคมตลาดทุน
วันนี้ (14 ก.พ.) จะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น หรือ IFEC
ธนะชัย ณ นคร
วันนี้ (14 ก.พ.) จะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น หรือ IFEC
และเป็นการประชุมวิสามัญฯ ครั้งที่ 2 ของ IFEC ในปีนี้
งานจัดขึ้นที่หอประชุมกองทัพเรือ ถ.อรุณอมรินทร์
การใช้สถานที่ของทหารทั้ง 2 ครั้ง(ครั้งแรก สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีฯ) ย่อมมีนัยสำคัญอย่างมาก
นั่นเพราะความขัดแย้งระหว่าง “เสี่ยอ๋า” หรือ นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์
กับ หมอวิชัย ถาวรวัฒนยงค์
จัดว่าอยู่ในระดับรุนแรง
เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ทั้ง 2 ฝ่ายต่างมี “การ์ด” คอยคุ้มกันตลอดเวลา
ส่วน “เสี่ยทวิช” หรือ นายทวิช เตชะนาวากุล เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค แม้จะถูกมองว่าอาจมีความสัมพันธ์กับเสี่ยอ๋า หรืออยู่ตรงข้ามกับหมอวิชัย
ทว่าเสี่ยทวิช ก็ใช้สิทธิต่างๆ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ตัวจริง เสียงจริง
การถือหุ้นของกลุ่มเสียทวิชนั้น มีอยู่ประมาณ 15%
และนับว่าเป็นกลุ่มที่ถือมากสุดในขณะนี้
ประเด็นสำคัญสำหรับการประชุมในวันนี้ คือ การเลือกกรรมการเข้ามาเพิ่มเติม จากปัจจุบัน เหลืออยู่เพียง 2 คน
และทำให้บริษัทไม่สามารถบริหารงานได้คล่องตัวนัก
เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา
ฝั่งของหมอวิชัย ได้เดินเกมใหม่ ด้วยการเสนอแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เกี่ยวกับบุคคลที่จะเข้ามาเป็นกรรมการแทนบุคคลเดิมที่ลาออกไป
รายชื่อที่เสนอเข้ามาใหม่ในครั้งนี้มีอยู่ทั้งหมด 14 คน
และในรายชื่อทั้งหมด มีชื่อของคนที่เสี่ยทวิช จะเสนอเข้ามาเป็นกรรมการด้วย
14 บุคคลที่ว่านี้ ประกอบด้วย 1.นายไกรพิชญ์ โกสีย์เจริญ 2.นายชาติชาย พุคยาภรณ์ 3.พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ 4.นายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ 5.พลตรีบุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ 6.พลเอกณรงค์ฤทธิ์ อิศรัตน์ (แทนนายธวัชชัย เตชะวัฒนวรรณา) 7.นายสายัณห์ สุพร 8.นายทวิช เตชะนาวากุล 9.พลเอกสำเภา ชูศรี 10.พลตำรวจเอกสุนทร ซ้ายขวัญ 11.นายสมชาย สกุลสุรรัตน์ 12.รองศาสตราจารย์ประนอม โฆวินวิพัฒน์ 13.นายปริญญา วิญญรัตน์ และ 14.นายพิชิต สินพัฒนสกุล
ชื่อของ 7 บุคคลแรกนั้น ว่ากันว่า ถือเป็นชื่อในส่วนของหมอวิชัย เสนอขึ้นมาใหม่
ส่วนตั้งแต่ลำดับ 8–14 คือฝั่งของเสี่ยทวิช
ศึกชิง IFEC ที่เกิดขึ้น ได้สร้างความปวดหัว และเสียหายกับเจ้าหนี้หุ้นกู้ และตั๋ว บี/อีของ IFEC อย่างมาก
ในด้านของผู้ถือหุ้นรายย่อย นอกจากจะขาดทุนอย่างมากแล้ว
ในส่วนของเงินที่เหลือ ก็ยังถูกขังอยู่ เพราะหุ้นถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้น Halt(H) และ SP มาตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.59
หรือคิดเป็น 2 เดือนเต็มพอดี
ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เคยเขียนบอกไปยังสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วว่า หากความขัดแย้งยังไม่มีข้อยุติ
และนักลงทุนรายย่อย รวมถึงเจ้าหนี้ต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างมาก
พอจะมีกฎเกณฑ์ หรือวิธีการอื่นใด เข้ามาปกป้องนักลงทุนรายย่อย และเจ้าหนี้ได้บ้างหรือไม่ นอกจากการเชิญชวนให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยไปประชุมกันเยอะๆ
เพราะการเข้าช่วยนักลงทุนจากความขัดแย้งของผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นรายใหญ่นั้น
นักลงทุนรายย่อยควรได้รับการปกป้องมากกว่านี้
และน่าจะดีกว่ามาคอยนั่งควบคุมการให้ข่าวของผู้บริหาร บจ. เพราะกลัวรายย่อยจะถูกหลอกเสียอีก
ผ่านมาถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า การประชุมในวันนี้จะจบลงอย่างไร
ฝั่งของเสี่ยทวิชเองก็ยังหวั่นว่า หากหมอวิชัย ประเมินแล้ว ตนเองอาจเพลี่ยงพล้ำ
หมอวิชัย ก็อาจปิดประชุม หรือเดินเกมอื่นๆ
เสี่ยทวิช จึงอยากให้รายย่อย เข้ามาประชุมกันให้มากเท่าที่จะมากได้
ด้านหมอวิชัยเองก็บอกว่า ที่ต้องการบริหารงานต่อ เพราะต้องการลากคอ “คนผิด” มาลงโทษก่อน
เข้าใจว่า หมอวิชัย เกรงว่า หากกรรมการที่ได้รับเลือกเข้ามานั้น ไม่ใช่ฝั่งของตน ก็อาจจะไม่ดำเนินการในสิ่งที่หมอวิชัยมองว่า มีคนทำความผิดด้วยการทุจริตไว้
หมอวิชัย พยายามชูว่า เขาทำเพื่อนักลงทุนรายย่อย
ก็เพราะว่า ตนเองนั้นมีหุ้นอยู่ 3%
ดังนั้น หากต้องการคะแนนที่เหลือ ก็ต้องดึงรายย่อยมาฝั่งตนเองให้มากที่สุด
ศึกชิง IFEC ในวันนี้
ยากที่จะประเมินในตอนจบ จริงๆ