ขยับทีละขั้น
*ผลสำรวจล่าสุดจากนักวิเคราะห์สำนักต่างๆ พูดตรงกันว่า การทะยานขึ้นของดัชนีเที่ยวนี้เป็นแบบ V-shape ค่อนข้างชัดเจนก็จริง แต่อย่าลืมว่า จังหวะการขยับขึ้นต้องว่ากันช็อตต่อช็อต ดูสถานการณ์ของตลาดหุ้นแต่ละวันออกไปในโทนไหน เพราะจะเป็นตัวชี้นำการเคลื่อนไหวของดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ จึงต้องเข้าใจรูปแบบการเล่นเที่ยวนี้มากเป็นพิเศษนะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ผลสำรวจล่าสุดจากนักวิเคราะห์สำนักต่างๆ พูดตรงกันว่า การทะยานขึ้นของดัชนีเที่ยวนี้เป็นแบบ V-shape ค่อนข้างชัดเจนก็จริง แต่อย่าลืมว่า จังหวะการขยับขึ้นต้องว่ากันช็อตต่อช็อต ดูสถานการณ์ของตลาดหุ้นแต่ละวันออกไปในโทนไหน เพราะจะเป็นตัวชี้นำการเคลื่อนไหวของดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ จึงต้องเข้าใจรูปแบบการเล่นเที่ยวนี้มากเป็นพิเศษนะจะบอกให้
*ประเด็นดังกล่าวดูได้จากการขยับขึ้นของดัชนีกว่า 30 จุด หลังธนาคารกลางสหรัฐประกาศขึ้นดอกเบี้ย เหมือนเป็นการสะท้อนภาพให้เห็นว่า ตลาดหุ้นถูกปลดล็อกชั่วคราว ส่งผลให้กองทุนตัวแสบเข้ามาซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนฝรั่งตาน้ำข้าวก็เอาเงินที่พักไว้ในตลาดตราสารหนี้กลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอีกรอบ ภาพของการลงทุนถึงดูไม่แน่นอนเอาเสียเลยไงล่ะจ๊ะ
*นอกจากนี้อย่าลืมว่า การที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,568.78 จุด บวกไป 5.24 จุด ด้วยมูลค่า 3.56 หมื่นล้านบาท กำลังเป็นการไต่เพดานขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,580 จุด ซึ่งเป็นเหตุการณ์เดิมๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ส่วนครั้งนี้จะสำเร็จเหมือนก่อนหน้านี้ไหม? คงต้องติดตามดูกันต่อไปเรื่อยๆ แถมองค์ประกอบหลายอย่างไม่ค่อยเอื้อเท่าที่ควร จึงต้องระวังแรงเทขายทำกำไรเมื่อดัชนีเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับดังกล่าวนะจ๊ะ
*คนที่สบายใจเฉิบสุดๆ ในเที่ยวนี้กลายเป็น PTT กระชากขึ้นมาปิดที่ 406 บาท บวกไป 4 บาท ด้วยมูลค่า 1.63 พันล้านบาท มันเป็นช็อตของการทยอยเก็บเพื่อการลงทุนระยะยาว “โมนิก้า” ถึงไม่จำเป็นต้องย้ำอะไรให้มากความ เพราะแค่รู้ว่า หากบริษัทลูกแต่งตัวเข้าตลาดหุ้นได้มากเท่าไหร่ แวลูของหุ้นแม่จะเพิ่มขึ้นมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งในปี 60 จะมีทั้งลูก และหลานเข้าตลาดหุ้น จึงกลายเป็นหุ้นที่แจ่มสุดๆ ไงล่ะค่ะ
*เหมือนกับในรายของ PTTGC ทุกคนรู้กันเป็นอย่างดีว่า ทุกอย่างดำเนินไปอย่างสวยหรู ตัวเลขกำไรก็มาตามนัด บวกกับเตรียมดันบริษัทลูกเข้าตลาดหุ้นแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เห็นขาประจำเข้ามาช้อนซื้อหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมา วานนี้หุ้นถึงเด้งขึ้นมาปิดที่ 72.25 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่า 920 ล้านบาท เพราะของเขาดี ใครก็อยากเป็นเจ้าของ เที่ยวนี้ถึงต้องมองยอดเดิมแถว 74.50 บาทนะจ๊ะ
