BWG กำไรมาเร็ว ราคาล่าช้า
วันศุกร์ที่ผ่านมา บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG แจ้งว่าบริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (ETC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ดำเนินโครงการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ากำลังผลิต 9.4 เมกะวัตต์ (MW) จากสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตราย ได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มีนาคมเป็นต้นไปแล้ว
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
วันศุกร์ที่ผ่านมา บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG แจ้งว่าบริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (ETC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ดำเนินโครงการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ากำลังผลิต 9.4 เมกะวัตต์ (MW) จากสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตราย ได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มีนาคมเป็นต้นไปแล้ว
โครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย จ.สระบุรี
การจ่ายไฟฟ้า เข้าระบบคือการเริ่มบันทึกรายได้เข้างบการเงินในเดือนมีนาคม ซึ่งถือว่าเป็นรายได้เสริมที่มีนัยสำคัญอย่างมากสำหรับบริษัทขนาดเล็กอย่าง BWG
สำหรับขาประจำที่ติดตามหุ้นอย่าง BWG เป็นต้นมา การจ่ายไฟฟ้าดังกล่าวมีความหมายและสะท้อนความสามารถของ BWG ในการเพิ่มรายได้อย่างมีนัยสำคัญ
ดังที่ทราบกันดี BWG มีธุรกิจหลักคือกำจัดกากอุตสาหกรรม ในนิคมอุตสาหกรรมที่แก่งคอย สระบุรี มานานแล้ว และมีกำไรสวยงามมาอย่างต่อเนื่อง อัตรากำไรสุทธิระดับใน 2 ปีหลังก้าวกระโดดมาเหนือระดับ 18.00% ดีกว่าระยะแรกมาก แต่ยังขาดธุรกิจจะต่อยอดสู่อนาคต
ปีที่ผ่านมา BWG มองเห็นโอกาสที่กระทรวงพลังงานเปิดช่องให้ จากการเปิดประมูลโรงไฟฟ้าที่ใช้ขยะอุตสาหกรรมเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งเท่ากับทำให้กระบวนการกำจัดขยะที่ต้องปล่อยทิ้งอยู่เดิม สร้างรายได้ใหม่เพิ่มเติมทางลัด เนื่องจากไม่ต้องสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ แค่ติดตั้งเครื่องปั่นไฟฟ้าเพิ่มในโรงกำจัดกากอุตสาหกรรมเดิมอยู่แล้ว
การยื่นขออนุญาตผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมของ BWG ได้ผลลัพธ์เกินคาดเพราะขออนุญาตไปแค่ 9.0 เมกะวัตต์ แต่สามารถได้รับ “โบนัส” เพิ่มเติมเป็น 14 เมกะวัตต์
ที่สำคัญกว่านั้น การไม่ต้องสร้างโรงงานไฟฟ้าใหม่ ทำให้สามารถส่งมอบหรือจ่ายไฟฟ้าได้เร็วกว่ารายอื่นๆ สามารถใช้เวลาแค่ 6 เดือนก็สามารถสร้างรายได้ใหม่แล้ว
หากดูจากงบการเงินสิ้นปี 2559 BWG มีกำไรสุทธิเติบโต 14% และหากไม่รวมรายได้ใหม่ นักวิเคราะห์ก็คาดเดาว่าปี 2560 จะมีกำไรสุทธิเติบโตอีก 15% จะยังคงเป็น “วัวให้น้ำนมทองคำ” ต่อไป
เหตุผลหลักที่ธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมยังไปได้สวยคือ มีกากอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากฐานลูกค้ารายใหม่ที่เข้ามาต่อเนื่อง และยังรับอานิสงส์เพิ่มเติมแบบ “บุญหล่นทับ” จากกฎกระทรวง อุตสาหกรรม เรื่องการไม่ต่อใบอนุญาต รง.4 ให้กับผู้ที่ไม่กำจัดกากฯอย่างเป็นระบบ เป็นตัวเร่งให้มีวัตถุดิบมาเข้าโรงงานเพิ่ม
ของเก่ายังเดินหน้าไปได้สวย ดังนั้นการมีรายได้ใหม่ เพิ่มโดยตรงจากการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมแห่งแรกของบริษัท กำลังการผลิต 9.4 MW ที่มีต้นทุนต่ำกว่ารายอื่นๆ ภายในไตรมาสแรก 2560 นี้เลย (แม้ได้ไม่เต็มไตรมาส) ก็เป็นจุดเด่นที่เสริมเข้ามา
มีนักวิเคราะห์ประเมินว่า บริษัทย่อยของ BWG จะสามารถทำกำไรได้ราว 80-90 ล้านบาท/ปี (นับจากรายได้เต็มปี) ทำให้รายได้และกำไรเดิมของ BWG พุ่งทะยานเกินคาดไปได้ตั้งแต่ปี 2560 นี้เลย
ส่วนในปี 2561 ก็คงจะเพิ่มโอกาสทำกำไรต่อยอดไปอีกจากการนับรายได้และกำไรรวมโรงไฟฟ้าแห่งสองที่ขนาดเล็กกว่า ที่คาดจะสามารถ COD ได้ช่วง กลางปีดังกล่าว
ของดีในปัจจุบัน และจะดีกว่าเดิมในอนาคต แต่ราคาหุ้นล่าสุดต่ำเตี้ยแค่ 2.10 บาท ที่พี/อี 24 เท่า บอกได้แค่ว่า BWG เป็นบริษัทดี แต่ราคาหุ้นแย่
ในยามที่ตลาดหุ้นซึมยาวเดือนนี้ พูดอย่างนี้ อาจจะเข้าข่าย “พาคนไปตาย” ได้ แต่หากประเมินอนาคต ที่คาดว่าอัตรากำไรสุทธิล่าสุด ยังสามารถขึ้นไปต่อได้อีกเหนือ 20% ทำให้หากดูแค่พื้นฐานไม่ต้องมองสภาพตลาดที่เป็นมายาบังตาอยู่ จะเห็นว่า ยังมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะวิ่งขึ้น มากกว่าวิ่งลง
ราคายังต่ำที่ 2.10 บาท แต่นักวิเคราะห์ประเมินว่า กำไร 2560 นี้ จะเติบโตสูง 21% เป็น 425 ล้านบาท จากกำไรสุทธิปี 2559 ที่ 351 ล้านบาท… จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ต้องชำเลือง
ของพรรค์นี้ ไม่มีใครบอก ก็อาจจะรู้ได้
บอกแล้วรีบเชื่อ ก็อาจเสียค่าโง่
แต่ถ้าบอกแล้ว ไม่ยอมรับรู้ ก็อาจจะเสียโอกาส … แล้วมาบ่นทีหลังทำนอง…. รู้งี้!!!!!
ถึงตอนนั้น อะไรก็สายเกิน
พูดอะไร…. ก็ไลฟบอยล์….เพราะราคาอาจจะวิ่งแซงกำไรน่ะสิจ๊ะ. ไม่ใช่กำไรแซงราคาอย่างตอนนี้
“อิ อิ อิ”