หุ้นเล็กกำไรโต-หนี้สินต่ำ
วิธีการลงทุนในตลาดหุ้นนั้น มักมีวิธีเล่นที่แตกต่างกันออกไปตามตำราเรียนของแต่สำนัก แต่ผลสุดท้ายจบที่เทคนิคการเล่นค่ายๆ กัน
เส้นทางนักลงทุน : เปิดหุ้นเล็กกำไรโตต่อเนื่อง ด้านหนี้สินต่ำ
วิธีการลงทุนในตลาดหุ้นนั้น มักมีวิธีเล่นที่แตกต่างกันออกไปตามตำราเรียนของแต่สำนัก แต่ผลสุดท้ายจบที่เทคนิคการเล่นค่ายๆ กัน
โดยเฉพาะทางออกเพื่อลดความเสี่ยงก็หนีไม่พ้นเรื่องของการหาหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ผลการดำเนินงานยังมีการเติบโตที่ดี ความมั่นคงทางการเงินระดับห้าดาว กู้เงินน้อยๆ และที่สำคัญบริษัทปลอดหนี้
ทั้งนี้ หุ้นที่มีคุณสมบัติเหมือนที่กล่าวไว้นั้นคงจะหายากพอสมควรในภาวะเศรษฐกิจหดตัว ดูเผินๆ อาจจะหายาก แต่ถ้าวิเคราะห์กันจริงๆ แล้ว หุ้นที่ดีสามารถต่อสู้กับปัจจัยลบได้ ยังมีอยู่ ยังมีอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ นั่นคือ หุ้นที่มีกำไรสุทธิเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่หนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ลดต่ำลงเรื่อยๆ
แน่นอนว่านักลงทุนคงไม่ชอบลงทุนบริษัทที่มีการกู้หนี้ยืมสินมาดำเนินธุรกิจ ดังนั้น ถ้าบริษัทไหนมี D/E Ratio สูง หมายถึง มีความเสี่ยงสูงต่อการเติบโตหรือการสร้างผลตอบแทนในอนาคต โดยเฉพาะหากธุรกิจเกิดเป็นอะไรขึ้นมา บริษัทไหนที่มีหนี้สินมากๆ ย่อมมีความเสี่ยงมากกว่าบริษัทที่มีหนี้น้อยๆ หรือไม่มีหนี้เลย
ดังนั้น หากนักลงทุนค้นหาหุ้นที่มีกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่หนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำ หรือลดต่ำลงเรื่อยๆ แล้วตัดสินใจลงทุน ย่อมมีความปลอดภัยสูง
โดยความโดดเด่นของหุ้นคุณสมบัติแบบนี้ ก็คือ มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น (Capital Gain) และอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) หมายถึง นักลงทุนระยะสั้นก็ลงทุนได้นักลงทุนระยะยาวก็ถือได้ด้วยความสบายใจ
ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” มีการรวบรวมข้อมูลของบริษัทหลักทรัพย์ตลาดเอ็ม เอ ไอ หุ้นที่มีกำไรสุทธิเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่หนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ลดต่ำลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่ ปี 2557- งวด 9 เดือนแรกปี 2559มาให้นักลงทุนพิจารณาต่อการลงทุน
อาทิ บริษัท ควอลลีเทค จำกัด (มหาชน) หรือ QLT, บริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT, บริษัท พรอดดิจิ จำกัด (มหาชน) หรือ PDG, บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) หรือ AKP, บริษัท พลาสติค และหีบห่อไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPAC, บริษัท โรงพยาบาลไทยนครินทร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNH
บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JUBILE, บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH, บริษัท 2 เอส เมทัล จำกัด (มหาชน) หรือ 2Sและ บริษัท นิวพลัสนิตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ NPK ตามลำดับ ส่วนรายระเอียดตัวเลขดูได้จากตาราง
อย่างไรก็ตาม การมองหาหุ้นลักษณะดังกล่าวเป็นการวิเคราะห์เชิงปัจจัยพื้นฐานที่เป็นขั้นพื้นฐานจริงๆ เพื่อหาธุรกิจที่ไว้วางใจได้
ทั้งนี้ หากต้องการลงทุนหุ้นที่หามาได้ จะต้องทำการวิเคราะห์กันต่อไป เช่น การประเมินราคาหุ้นที่เหมาะสม เพราะบางครั้งหุ้นที่เจออาจจะยังไม่ใช่ เพราะราคาขยับขึ้นแพงเกินไปแล้ว ดังนั้น นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
เพราะนี้ เป็นเพียงหุ้นพื้นฐานดี พร้อมมีค่า D/E ต่ำ!!
…