รอบนี้ KBANK แข็ง!!

อาจารย์รู้สึกว่า คุณอรวี จะเป็นนักลงทุนประเภทมองโลกในแง่บวก ถึงมองการรีบาวนด์ของหุ้นหลังจากปรับตัวลงหนักติดต่อกันหลายวันเป็นโอกาสของการลงทุน ทั้งๆ ที่สถานการณ์รอบด้านหลายอย่างไม่มีอะไรมายืนยันความผันผวนของตลาดหุ้นไทยได้ผ่านพ้นไปแล้ว


สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย

 

คุณอรวี จากพัฒนาการ กทม. ถามถึงปการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น KBANK หรือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในรอบนี้ปรับตัวลงตามภาวะตลาดโดยรวมก็จริง แต่ราคาหุ้นก็ยังประคองตัวไม่ให้อ่อนตัวลงไปต่ำกว่าระดับ 180 บาท(แม้จะส่อแววหลุดลงไปลึกกว่าที่เป็นอยู่ในเร็วๆ นี้ก็ตาม) ตัวดิฉันถึงอยากจะซื้อหุ้นตัวนี้เก็บไว้ในพอร์ต เพราะในอดีตก็เคยซื้อหุ้นได้ในราคาถูกกว่าที่เป็นอยู่ค่อนข้างเยอะ จึงอยากรู้ว่า ควรเข้าไปรับหุ้นบริเวณไหนถึงจะเหมาะสม และปลอดภัยสำหรับเงินเย็นที่สามารถลงทุนในตลาดหุ้นได้ในระยะเวลา 1 ปีเป็นอย่างต่ำ

 

อาจารย์รู้สึกว่า คุณอรวี จะเป็นนักลงทุนประเภทมองโลกในแง่บวก ถึงมองการรีบาวนด์ของหุ้นหลังจากปรับตัวลงหนักติดต่อกันหลายวันเป็นโอกาสของการลงทุน ทั้งๆ ที่สถานการณ์รอบด้านหลายอย่างไม่มีอะไรมายืนยันความผันผวนของตลาดหุ้นไทยได้ผ่านพ้นไปแล้ว

ถึงกระนั้นตัวอาจารย์ก็ค่อนข้างดีใจที่ คุณอรวี เป็นนักลงทุนประเภทลงทุนระยะยาว จึงไม่มีอะไรต้องวิตกกังวลหากคิดจะเข้าซื้อหุ้นในช่วงที่อ่อนตัวลงแรง เพราะข้อมูลในอดีตยืนยันตรงกันว่า เมื่อทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพปกติ ราคาหุ้นจะดีดตัวขึ้นไปหายอดสูงสุดครั้งก่อนเสมอ

โดยเฉพาะในหุ้นพื้นฐานดี อนาคตสดใส และเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง มักดีดตัวกลับขึ้นไปยืนในระดับ 2 เท่าของมูลค่าทางบัญชีเป็นประจำ และทำให้นักลงทุนขาประจำหวนกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นเหล่านั้นเป็นระยะ เพราะรู้ดีว่า ทิศทางของหุ้นหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั่นเอง

สิ่งที่ผมอยากจะเตือน คุณอรวี มีเพียงเรื่องเดียวก็คือ การลงทุนนับจากนี้ตจะมีความเสี่ยงเกี่ยวข้องการเคลื่อนย้ายเงินทุนมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังถูกกดดันจากปัจจัยลบใหม่ๆ ที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ส่งผลให้การเข้าลงทุนแบบระยะสั้นๆ น่าจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า

นั่นหมายความว่า ราคาหุ้น KBANK หรือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ที่เห็น ณ ตอนนี้ ยังไม่ใช่ราคาต่ำสุดที่นักลงทุนควรจะเข้าไปซื้อ และที่เห็นราคาหุ้นไม่ยอมอ่อนตัวลงไปต่ำกว่าระดับ 180 บาท น่าจะเป็นผลมาจากการเล่นข่าวผลประกอบการไตรมาส 1 จะออกมาดี จึงมีแรงซื้อไหลเข้ามาในหุ้นเป็นจำนวนมาก

ในทางกลับกันหากสังเกตการยื้อไปมาระหว่างแรงเทขายกับแรงซื้อจะพบว่า แรงซื้อมีน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด และการยืนปิดบวกน่าจะเป็นเพียงการประคองตัว โอกาสที่นักลงทุนกลุ่มต่างๆ จะเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมีมากเหลือเกิน

ฉะนั้นทางเลือกที่ดีสุดก็คือ แบ่งเงินลงทุนออกมาเป็น 3 ก้อน โดยก้อนแรกรอช้อนซื้อหุ้น KBANK ในช่วงที่อ่อนตัวลงมาใกล้บริเวณแนวรับ 180 บาท ส่วนเงินก้อนที่สอง ให้ทยอยซื้อหุ้นในช่วงที่ดัชนีอ่อนตัวลงมาใกล้ 170 บาท และเงินก้อนที่สามให้ถือไว้จนตัว คุณอรวี เห็นว่าราคาถูกสุดๆ จึงเข้าซื้อหุ้นเพื่อถัวเฉลี่ยนะครับ

นี่เป็นแนวทางคร่าวๆ ที่อยากให้นักลงทุนที่ติดตามข่าวสารตลาดหุ้นตลอดเวลา ลองไปศึกษาเพื่อประกอบการลงทุนในอนาคต

โดยเฉพาะนักลงทุนประเภทเงินเย็นสุดๆ ควรหาลู่ทางเข้ามาลงทุนในช่วงที่หุ้น KBANK เริ่มอ่อนตัวลงมายังบริเวณแนวรับสำคัญได้แล้ว เพราะโอกาสทองแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ

 

กราฟประกอบคอลัมน์ : Aspen, ราคาปิด ณ วันที่ 11 มี.ค.60

Back to top button