PTT เหนียมอะไรไม่ทราบแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ตามปกติแล้ว เป็นที่ทราบกันดีว่า บริษัทอันดับหนึ่งของตลาดหุ้นไทยทุกด้าน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT มีจารีตเลือกรายงานงบการเงินรายไตรมาสวันศุกร์ตอนค่ำ


ตามปกติแล้ว เป็นที่ทราบกันดีว่า บริษัทอันดับหนึ่งของตลาดหุ้นไทยทุกด้าน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT มีจารีตเลือกรายงานงบการเงินรายไตรมาสวันศุกร์ตอนค่ำ

ค่ำของท่านในที่นี้หมายถึง 4 ทุ่ม….นะจ๊ะ

ผลลัพธ์คือ ข่าวที่จะพาดหัวใหญ่เลยถูกเอาไปซ่อนไว้ให้เล็กลงวันถัดมา 

บนพื้นที่สื่ออย่างหนังสือพิมพ์นั้น ข่าวที่มีอายุเกิน 12 ชั่วโมงถือเป็นข่าวเก่าทั้งหมด… เป็นจารีตของสื่อเหมือนกัน

เพียงแต่คราวนี้ งบการเงินงวดปี 2559 และงวดไตรมาสสี่ 2559 ที่ออกมาพร้อมกัน มีการเปลี่ยนจารีตเล็กน้อย คือ เลื่อนเร็วขึ้นมาแจ้งวันพฤหัสบดี … แต่ก็ยังไม่ทิ้งนิสัยเดิม แจ้งตลาดตอน 4 ทุ่มเช่นกัน 

สงสัยกลัวจะเป็นข่าวใหญ่ว่ากำไรเยอะ…อิ อิ

ที่จริงก็กำไรเยอะจริงๆ แหละ  แต่ว่าเยอะท่ามกลางอุปสรรค ไม่ใช่เยอะแบบไม่ต้องทำอะไรเลย

ซึ่งกำไรที่ได้มา ถือเป็นข่าวดีสำหรับคนถือหุ้น PTT และสำหรับผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ… กำไรเยอะอย่างนี้ ทำให้ค่า พี/อี เฉลี่ยตลาดลดฮวบฮาบกันเลยทีเดียว 

ต่างชาติที่อ้างเรื่องพี/อีตลาดหุ้นไทยแพง หงายเงิบไปตามๆ กัน

งบการเงินไตรมาสสี่ สวยน้อยลง ต่ำกว่าคาด เพราะมีกำไรสุทธิ  19,087 ล้านบาท (กำไรปกติไม่รวมรายการพิเศษอยู่ที่ 25,368 ล้านบาท) ลดลงมากถึง 29% เทียบกับไตรมาสสาม เนื่องจาก (1) บันทึกการด้อยค่าสินทรัพย์อันเป็นมรดกเก่า จาก PTTER EPG และ PTTEP จำนวน 7.1 พันล้านบาท  (2) ผลประกอบการ PTTEP ขาดทุน 863 ล้านบาท สวนทางกับไตรมาสสามที่มีกำไร 5.4 พันล้านบาท

PTTEP ที่เคยเป็น “วัวให้น้ำนมทองคำ” หมดสภาพอีกปีหนึ่ง ต่อเนื่อง

เพียงแต่บุญเก่ายังค้ำเพราะบรรดาลูกที่มียั้วเยี้ย ทำกำไรเพิ่มชดเชยให้จาก (1) ปริมาณขายของโรงแยกก๊าซเพิ่มขึ้น (2) ธุรกิจโรงกลั่นที่ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันฟื้นตัวจากข้อตกลงโอเปก โดดเด่นทั้งค่าการกลั่นและกำไรสต๊อกน้ำมันดิบ (3) ราคาขายผลิตภัณฑ์กลุ่มปิโตรเคมีฟื้นตัว โดยเฉพาะ HDPE ทั้งนี้ 

ตัวเลขงบการเงิน ไตรมาสสี่ ทำให้งบงวดสิ้นปีของ PTT  มีรายได้จากการขาย 1.72 ล้านล้านบาท ลดลงมากถึง 15% เทียบกับปีก่อน จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิของกลุ่ม ปตท. เพิ่มขึ้น 74,673 ล้านบาทจากปี 58 เป็น 94,609 ล้านบาท

พูดง่ายๆ คือ กำไรปกติลดแน่นอน แต่มีกำไรพิเศษหรือกำไรทางบัญชีมาช่วยอื้อซ่า

สาเหตุของกำไรสุทธิที่โตโดดเด่น แม้ว่าสภาพตลาดราคาน้ำมันและปิโตรเคมี ส่งผลกระทบต่อกำไรขั้นต้นลดลง 2 หมื่นล้านบาท เกิดมาจากการบันทึกมูลค่าการด้อยค่าทางบัญชีลดลง และมีกำไรจากสินค้าคงคลังแทนการขาดทุนรวม 7 หมื่นล้านบาท 