*อีกหนึ่งรายที่ต้องเม้าท์ถึงเป็นพิเศษกลายเป็น KTB ก็เป็นผลมาจากโปรไฟล์ในปี 60 ค่อนข้างเลิศ บวกกับเพิ่งประกาศจ่ายปันผล 0.86 บาทต่อหุ้น กลายเป็นตัวแปรที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกสนใจหุ้นตัวนี้มากขึ้นในทันที บวกกับตามหน้าเสื่อถูกปูให้เป็นตัวท็อปในกลุ่มแบงก์ จึงต้องเล่นตามน้ำแบบไม่มีเงื่อนไข ขืนมีการตั้งเงื่อนไขมากมายก่ายกอง รับรองพลาดโอกาสทำกำไรสั้นๆ นะจะบอกให้
*เช่นเดียวกับในรายของ BWG กระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.24 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่า 450 ล้านบาท น่าจะเป็นช็อตที่มีเจ้าภาพเข้ามาจุดพลุให้เล่นกันอีกรอบ สถานการณ์ทุกอย่างถึงดูดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา “โมนิก้า” ถึงพยายามเชียร์ให้นักลงทุนรู้จักโหนกระแสในจังหวะนี้ เพราะรูปแบบการเล่นในเที่ยวนี้ ไม่มียึดติดกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่งนะคะ
*คล้ายคลึงกับกรณีของ SUPER เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง หลังมีแรงซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.39 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 10.30% ด้วยมูลค่า 330 ล้านบาท พร้อมกับปรากฏแท่งเทียนสีเขียวยาวเหยียด “โมนิก้า” มองมันเป็นแพทเทิร์นเดิมๆ ที่เวียนมาบรรจบอีกรอบ พร้อมกับเกิดความหวังขึ้นมาในทันทีว่า หากผ่าน 1.45 บาทขึ้นไปได้ ก็จะไปถึงระดับ 1.60 บาทนะจ๊ะ
*ช็อตดังกล่าวคล้ายคลึงกับ LST พุ่งขึ้นมาปิดที่ 5.85 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 6.40% ด้วยมูลค่า 200 ล้านบาท น่าจะเป็นการเซ็ทหุ้นรอบใหม่ ซึ่งเป็นจังหวะของการตามไปดู เพื่อลุ้นทำกำไรเป็นรอบ บวกกับหุ้นเด้งขึ้นมาปิดราคาสูงสุดของวัน ตามสัญญาณเทคนิคเขาตีความได้ว่า หุ้นไปต่อ! เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นตามไปเคาะขวาเบาๆ เพื่อความบันเทิงเริงใจเจ้าค่ะ
*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอย้อนกลับไปดูหุ้น EARTH หลังพรายกระซิบเล่าถึงพัฒนาการที่สำคัญกำลังจะเกิดขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ผสมผสานกับเป้าหมายของ “เฮียขจรพงศ์” ใกล้ความเป็นจริงขึ้นมาเรื่อยๆ จึงอยากให้แฟนคลับหันมามองหุ้นในจังหวะที่ยังขยับขึ้นไปได้ไม่ไกล เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า รอบนี้ใครเก็บของต้นทุนต่ำได้ก่อน รับรองแฮปปี้อย่างแน่นอนเจ้าค่ะ
*ส่วนในรายที่ถูกชาวบ้านด่ากันให้ขรม “โมนิก้า” คงโฟกัสไปที่หุ้น EFORL หลังประกาศขายหุ้น “วุฒิศักดิ์” ทั้งที่ก่อนหน้านี้คุยโม้ไว้เยอะว่า ดีลซื้อบริษัทเสริมความสวยความงามจะหนุนให้บริษัทโตขึ้นไปอีกระดับ พร้อมกับอธิบายเพิ่มเติมว่า การทุ่มเงินเป็นจำนวนมหาศาลคุ้มค่าอย่างแน่นอน พอมาถึงวันนี้ ทำไมถึงกลับตาลปัตรเป็นอีกเรื่องไปได้ เดี๊ยนถึงเชื่อว่า งานนี้ต้องมีรายการแฉเกิดขึ้นอีกพะยะค่ะ