โล่งใจ

โมนิก้าและทีมงาน

 

*ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยที่ตื้อๆ ตันๆ มาระยะหนึ่งจะถูกทลายลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมีความหวังว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่นั้น ล้วนมาจากสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสหรัฐ เฮีย “ทรัมป์” ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่กว่าที่เคยประกาศ รวมทั้งนโยบายต่างๆ ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเสียก่อนแบบนี้ บอกได้คำเดียวว่า ไม่มีอะไรต้องกังวลเจ้าค่ะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงมีแรงซื้อไหลกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,567.19  จุด บวกไป 7.63 จุด ด้วยมูลค่า 4.20 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของความสบายใจระยะสั้นๆ และรอข้อมูลที่จะบิวด์อารมณ์ให้ฮึกเฮิมในไม่ช้า มันเป็นช็อตที่นักเล่นต้องปรับโพสิชั่นเชิงบวกอย่างเร่งด่วน เพราะหุ้นหลายตัวถูกเทขายลงมามากเกินไป และจังหวะนี้เป็นช่วงของการเคาะเก็บแบบรัวๆ นะจะบอกให้

*สาเหตุที่ทำให้เชื่อเช่นนั้นเป็นเพราะยอดซื้อของฝรั่งตาน้ำข้าวในย่านเอเชียอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย จึงเชื่อว่า จะมีเม็ดเงินลงทุนก้อนใหญ่ไหลเข้ามาในภูมิภาคนี้อีกครั้ง รวมทั้งตัวเลขผลประกอบการที่ออกมาในเที่ยวนี้ ทำให้หุ้นบางตัวกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นทลายกำแพงความกลัว พร้อมกับเดินหน้าเข้าใส่หุ้นทีเด็ดของแต่ละคนอย่างเต็มตัวนะคะ

*ประเด็นดังกล่าวดูได้จากหุ้น CPF ไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 28.25 บาท บวกไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท ล้วนมาจากผลงานในปี 59 เข้าตากรรมการจังเบ่อเร้อ ผนวกกับนักลงทุนสถาบันหวนกลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้นอีกรอบ ทุกอย่างเลยสวยสดงดงามตามท้องเรื่อง เมื่อบวกกับโอกาสที่หุ้นจะขึ้นไปพลิกแนวต้าน 29 บาทให้กลายเป็นแนวรับ ต่อจากนั้นจะทะยานขึ้นไปหาเป้า 32 บาทอย่างแข็งแกร่ง จังหวะนี้เป็นช็อตที่ต้องตามไปดูแล้วนะจ๊ะ

*เหมือนกับในรายของ TRUE ภายใต้การกุมบังเหียนของมังกรน้อย “ศุภชัย” ออกอาการกระดี๊กระด๊า หลังขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 2 ธุรกิจค่ายมือถือ ก่อนจะปิดตลาดไปที่ระดับ 6.45 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 3.20% ด้วยมูลค่า 2.11 พันล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า ไม่มีใครสนใจตัวเลขขาดทุนปี 59 ที่มีเป็นจำนวน 2.80 พันล้านบาทแบบนี้ สงสัยได้เวลาเล่นรอบใหม่แล้วล่ะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ STA เด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 21.60 บาท บวกไป 1.60 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมหุ้นที่ค่อนข้างประหลาดไปนิดหนึ่ง ก็เห็นกันอยู่ทนโท่ว่า ตัวเลขขาดทุนบักโกรก แต่วันนี้ดันไล่ราคากันแบบสุดลิ่มทิ่มประตู มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยงเกินไปหน่อยมั้ง! แถมสิ่งที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ไม่เป็นเหมือนกับที่มองกันไว้ มันเสี่ยงเกินไปที่จะตามไล่เคาะซื้อเจ้าค่ะ

