2 หุ้นแบงก์น่าซื้อ!
เห็นได้ว่าราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีการฟื้นตัวกันทั่วหน้า นับตั้งแต่ต้นปี 60 มาถึงปัจจุบัน เหตุเป็นการเข้าเก็งกำไรหลังจากราคาหุ้นอ่อนตัวลงเยอะ ประกอบกับมีแรงหนุนจากผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 59 และงบปี 59 เติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน
เส้นทางนักลงทุน : 2 หุ้นกลุ่มแบงก์! โบรกฯประสานเสียงยังน่าซื้อ
เห็นได้ว่าราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีการฟื้นตัวกันทั่วหน้า นับตั้งแต่ต้นปี 60 มาถึงปัจจุบัน เหตุเป็นการเข้าเก็งกำไรหลังจากราคาหุ้นอ่อนตัวลงเยอะ ประกอบกับมีแรงหนุนจากผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 59 และงบปี 59 เติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่เพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรจากเงินลงทุนและการตั้งสำรองหนี้สูญลดลงอย่างมากโดยเฉพาะธนาคารใหญ่
ปัจจัยต่อมาเมื่อผลประกอบการแข็งแกร่ง ราคาหุ้นมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทำให้บรรดากลุ่มนักวิเคราะห์ต่างออกมาประเมินว่าในปี 60 ผลประกอบการยังคงเติบโต ทำให้มีการออกราคาเป้าหมายกันทั่วหน้า
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารบางตัวมีการปรับตัวขึ้นมาพอสมควร มาอยู่ในระดับราคาเป้าหมายเสียส่วนใหญ่แล้ว แต่อย่างไรก็ดี ยังมีหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์หลายตัวที่ราคาหุ้นยังปรับตัวไม่ถึงเป้าหมายของนักวิเคราะห์ หรือที่เรียกกันว่าหุ้นยังมีอัพไซส์เหลืออยู่นั่นเอง (โดยดูบทวิเคราะห์ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 เท่านั่น)
สำหรับหุ้นที่มีอัพไซส์ และนักวิเคราะห์หลายๆ โบรกฯ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” อาทิ BBL และ TCAP
โดย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ณ วันที่ 15 ก.พ.60 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 179 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 956.06 ล้านบาทแต่อย่างไรก็ตามมีการวิเคราะห์กันว่าผลประกอบการปี 2560 ของ BBL จะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่แล้วทั้งด้านสินเชื่อ, การรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจากปีก่อน, และการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ที่ระมัดระวัง เราคาดว่าสินเชื่อธนาคารจะมีแรงหนุนจากโครงการภาครัฐฯ, การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น, และการลงทุนของภาคเอกชนที่มากกว่าปีก่อน
ส่วนแต่ละโบรกฯ ยังคงแนะนำ “ซื้อ”พร้อมให้ราคาเป้าหมายดังนี้ บล.บัวหลวงให้ราคาเป้าหมาย 213 บาท, บล.เอเอสแอล ให้ราคาเป้าหมาย 195 บาท, บล.ดีบีเอสฯ ให้ราคาเป้าหมาย 190 บาท, บล.แอพเพิล เวลธ์ ให้ราคาเป้าหมาย 195 บาท, บล.ฟินันเชียไชรัส ให้ราคาเป้าหมาย 210 บาท, บล.ทิสโก้ ให้ราคาเป้าหมาย 202 บาท, บล.เคจีไอ ให้ราคาเป้าหมาย 189 บาท และ บล.ทรีนีตี้ ให้ราคาเป้าหมาย 186 บาท
ขณะที่ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP ณ วันที่ 15 ก.พ.60 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 49 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.03% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 204.14 ล้านบาท ทั้งนี้ แนวโน้มสินเชื่อที่กลับมาขยายตัวอีกครั้งหลังจากที่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 57-59) สินเชื่อหดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยการขยายตัวของสินเชื่อจะมาจากการเติบโตของสินเชื่อทุกประเภท ตามภาวะเศรษฐกิจที่เติบโต และภาระผ่อนชำระตามนโยบายรถยนต์คันแรกหมดลง
นอกจากนี้ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จากนโยบายการปรับเพิ่มสัดส่วนเงินฝากกระแสรายวันและเงินฝากออมทรัพย์เป็น 50% จากปีก่อนที่ 45% ช่วยให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง เพราะเงินฝากทั้ง 2 ประเภทอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำอย่างไรก็ตามแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ยังมีโอกาสเพิ่มขึ้นเป็น 2.5% จากปีก่อนที่ 2.4% จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังเติบโตไม่แข็งแกร่ง และกลยุทธ์เชิงรุกในการผลักดันการขยายตัวของสินเชื่อ
ส่วนแต่ละโบรกฯ ยังคงแนะนำ “ซื้อ”พร้อมให้ราคาเป้าหมายดังนี้ บล.เคทีบี ให้ราคาเป้าหมาย 53 บาท, บล.ดีบีเอสฯ ให้ราคาเป้าหมาย 53 บาท, บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ให้ราคาเป้าหมาย 50.50 บาท, บล.ทรีนีตี้ ให้ราคาเป้าหมาย 53 บาท และ บล.แอพเพิลเวลธ์ ให้ราคาเป้าหมาย 56 บาท
หุ้นที่นำเสนอเป็นการหยิบยกจากบทวิเคราะห์ในเดือนกุมภาพันธ์ สิ่งสำคัญคัดจากหลายๆ โบรกฯ ที่ยังคงนะนำซื้อเท่านั้น
ที่สำคัญ หุ้น 2 ตัว ยังมีอัพไซส์ให้เล่นอยู่พอสมควร!!
…