วันนี้หุ้นจะขึ้น 100 จุด!โมนิก้าและทีมงาน

*แอ่น..แอ๊น! วันนี้จะเป็นอีกครั้งที่ตลาดหุ้นทั่วโลกจะสุกสกาวสดใส ปัญหาเศรษฐกิจจะแก้ไขเบ็ดเสร็จได้ภายใน 1 เดือน ปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้นจะมีคนมาใช้ให้แทน และที่ขาดไม่ได้เสียเลยก็คือ วันนี้ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้น 100 จุด หุ้นบลูชิพจะกลับมาเป็นดาวเด่น หุ้นขนาดกลางจะทะยานอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่หุ้นขนาดเล็กจะพุ่งกระฉูดชนิดที่เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่นะคะ


*แอ่น..แอ๊น! วันนี้จะเป็นอีกครั้งที่ตลาดหุ้นทั่วโลกจะสุกสกาวสดใส ปัญหาเศรษฐกิจจะแก้ไขเบ็ดเสร็จได้ภายใน 1 เดือน ปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้นจะมีคนมาใช้ให้แทน และที่ขาดไม่ได้เสียเลยก็คือ วันนี้ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้น 100 จุด หุ้นบลูชิพจะกลับมาเป็นดาวเด่น หุ้นขนาดกลางจะทะยานอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่หุ้นขนาดเล็กจะพุ่งกระฉูดชนิดที่เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่นะคะ

*ที่สำคัญบรรยากาศการลงทุนจะกลับมาคึกคักอย่างไม่น่าเชื่อ มูลค่าการซื้อขายต่อวันจะขึ้นไปแตะระดับ 1 แสนล้านบาทต่อวัน จนระบบของตลาดเกือบจะล่มเป็นคำรบที่ 3 แต่สถานการณ์ทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี เพราะตลาดหลักทรัพย์ฯ วางระบบไอทีไว้ค่อนข้างดี จนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติพุ่งปรี๊ดจนปรอทแทบแตก ก่อนที่เดี๊ยนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาเผชิญกับความจริงที่มันโหดร้าย..อิอิอิ

*อย่างที่รู้กันดีว่า วันที่ 1 ทีไรคนไทยเป็นสุขใจทุกที เพราะเป็นวันที่เงินเดือนออกแล้ว แถมยังเป็นวันที่นักเสี่ยงโชคร่าเริงสุดๆ เพราะเป็นวันหวยออกนั่นเอง แต่สำหรับพวกฝรั่งมังค่า ถือเอาวันที่ 1 เมษายน ของทุกปีเป็นวันที่พวกเขาเรียกกันว่า April Fool’s Day” ซึ่งก็คือ วันแห่งการโกหก หรือเรียกอีกชื่อว่า “วันเมษาหน้าโง่” เป็นวันที่ทุกคนสามารถแกล้งกันสนุกสนานด้วยการโกหก โดยไม่ถือโทษโกรธกัน อาจมีการปล่อยข่าวลือมากมายหลายเรื่อง ก่อนจะมาเฉลยทีหลังว่า เป็นเรื่องไม่จริงแต่อย่างใด เช่น การปล่อยข่าวลือดาราดังเสียชีวิต ฯลฯ นะจะบอกให้

*วกกลับมาดูความจริงที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยบางดีกว่า เพราะอาการผันผวนที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ทำให้เดี๊ยนมั่นใจว่า  การเด้งขึ้นมาปิดที่ 1,505.94 จุด บวกไป 9.43 จุด ด้วยมูลค่า 3.59 หมื่นล้านบาท นี่เป็นเพียงการซื้อกลับสั้นๆ ของกองทุน “โมนิก้า” ยังมองไม่เห็นตัวแปรที่จะทำให้ดัชนีทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้แนวรับสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,500 จุดยังต้องถูกท้าทายต่อไปอีกระยะหนึ่งเจ้าค่ะ

*เหมือนกับ 2 แม่ลูก CPF กับCPALL ก่อนหน้านี้โดนถล่มเทขายอย่างหนักหน่วงเป็นแรมเดือน จู่ๆ ในช่วง 1-2 วันมีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มองในมุมไหนก็รู้ได้ทันทีว่า เป็นฝีมือของพวกกองทุน ช่วงไหนเกิดอาการเบื่อๆ หาเรื่องได้ตลอดเวลา ก็อ้างเหตุผลในการเทขายหุ้นทิ้ง แต่วันไหนเกิดอารมณ์อยากขึ้นมากะทันหัน ก็รีบกระโจนใส่มือเป็นระวิง วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 22.50 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 3.20%  และตัวลูกปิดที่ 41 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.50% มันมีอะไรมากกว่าที่คิดเยอะนะคะ