*ผิดกับในรายของ PTTGC หากดูรูปแบบการทะยานขึ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า มันเป็นช็อตที่มีการไล่ราคามาพักใหญ่ๆ และมีแนวโน้มจะยกฐานสูงขึ้นต่อเนื่อง จึงเป็นจังหวะของการ follow buy แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ล่าสุดเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 72.75 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่า 800 ล้านบาท ก็ยังเป็นราคาที่ต่ำกว่าเป้า 86 บาทอยู่ดีนะคะ

*เหมือนกับในรายของ SAWAD ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมกระเทียมดองทุกปี จนแวลูของหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นชนวนเหตุให้นักลงทุนเข้ามาไล่ราคากันอย่างเมามัน ก่อนจะจบลงที่ 45.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่า 650 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นความพยายามที่จะดันหุ้นให้ทะลุแนวต้านตรงนี้ขึ้นไปให้ได้ เพื่อจะขึ้นไปทดสอบเป้าหมาย 48 บาท..หากผ่านไปไม่ได้ ก็จะถูกบันทึกไว้ว่า นี่เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 เดือนก็เท่านั้นเองค่ะ

*เม้าท์ถึงหุ้นที่ทำผลงานได้ดีทีไร “โมนิก้า” มักนึกถึงหุ้นดาวรุ่ง FN เป็นประจำ แถมเกจิอาจารย์ดังหลายท่านเห็นพ้องต้องกันว่า ราคาเป้าปีนี้เกิน 10 บาทอย่างแน่นอน เท่ากับเป็นการกระตุ้นให้กระโจนเข้าใส่ บวกกับแรงเทขายที่มีออกมาอย่างถล่มทลายเริ่มเบาบางลง ย่อมทำให้การเซ็ทเกมรอบใหม่ทำได้ง่ายขึ้น วานนี้หุ้นถึงขึ้นมาปิด 7.65 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 120 ล้านบาท ผสมโรงกับ เฮีย ค. บอกว่า ยาวไป..ยาวไป ก็ต้องตามไปดูซิค่ะ

*เช่นเดียวกับเกมของ ITEL ของมันเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งว่า ปี 60 ยังเป็นปีของการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แถมงานที่มีอยู่ในมือก็มีไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็เป็นหุ้นที่ต้องตามไปดูอย่างใกล้ชิด ยิ่งมีเรื่องแตกพาร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้ว เดี๊ยนถึงกล้าบอกว่า หลังประชุมผู้ถือหุ้นเดือน เม.ย. น่าจะเห็นอะไรเด็ดๆ ขณะที่วานนี้หุ้นเด้งรับข่าวมาปิดที่ 11.30 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่า 72 ล้านบาทแล้วนะคะ

*อีกหนึ่งรายที่น่าจับตาต้องยกให้ AJD หลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวเลขกำไรเติบโตก้าวกระโดด พร้อมกับประกาศว่า ในปี 60 ยังจะเติบโตได้อีกแบบนี้ “โมนิก้า” ขอซูฮกในความเก่งกาจของ “เฮียอมร” พร้อมกับทำให้เดี๊ยนจินตนาการต่อไปว่า หากปี 60  ปั๊มกำไรขึ้นมาแตะ 400 ล้านบาท ราคาเป้า 3 บาทคงไม่ไกลเกินเอื้อม ซึ่งจะทำให้ราคาปิดที่ 1.63 บาท บวกไป 0.04 บาท มีแก๊ปให้วิ่งอีกเพียบ..จริงหรือไม่ ดูกันต่อไปเรื่อยๆ เจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของน้องกิ๊ฟ GIFT หลังจากทำผลงานได้อย่างโดดเด่น กองทุนเข้ามารุมจีบเยอะแยะไปหมด ก็ทำให้มูลค่าการซื้อขายช่วงหลังหนาแน่นทุกวัน แม้จะมีจังหวะที่โดนเทขายบ้าง แต่หุ้นก็ยังอยู่ในทรงที่ดี วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่  6.25 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 5% ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ต้องตามไปดูเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชอบเน้นอะไรยาวๆ..นี่คือ คำตอบสุดท้าย! ไม่เชื่อถาม เฮียเจต ดูก็ได้.. อิอิอิ