นี่ยังไม่รวมเอากำไรจากการขายเงินลงทุนในหลายกิจการอีก ซึ่งซ่อนเอาไว้ แต่ไปโผล่ในงบใหญ่จนกำไรโป่งพองยิ่งกว่าลูกโป่ง

กำไรสุทธิโดดเด่นทั้งที จะปล่อยให้คนเข้าใจผิดๆ ว่า “บังเอิญส้มหล่นใส่เท้า” ก็กระไรอยู่ จึงต้องหาเหตุผลมาบอกว่าฝีมือก็มีไม่ธรรมดา เพราะว่า “มีการลงทุนในธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่าที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำ ทำให้ผลประกอบการของกลุ่ม ปตท. พลิกฟื้นเร็วกว่าบริษัทน้ำมันชั้นนำอื่นๆ หลายแห่งที่การลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจต้นน้ำ”

ลงทุนในธุรกรรมการผลิตเชิงกายภาพยังไม่พอ PTT ยังเพิ่มความเข้มข้นในสินทรัพย์ที่มองไม่เห็นอีก แล้วไม่หวังกำไร บรรจุเข้ามาในรายงานงบการเงินด้วย…. นี่ก็แปลกไปอีกแบบ….โดยในปี 2559 ได้มีการทบทวนกระบวนการบริหารจัดการองค์กรด้านธรรมาภิบาลให้ครอบคลุมทุกด้าน โดยได้เริ่มดำเนินงานตามข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการวังน้อย Compressor รวมทั้งการร่วมเป็นภาคีองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) และเข้าร่วมในกิจกรรมต่อต้านคอร์รัปชั่นต่างๆ…แถมยังสนับสนุนโครงการประชารัฐสุขใจ shop เพื่อจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นในสถานีบริการ 148 แห่งและมีส่วนร่วมในการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวนา ผ่านโครงการ “รวมพลังซื้อ ข้าวจากชาวนา”  โดยมียอดขายข้าวได้รวม 3,076 ตัน ผ่านสถานีบริการน้ำมัน 315 สถานี และใช้สถานีบริการน้ำมันเป็นศูนย์รวมในการช่วยบรรเทาทุกข์ให้ผู้ประสบภัยภาคใต้ โดยพนักงาน ปตท.มีส่วนร่วมทำกิจกรรมจิตอาสา

ถ้ามองข้ามเรื่องงานด้านสังคมที่ไม่ทำกำไรแล้ว จะเห็นการฟื้นตัวกลับมาที่สวยงามของ PTT โดยไม่ต้องพึ่งพา PTTEP แบบในอดีตอีกต่อไป 

ที่น่าสนใจคือ ในปีนี้ 2560 นักวิเคราะห์ยังมีมุมมองบวก เล็กน้อยว่ายังมีข่าวดีและร้ายปนเปกันให้เห็น นับจาก 

– ราคาหุ้นสะท้อนการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบไปในระดับหนึ่งแล้ว 

– ผลการประชุมโอเปกครั้งต่อไปเดือนพฤษภาคม  ที่จะชี้ขาดทิศทางราคาน้ำมันโลก

– แนวโน้มผลประกอบการ PTTEP คาดว่าจะทำจุดต่ำสุดภายในครึ่งแรกปีนี้

 – ผลประกอบการบริษัทในเครือข่ายครึ่งแรกปีนี้ โดยเฉพาะ PTTGC ยังสดใส โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจก๊าซ จากแรงหนุนต้นทุนเนื้อก๊าซที่อยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าและกลุ่มปิโตรเคมียังเติบโตดี

 – การแตกบริษัทย่อยในเครือข่ายเพื่อเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งทางตรงอย่าง PTTOR และทางอ้อมอย่าง Green Chemical (ลูกของ PTTGC) จะส่งผลต่อราคาหุ้นเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ ถือเป็นทีเด็ดปีนี้

เรื่องราวดีๆ มากมาย (ไม่รวมหากมีมหัศจรรย์ทำให้ PTTEP กลับให้น้ำนมทองคำระลอกใหม่) ไม่รู้จะเหนียมอายไปทำไม

หันมาใกล้ๆ หน่อยสิจ๊ะ เลือกแจ้งงบตอน 5 โมงเย็นดีกว่า วันไหนก็ได้

เย้ ย้ย้……..

 

Back to top button