กองทุนดันดัชนีโมนิก้าและทีมงาน
*วี้ด..ว้าย..กระตู้วู้ กันยกใหญ่ เมื่อจู่ๆ มีแรงซื้อจำนวนมหาศาลเข้ามาดันหุ้นบลูชิพ จนดัชนีกระชากขึ้นอย่างร้อนแรงตั้งแต่เปิดการซื้อขาย แถมแรงซื้อยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ดัชนีถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,549.53 จุด บวกไป 13.48 จุด ด้วยมูลค่า 3.20 หมื่นล้านบาท เท่ากับเป็นการตอกย้ำกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศได้กลายเป็นคนชี้นำตลาดหุ้นไทยอย่างเต็มตัวไปแล้วนะคะ
*วี้ด..ว้าย..กระตู้วู้ กันยกใหญ่ เมื่อจู่ๆ มีแรงซื้อจำนวนมหาศาลเข้ามาดันหุ้นบลูชิพ จนดัชนีกระชากขึ้นอย่างร้อนแรงตั้งแต่เปิดการซื้อขาย แถมแรงซื้อยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ดัชนีถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,549.53 จุด บวกไป 13.48 จุด ด้วยมูลค่า 3.20 หมื่นล้านบาท เท่ากับเป็นการตอกย้ำกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศได้กลายเป็นคนชี้นำตลาดหุ้นไทยอย่างเต็มตัวไปแล้วนะคะ
*ประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ปักใจเชื่อเช่นนั้นเป็นเพราะการแกว่งตัวขึ้นลงของดัชนีในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ล้วนเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับพฤติกรรมการซื้อขายหุ้นของกองทุน ผนวกกับคำพูดคำจาของผู้จัดการกองทุนเป็นลักษณะแทงกั๊กตลอดเวลา ก่อนจะมาเฉลยในภายหลังว่า “แอบเก็บหุ้น” ย่อมเป็นข้อมูลที่นักเล่นต้องทำความเข้าใจว่า “ในร้ายย่อมมีดี” นะจ๊ะ
*คิดดูแล้วกัน!..ก่อนหน้านี้ออกมาโขยกเรื่องเศรษฐกิจแย่กันปาวๆ เหตุไฉนกลับย้อนเข้ามาเก็บหุ้นกันหน้าสลอน นำทัพโดยกองทุนกวาดหุ้นเข้าไปอีก 2.96 พันล้านบาท รวมตั้งแต่ต้นเดือนเก็บเข้ามา 9.50 พันล้านบาท ตามมาห่างๆ ด้วยปอบผีฟ้า ทยอยเก็บเข้าพอร์ตอีก 665 ล้านบาท รวมตั้งแต่ต้นเดือนเก็บเข้ามา 4.20 พันล้านบาท ส่วนคนอื่นๆ เน้นหนักเทขายทำกำไร มันบอกอะไรให้รู้บ้าง ลองไปคิดด้วยนะตัวเอง
*เนื่องจากการเล่นในเที่ยวนี้วัดกันที่จังหวะเข้าทำของใครเจ๋งกว่ากัน “โมนิก้า” ถึงพยายามให้แฟนคลับคุมอารมณ์ให้อยู่ ถ้าคิดจะเล่น..ต้องใส่ทันที ถ้าไม่แน่ใจ..อย่าฝืดเป็นอันขาด เพราะเรื่องทั้งหมดที่กล่าวถึงเป็นเพียงแค่เกมการเงิน ซึ่งมีตัวเลขผลประกอบการเป็นแบ็คอัพที่สำคัญ บวกกับบรรดากองทุนหัวโจกมองตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 1 เป็นจุดต่ำสุด และจะเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ นับตั้งแต่ไตรมาส 2 จึงกระโจนซื้อหุ้นอย่างไม่คิดชีวิตไงหละคะ
*งานนี้ไม่ต้องการให้ทุกคนเชื่อตาม เพราะอยากให้ทุกคนคิดเป็น ต่อจากนั้นจะเห็นว่า ทุกเรื่องมีคำอธิบายในตัวของมันเอง ซึ่งเหมือนกับการทะยานขึ้นของ PTT จู่ๆ เด้งขึ้นมาปิดที่ 341 บาท บวกไป 11 บาท หรือขึ้นไป 3.33% ด้วยมูลค่า 2 พันล้านบาท ล้วนเป็นผลมาจากหุ้นลงมาถึงจุด Double Bottoms ที่บริเวณ 320 บาท บวกกับกระแสข่าวในช่วงหลังไม่มีอะไรเลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ จึงมีลุ้นเห็นหุ้นทำ Double Tops ที่บริเวณ 380 บาทพะยะค่ะ
