เคาะสั้นๆโมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในแต่ละวันเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง บางวันก็ปรับตัวขึ้นแรง บางวันก็ซึมกะทือ บางวันมีแต่เรื่องร้ายๆ บางวันก็มีแต่ข่าวลือ ที่แย่สุดๆ ก็คือ บางวันมูลค่าการซื้อขายลดลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นความไม่มั่นใจในการลงทุน ผู้เล่นบางกลุ่มถึงเลือกอยู่เฉยๆ เพื่อรอดูสถานการณ์รอบด้านก่อนเข้ามาตะลุมบอนรอบใหม่ไงหละจ๊ะ


 *สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในแต่ละวันเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง บางวันก็ปรับตัวขึ้นแรง บางวันก็ซึมกะทือ บางวันมีแต่เรื่องร้ายๆ บางวันก็มีแต่ข่าวลือ ที่แย่สุดๆ ก็คือ บางวันมูลค่าการซื้อขายลดลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นความไม่มั่นใจในการลงทุน ผู้เล่นบางกลุ่มถึงเลือกอยู่เฉยๆ เพื่อรอดูสถานการณ์รอบด้านก่อนเข้ามาตะลุมบอนรอบใหม่ไงหละจ๊ะ

*แม้บรรยากาศการลงทุนจะไม่เป็นใจให้เล่นกันสุดตัว แต่ดัชนียังพยายามทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,550 จุดอย่างไม่ลดละ เมื่อวันศุกร์ถึงเห็นดัชนีวิ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,537.97 จุด ก่อนจะโดนถล่มอย่างหนักในช่วงบ่ายแก่ๆ จนดัชนีลงมาทำ low ที่ระดับ 1,530.63 จุด แต่สุดท้ายตีกลับขึ้นมาปิดที่ 1,536.05 จุด บวกไป 3.82 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.40 หมื่นล้านบาท ถือเป็นสถานการณ์ที่ทุกคนพอรู้อยู่เลาๆ เจ้าค่ะ

*เหมือนอย่างที่เล่าให้ฟังเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ต้องเล่นแบบเพลย์เซฟ ได้กำไรนิดๆ หน่อยๆ ต้องหาจังหวะออกของให้ได้ ไซเคิลของหุ้นช่วยได้ 50% ส่วนที่เหลืออีก 50% เป็นเรื่องของกระแส หากทั้ง 2 ตัวแปรไปในทิศทางเดียวกัน “โมนิก้า” รับรองฉลุยล้านเปอร์เซ็นต์ แต่ในยุคนี้ สมัยนี้ ทุกอย่างชอบสวนทางกันเป็นประจำ อาการของหุ้นแต่ละตัวถึงเหมือนคนวัยทองพะยะค่ะ

*ขนาดหุ้นดาวเด่นอย่าง JAS ADVANC TRUE มีสตอรี่ที่ค่อนข้างสวยหรู กรอบการเคลื่อนตัวค่อนข้างแน่นอน บวกกับมีแรงเชียร์ให้เล่นออกมาเป็นระยะ สุดท้ายก็แค่ทำให้อยากแล้วจากไป ปล่อยให้คนเข้าเล่นอารมณ์ค้างไปตามกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมเดี๊ยนเข้าไปด้วยอีกหนึ่งคน “โมนิก้า” ถึงไม่อยากนักเล่นพลิ้วไหวไปตามสถานการณ์ลงทุนแต่ละวัน หากพลิ้วไม่ออกจริงๆ ก็ต้องทำใจเหมือนกับเดี๊ยนในตอนนี้แหละ!