 *สถานการณ์ดังกล่าวคล้ายคลึงกับหุ้นกลุ่มแบงก์ที่นำทัพด้วย BBL KBANK SCB และตามติดมาด้วย KTB ขยับขึ้นคนละเล็กคนละน้อยแบบไม่ค่อยเต็มใจ “โมนิก้า” ถึงมองการเข้ามาเก็บของกองทุนเที่ยวนี้เป็นแบบเสียไม่ได้  เหตุผลหลักในการเข้าทำยังเป็นเรื่องเทคนิคล้วนๆ และมีผลทำให้ดัชนีขยับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บวกกับวอลุ่มที่เบาบางเกินไปในเที่ยวนี้ทำให้หุ้นยังมีลักษณะพายเรือวนในอ่างนะจะบอกให้

*ส่วนหุ้นที่น่าจับอีกกลุ่มหนึ่งกลายเป็น TPIPL ร่ำลือกันอย่างหนาหูว่า นี่เป็นศิษย์เอกของค่าย อ.เพชร ซึ่งมีป้อมปรากการหลักอยู่ใกล้ๆ กับ จ.สระบุรี แถมยังมีลูกศิษย์ลูกหามากมายหลายคน และหุ้นตัวนี้เป็นหนึ่งในผลงานการสรรค์สร้าง ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาถึงเห็นหุ้นวิ่งระเบิดระเบ้อ ล่าสุดหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ 2.86 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 4.40% ทั้งที่ก่อนหน้านี้โดนถล่มลงไปกองอยู่ที่ 2.20 บาท มันเป็นเกมโหดเหมือนกันนะเนี่ย

*เช่นเดียวกับในรายของ SUPER ซึ่งคนในวงการขนานชื่อให้เป็นสุดยอดหุ้นเก็งกำไร ตัวเลขต่างๆ ไม่สามารถนำมาใช้ประเมินสถานภาพของหุ้น บวกกับข่าวสารที่คอยเป็นตัวบิ้วอารมณ์ ยังเป็นเรื่องเดิมๆ ที่คุยโม้ไว้ตั้งแต่ปีก่อน วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.16 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 11% มันเป็นเรื่องของความเชื่อล้วนๆ และข่าวล่าสุดที่กำลังเม้าท์กันอย่างสนุกสนานพูดตรงกันว่า  ช่วยไปตรวจสอบแผงโซลาร์ฟาร์มที่ค้างในท่าเรือเป็นของใคร? และเหตุผลที่นำออกมาได้เป็นเพราะไม่มีเงินจ่ายภาษีนำเข้าจริงไหม? งานนี้จะได้รู้กันเสียทีว่า ใครกันแน่ที่มีปัญหา?..อิอิอิ

*เหมือนกับในรายของ IFEC เกิดปัญหาความขัดแย้งกันภายในกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ หุ้นถึงมีอาการเสียศูนย์จนแทบกู่ไม่กลับยิ่งเห็นหุ้นมีอาการแกว่งตัวขึ้นวันลงวัน “โมนิก้า”ยิ่งเกิดอาการหวั่นใจมากขึ้นเป็นทวีคูณเพราะข่าวสารที่ออกมาในแต่ละดอกทำให้เดี๊ยนเกิดอาการจุกเสียดแน่นท้อง ล่าสุดเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 12.30 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 6% ค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อยว่า ไม่ได้โดนสาดทิ้ง แต่โอกาสไปต่อยัง 50 : 50 นะคะ

*ส่วนหุ้นที่ขึ้นแรงแบบไม่เกรงใจชาวบ้านอย่าง NDR ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ เพราะกระแสของตลาดจะมองเป็นหุ้นมีเจ้ามือ การขึ้นเที่ยวนี้ค่อนข้างผิดธรรมชาติ ยิ่งเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 4.56 บาท บวกไป 1.04 บาท หรือขึ้นไป29.55% ด้วยมูลค่า 123 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมเสี่ยงที่เหมาะสำหรับนักโหนกระแส และวันนี้จะได้รู้ดำรู้แดงกันไปเสียทีว่า “ของจริง” หรือ “ของเทียม” นะจ๊ะ

Back to top button