*ส่วนในรายของ PTTGC ก็มีเค้าโครงเหมือนตัวแม่แบบนี้ “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงเยอะหน่อยแล้วกัน จุดต่ำสุด จุดสูงสุด ถอดแบบกันมันเป๊ะๆ บวกกับหุ้นเพิ่งขยับออกจากฐานราคาเป็นวันที่ 2 ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 56.75 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น เดี๊ยนถือเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องโหนกระแสให้ทัน ไม่เช่นนั้นจะเสียใจเจ้าค่ะ
*ประเด็นนี้เหมือนกับหุ้น CPF และCPALL ในเมื่อทุกอย่างลงมาถึงจุดต่ำสุด ก็ถึงเวลาตั้งต้นขึ้นกันใหม่เสียที แถมในมุมของนักเทคนิคมองจังหวะนี้เป็นเวลาของการ follow buy โดยกองทุนในประเทศเป็นตัวตั้งตัวตี “โมนิก้า” ย่อมเล็งเห็นหุ้นตัวนี้เป็นเป้าหมายลำดับแรก งานนี้ไม่ต้องเอาอะไรมาก แค่การขึ้นเที่ยวนี้ขยับต่อไปอีก 5% เดี๊ยนก็ชื่นใจแล้ว ล่าสุดตัวแม่ปิดที่ 23.20 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 3% ส่วนตัวลูกปิดที่ 42 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 4% มันตรงตามตำรานักบู๊ ไม่เล่นได้ไงตัวเอง
*ส่วนที่เป็นที่สุดของที่สุดในเที่ยวนี้คือ TRUE สุดยอดหุ้นสื่อสารที่มาแรงแห่งยุค ข้อมูลทุกอย่างล้วนเด็ดสะระตี่ อีกทั้งโพซิชั่นของหุ้นถูกวางให้เป็นตัวเลือกหัวแถวของกองทุน วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 13.20 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3% “โมนิก้า” ถึงมองว่า ในเมื่อคอนเซ็ปต์ออกมาในรูปนี้ จึงมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะขยับขึ้นอีก บวกกับรอบที่แล้วขึ้นไปถึง 15 บาท จึงเหลือแก๊ปให้เล่นอีกพอสมควรนะจ๊ะ
*อีกหนึ่งทางเลือกที่คุณๆ ท่านๆ เห็นกันอยู่ทุกวี่ทุกวันก็คือ IFEC สตอรี่ของหุ้นมีอะไรน่าสนใจเยอะแยะไปหมด บวกกับมีการจัดระเบียบกลุ่มผู้ถือใหญ่เสร็จสรรพ หลังจากนั้นทุกอย่างก็ดีขึ้นเป็นลำดับชั้น จากหุ้นที่รูดลงไปกองแถว 10.50 บาท ล่าสุดวิ่งขึ้นมาปิดที่ 14.10 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.44% สะท้อนถึงการไต่เพดานรอบใหม่กำลังเกิดขึ้น เป้าหมายเบื้องต้นรอบนี้อยู่ที่ high เดิม 18 บาทนะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ BMCL ทิ้งตัวลงมาแถว low เดิม 1.80 บาททีไร “โมนิก้า” เห็นมีแรงซื้อไหลกลับเข้ามาเป็นประจำ แถมกรอบการเคลื่อนตัว 2 รอบที่แล้วอยู่ในระดับ 1.80-2.30 บาท จึงเป็นโอกาสทองของเหล่านักเล่นมืออาชีพ ล่าสุดหุ้นปิดอยู่ที่ 2.02 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 4.44% มันเป็นจริงเหมือนกับที่อีเมี้ยนปากมากพูดไว้หรือไม่..วันนี้รู้ผลเจ้าค่ะ
*ส่วนที่รู้ผลแน่ๆ ว่า โดนใบเหลือง ก็หนีไม่พ้น SIMAT คอนเซ็ปต์ของหุ้นที่ใช้เป็นตัวเดินเรื่องอยู่ที่โปรเจ็กต์ใหญ่ยักษ์ แต่จนทุกวันนี้ยังไม่มีอะไรคลอดออกมาให้เป็นชิ้นเป็นอัน บวกกับในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการ “ลากขึ้น ลากลง” กันอย่างสนุกมือ จากหุ้นที่มีมูลค่าไม่เกิน 2 บาท วันดีคืนดีก็ค่อยๆ ไต่ระดับ จนสุดท้ายขึ้นไปถึง 12 บาท แต่หลังจากนั้นก็รูดลงมากองอยู่ที่ 5 บาท ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.40 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 20% มันน่าจะเข้าอีหรอบเดิมแล้วกระมั่ง..อิอิอิ
*ป.ล. วันนี้ใครถนัดหุ้นใหญ่ เล่นหุ้นใหญ่ คนถนัดเล่นหุ้นเล็ก ก็เล่นหุ้นเล็ก กองทุนเข้าหุ้นใหญ่เพื่อดันดัชนี คนมีหุ้นกลางถึงเล็กต้องจับกระแสกันเอาเองนะจะบอกให้