*เม้าท์ถึงเรื่องพริ้วๆ “โมนิก้า” มักหันมามองหุ้นเก็งกำไรยอดนิยมขึ้นมาทันที และตัวเด่นๆ ที่กระชากขึ้นมาเรียกเสียงฮือฮาในเที่ยวนี้กลายเป็นพระเอกตัวจริง AJD หลังจากย่ำฐานเพื่อเสริมความแข็งของแนวรับ 1 บาท ได้ประมาณ  2 สัปดาห์ ในที่สุดก็มีแรงซื้อเข้ามาไล่ราคากันอย่างคึกคัก จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.18 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 11% ด้วยมูลค่า 500 ล้านบาท เหมือนเป็นการเริ่มต้นของการเล่นรอบใหม่เลยนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของน้องแม็ก MAX ว่ากันว่า สาเหตุที่หุ้นโดนถล่มอย่างหนักหน่วง จนหุ้นลงไปกองอยู่ที่ 0.19-0.20 บาท ล้วนมาจากฝีมือกลุ่มทุนเก่าที่มีต้นทุนค่อนข้างต่ำ บวกกับมีข่าวเล็ดลอดออกมาจากพรายกระซิบในทำนองที่ว่า ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หุ้นเลยวิ่งขึ้นมาปิดที่ 0.28 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 21% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ระดับ 100 ล้านบาท มันน่าจะตามไปดูสักไม้สองไม้นะคะ

*เหมือนกับในรายของ BIG กระชากขึ้นอย่างร้อนแรง หลังจากนอนสลบเหมือดเป็นเวลานาน ล่าสุดวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.15  บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไป 10.60%  ด้วยมูลค่า 95 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งช้อยท์ในการลงทุนของแมงเม่า งานนี้หากไม่คิดอะไรมาก เอาแบบขำๆ สนุกๆ ก่อนเล่นน้ำสงกรานต์ บวกกับเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเล่นหุ้นบลูชิพ กระโจนเข้าใส่ได้ทันทีเจ้าค่ะ

 *กรณีนี้เหมือนกับการเคาะหุ้น EIC ในช่วง 2 วันที่ผ่านมานั้นแหล่ะ!  ถามว่า หุ้นตัวนี้มีอะไรดีเป็นพิเศษหรือเปล่า? เดี๊ยนตอบได้ทันทีว่า เหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีอะไรทำให้รู้สึกตื่นเต้นจนเนื้อสั่น ยิ่งเห็นหุ้นทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 2.28 บาท แต่ทำไปทำมากลับอ่อนตัวลงมาปิดที่ 2.06 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 15% ด้วยมูลค่า 125 ล้านบาท พร้อมกับเปิดแก๊ปไว้กว้างมากๆ มันเป็นจังหวะวัดใจผู้กล้าอย่างแท้จริง พวกใจเสาะกรุณาถอยออกไปให้ห่างๆ นะจะบอกให้

*ส่วนหุ้นที่ทำให้ “โมนิก้า” ของขึ้นในทันทีกลับเป็นในรายของ CYBER จู่ๆ กระชากขึ้นอย่างไม่ลืมหูลืมตา ย่อมทำให้เหล่านักเล่นรู้สึกสงสัยในเรื่องดังกล่าวมากขึ้น และยังทำให้คนวงนอกมองเรื่องนี้เป็นการสร้างกระแสนั้น “โมนิก้า” ขอเรียนตามตรงว่า ปัญหาทุกอย่างน่าจะเคลียร์กันหมดแล้ว และแผนโรงไฟฟ้ากำลังเดินหน้าตามโรดแมป การที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.72 บาท บวกไป 0.34 บาท หรือขึ้นไป 14% ด้วยมูลค่า 700 ล้านบาท ควรจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับนักโหนกระแสไม่ใช่เหรอ!

*เช่นเดียวกับในรายของ UBIS ถือเป็นของเล่นชิ้นใหม่สำหรับพวกเขี้ยวลากดิน โปรไฟล์ของหุ้นยังไม่มีอะไรแปลกใหม่ ธุรกิจยางยาแนวฝากระป๋อง และแลคเกอร์เคลือบกระป๋อง ยังเป็นธุรกิจที่ไปได้เรื่อยๆ ไม่มีอะไรหวือหวา จนถึงขนาดที่ทำให้คนถือหุ้นต้องอ้าปากค้าง บวกกับปูมหลังของหุ้นในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่า ทุกปียกฐานขึ้นแรงเป็นประจำ แต่เป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆ จึงฝากเตือนพวกชอบเคาะขวาสุดตัวว่า ราคาปิดที่ 10.10 บาท บวกไป 2.30 บาท หรือขึ้นไป 29.50%  อาจเหลือแก๊ปให้เล่นไม่มากหรือเปล่า..อิอิอิ

Back to top button